วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกHighlightGC เดินหน้าขยายธุรกิจ PVC มุ่งเป็นบริษัทชั้นนําในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

GC เดินหน้าขยายธุรกิจ PVC มุ่งเป็นบริษัทชั้นนําในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

GC เดินหน้าขยายธุรกิจ PVC ร่วมตั้ง AVT เพื่อเป็นบริษัทชั้นนําในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า GC ได้สนับสนุนการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) หรือ VNT กับ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จํากัด (AGC-TH) ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท เอจีซี วีนิไทย จํากัด (มหาชน) (AGC VINYTHAI PUBLIC COMPANY LIMITED หรือ AVT) โดยเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อขยายตลาดสู่ธุรกิจปลายน้ำและใกล้ชิดตลาดปลายทางมากยิ่งขึ้น ด้วยการต่อยอดธุรกิจโพลีไวนิลคลอไรด์ หรือ PVC ครบวงจร ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทใหม่ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และภายหลังการจัดสรรหุ้นใน AVT ส่งผลให้ GC มีสัดส่วนการถือหุ้นใน AVT ร้อยละ 27.32

การควบรวมกิจการในครั้งนี้ นับเป็นการพัฒนาธุรกิจที่สำคัญสนับสนุนให้ AVT ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ PVC และผลิตภัณฑ์ Chlor-Alkali ชั้นนําในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจปลายน้ำของ GC ซึ่งมีอัตราการเติบโตในระดับที่สูง และเป็นการเพิ่มมูลค่าในธุรกิจสายโอเลฟินส์ให้กับ GC ในการสนับสนุนการจัดหาวัตถุดิบให้แก่ AVT โดยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Re-Shaping เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ

AVT เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์พื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้คน สังคม ตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ และตั้งเป้าหมายในการเติบโตพร้อมขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ความต้องการ PVC และโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟมีการขยายตัวกว่าปีละ 4% นอกจากนี้ AVT มีแผนการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยปัจจุบัน AVT มีกำลังการผลิต PVC และโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟ อยู่ที่ 450,000 และ 720,000 ตันต่อปีตามลำดับ และมีแผนการลงทุนขยายกำลังการผลิต PVC และ โซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟเป็น 850,000 และ 940,000 ตันต่อปี ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2568

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img