วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกHighlightBANPU เร่งสปีดเพิ่มพอร์ตพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

BANPU เร่งสปีดเพิ่มพอร์ตพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Banpu Transformation) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายที่มุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดให้มากขึ้น

โดยได้จัดตั้ง บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัดขึ้นมาดำเนินการ ซึ่งกลุ่มบ้านปูมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพลังงานสะอาดเพิ่มมากกว่า 50% ในระหว่างปี 2564-2568

โดยมุ่งขยายการลงทุนใน 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วยประเทศไทย, อินโดนีเซีย, ลาว, เวียดนาม, สิงคโปร์, จีน, ญี่ปุ่น, มองโกเลีย, และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการปรับพอร์ตธุรกิจนั้นจะดำเนินการให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter

Concept of energy storage system. Renewable energy power plants – photovoltaics, wind turbine farm and battery container. 3d rendering.; Shutterstock ID 764274979; Purchase Order: –

สำหรับ “บ้านปู เน็กซ์” ปัจจุบันให้บริการธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีหลายด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ (Renewable Power Generation) ซึ่งปัจจุบันบ้านปูมีกำลังผลิตพลังงานสะอาดภายใต้การดำเนินงานของ “บ้านปู เน็กซ์” รวมทั้งสิ้น 906 เมกะวัตต์ ของกำลังการผลิตพลังงานรวมของบ้านปูทั้งหมดที่ 3,382 เมกะวัตต์ และยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาดให้ถึง 1,600 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตพลังงานรวม 6,100 เมกะวัตต์ ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า

ธุรกิจบริการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป โดยให้บริการด้านวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาหรือโซลาร์รูฟท็อป ที่บริการครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ การออกแบบระบบการเข้าติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร รวมถึงติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ ซึ่งปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2563 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าราว 249 เมกะวัตต์ โดยในปี 2564 คาดว่าจะขยายการลงทุนได้อีก 100 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะดำเนินการได้ตามเป้าหมาย 500 เมกะวัตต์ก่อนปี 2568

ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงงาน บ้านปู เน็กซ์ ได้เข้าถือหุ้นร้อยละ 47.68 ของบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ธุรกิจจัดเก็บพลังงานของสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในเมืองซูโจว (Suzhou) สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สามารถรองรับแผนการผลิตได้ 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งสำหรับกลุ่มที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย โดยมีเป้าหมายในปี 2568 เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 3 กิกะวัตต์ชั่วโมง

ธุรกิจยานพาหนะไฟฟ้า หรือ E-MOBILTY บริการยานยนต์ไฟฟ้าและขนส่งแบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Mobility as a service ที่มอบโซลูชันและบริการแบบ One stop service ปัจจุบันได้ขยายแท่นอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 2,500 แท่น และให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า 100 และล่าสุด บ้านปู เน็กซ์ ได้สนับสนุน บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด หรือ UMT เป็นสตาร์ทอัพไทยผู้ให้บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามูฟมี (MuvMi) ที่มีศักยภาพสูง

โดย บ้านปู เน็กซ์ และ UMT ร่วมผลักดันการใช้สมาร์ทโมบิลิตี้ เดินหน้าเพิ่มจำนวนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi เป็น 200 คัน และขยายจุดรับบริการเป็น 2,000 จุดภายในสิ้นปี 2564 ส่วนเรือ E-ferry sold 1 ลำ โดยเป้าหมายในปี 2568 เพิ่มแท่นอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเป็น 10,000 แท่น ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 5,500 คัน และ E-ferry sold เพิ่มเป็น 100 ลำ

นอกจากนี้ยังเร่งขยาย ธุรกิจพัฒนาชุมชนอัจฉริยะ หรือ SMART CITIES ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีพลังงานที่ล้ำสมัยสามารถสร้าง Ecosystem ด้านการใช้พลังงานสะอาดที่ครบวงจร ซึ่งในปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 5 โครงการจากเป้าหมายในปี 2568 จำนวน 9 โครงการ รวมถึงการดำเนินธุรกิจบริหารจัดการระบบการใช้พลังงาน ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบ และวิเคราะห์แนวทางในการลดต้นทุนด้านการใช้พลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของลูกค้าอย่างยั่งยืน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ด้านเทคโนโลยี และทีมวิศวกรเป็นผู้ดูแลในทุกขั้นตอน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดเวลาเกือบ 4 ทศวรรษของการดำเนินงาน หนึ่งในดีเอ็นเอที่แข็งแกร่งของบ้านปู คือ ความยืดหยุ่น (resilience) จึงรู้จักตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงทีเสมอ การเปลี่ยนผ่านของกลุ่มบ้านปูนั้นได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วยตอกย้ำโลกยุค Never Normal ว่าโลกของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาบ้านปูจึงต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและพร้อมเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวสู่เป้าหมายของความยั่งยืนทางธุรกิจ

การปรับพอร์ตธุรกิจนั้นกลุ่มบ้านปูให้ความสำคัญกับ 2 เรื่องหลักคือ การเพิ่มสัดส่วนพอร์ตโฟลิโอพลังงานที่สะอาดและฉลาดให้มากขึ้น และอีกหนึ่งมิติ คือ การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation ซึ่งกลุ่มบ้านปูได้ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 3 ปีผ่านหน่วยงาน DCOE ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้บ้านปูพร้อมแข่งขันในฐานะ ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) ด้วยความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (supply chain) ของการส่งมอบอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img