วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือมรสุมเข้าไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือมรสุมเข้าไทย

นายกฯกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่มีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่อง รวมทั้งให้เตรียมการทุกด้านพร้อมรับมือสถานการณ์ และการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยได้เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชน จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่มีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่อง รวมทั้งให้เตรียมการทุกด้านพร้อมรับมือสถานการณ์ และการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ  ขณะที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสภาพอากาศ พบว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศลาวและกัมพูชา ทำให้ไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นในวันที่ 27 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กอนช.ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทัน ดังนี้ (1) ภาคเหนือ จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) (2) ภาคกลาง จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอท่ายาง บ้านลาด และเมืองเพชรบุรี) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน และปราณบุรี) (3) ภาคอีสาน จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์) จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์) จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี และพิบูลมังสาหาร) (4) ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี) จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง และแกลง) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด และเขาสมิง) และ (5) ภาคใต้ จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ) จังหวัดระนอง (อำเภอกะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ) จังหวัดพังงา (อำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอกะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต) จังหวัดกระบี่ (อำเภอเกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลอง และอ่าวลึก) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน) จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า)

“นายกรัฐมนตรีย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทัน รวมถึงเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ที่สำคัญให้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์” นายอนุชา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img