วันพุธ, เมษายน 17, 2024
หน้าแรกHighlightเลิกเหวี่ยงแหออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ขุนคลัง”เน้นเฉพาะกุล่ม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เลิกเหวี่ยงแหออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ขุนคลัง”เน้นเฉพาะกุล่ม

“ขุนคลัง” เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหม่เสร็จปลายมิ.ย. ส่งซิกเลิกเหวี่ยงแห มุ่งเน้นช่วยเฉพาะกลุ่ม คาดปัดตกคนละครึ่งเฟส 5 เหตุต้องใช้เงินสูง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจในระหว่างการประชุมร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปพิจารณามาตรการชุดใหม่ที่จะบรรเทาความเดือดร้อยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและราคาพลังงานพุ่งสูง โดยให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นมองว่าความจำเป็นในการใช้มาตรการเหวี่ยงแหลดลงไปแล้ว  เช่นมาตรการคนละครึ่ง เนื่องจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงไปมากแล้ว เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น รายได้ของประชาชนเริ่มกลับคืนมา ขณะที่รัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบประมาณที่จะนำมาใช้ เนื่องจากเงินกู้ที่จะนำมาลดผลกระทบให้กับประชาชนเหลืออีก  4 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้น

ดังนั้น จึงต้องค่อย ๆ ปรับมาตรการด้านการคลังให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่าจะเน้นการให้ความช่วยเหลือกับผู้เดือดร้อนเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นมากในขณะนี้

“ทุกประเทศก็ต้องดูรายได้ของรัฐบาลจะใช้จ่ายเหมือนเดิมไม่ได้ในภาวะปกติ แต่ในช่วงโควิดต้องช่วยเหลือกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาทมาใช้เพื่อเยียวยาผลกระทบให้ประชาชน ด้วยการเพิ่มกำลังซื้อ แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น กำลังซื้อเริ่มกลับเข้ามา ความจำเป็นตรงนี้ก็น้อยบลงไป ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ ซึ่งต้องกลับมาดูเรื่องของรายได้ ถ้าทำคนละครึ่งเฟส 5 ก็ต้องเพิ่มหลายจุด ถ้าเพิ่มคนละครึ่งก็ต้องไปเพิ่มบัตรคนจนอีก และใช้เงินเยอะ”นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ สิ่งที่นายสุพัฒนพงษ์ให้โจทย์มา คือเน้นความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม 2 เรื่อง คือทั้งผลกระทบจากโควิดและราคาพลังงานที่มาปนกันอยู่ในขณะนี้ซึ่งกระทบกับกำลังซื้อทั้ง 2 ประเด็น โดยเน้นความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เช่นให้โจทย์มาว่ากลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างจะช่วยต่อได้หรือไม่เพื่อลดค่าใข้จ่าย ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบเท่านั้น 

สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อสูงเกิดขึ้นกับทุกประเทศ ซึ่งบางประเทศไม่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชน แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เพราะเมื่อราคาสินค้าขึ้นไปแล้ว วันหนึ่งเมื่อดีมานด์เพิ่มขึ้นและซัพพลายก็จะเพิ่มขึ้นตาม ทำให้ราคาสินค้าปรับลดลงเอง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img