ผอ.สถาบันวัคซีน แจงแอสตร้าฯ – ไทยลุยพัฒนาวัคซีนสู้เชื้อกลายพันธุ์ ครอบคลุมโควตาเดิม 65 ล้านโดส ด้านอย.โวยไม่มีประเทศไหนให้เอกชนฉีดวัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทย โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนนั้น ได้ผลอย่างดีในแต่ละรอบการผลิต ครั้งละ 2,000 ลิตร ทำได้ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งวัคซีนไปตรวจสอบคุณภาพยังห้องปฏิบัติการของแอสตร้าฯ ในสก็อตแลนด์และสหรัฐอเมริกา คาดว่าผลจะทยอยส่งกลับมาราวกลางเม.ย.นี้ จะสามารถส่งมอบวัคซีนให้ประเทศไทยล็อตแรกได้ตามแผนในต้นมิ.ย.นี้ 5-10 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนการกระจายวัคซีนของสธ.
นพ.นคร กล่าวด้วยว่า กรณีมีรายงานจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหราชอาณาจักร(MHRA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA) เกี่ยวกับกรณีภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าฯ โดย 2 หน่วยงานสรุปว่าเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก อัตรา 2-4 ต่อล้านการฉีด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสัมพันธ์กับการได้วัคซีน โดยมีข้อสังเกตว่าเกิดขึ้นหลังการฉีดเข็มที่ 1
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 หน่วยงานจะมีการเก็บข้อมูลต่อว่ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนแล้วหรือไม่ ในส่วนประเทศไทยเราก็ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ชะลอการฉีด เพราะนอกจากอัตราการเกิดลิ่มเลือดต่ำแล้ว ยังสัมพันธ์กับเชื้อชาติด้วย และวิถีชีวิตของประชาชนด้วย ซึ่งคนไทยและคนเอเชียเกิดโรคนี้ต่ำกว่ายุโรป องค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้แนะนำให้หยุดฉีด อย่างไรก็ตามวัคซีนของแอสตร้าฯ ที่จะใช้ในประเทศไทยก็ต้องมีฉลากเตือนเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามว่ามีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้พบเชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษที่ระบาดในกลุ่มก้อนสถานบันเทิง แต่ทำไมรัฐถึงไม่จัดหาวัคซีนสำหรับเชื้อกลายพันธุ์เลย เหตุใดจึงรอแค่วัคซีนตัวเดียว นพ.นคร กล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดโดยมองข้อมูลเพียงขณะนี้อย่างเดียวไม่ได้ ถ้าเราไปเจรจาวันนี้ กว่าจะได้รับวัคซีนก็ประมาณเดือนต.ค. หรือไตรมาส 4 ซึ่งธรรมชาติของวัคซีนมีการกลายพันธุ์ตลอด ดังนั้นเมื่อได้วัคซีนมาเดือนต.ค.เชื้ออาจจะมีการกลายพันธุ์อีก ก็จะเกิดคำถามแบบเดียวกันนี้มาอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือตอนนี้มีหน่วยงานต่างๆ ของไทย ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนรุ่น 2 สำหรับเชื้อกลายพันธุ์อยู่แล้ว
“รวมถึงบริษัทต่างๆ ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา รวมถึงแอสตร้าฯ ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนสำหรับเชื้อกลายพันธุ์ ซึ่งเราเองมีโควตาวัคซีนของแอสตร้าอยู่แล้ว 65 ล้านโดส เป็นแบบที่ผลิตไปด้วย ใช้ไปด้วย นั่นหมายความว่าหากแอสตร้าฯ พัฒนาวัคซีนรุ่น 2 สำหรับเชื้อกลายพันธุ์ได้แล้ว เราก็สามารถนำเอาโควตา 65 ล้านโดสนี้มาปรับการผลิตเป็นวัคซีนรุ่นสำหรับเชื้อกลายพันธุ์ได้เลย นี่คือข้อดีของการที่เรามีโรงงานผลิตเองในไทย” นพ.นคร กล่าว
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขอตอบอีกครั้งว่ากระทรวงสาธารณสุขหรือ อย. ไม่ได้มีการปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าและ บริการฉีดวัคซีน โควิด 19 โดยที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนมาติดต่อ อย.เพื่อขอนำ เข้าและขึ้นทะเบียน 14 ราย ในจำนวนนี้มีการมายื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับอย.เพียง 4 ราย
โดย 3 รายอย.ได้พิจารณาและอนุมัติการขึ้นทะเบียนไปแล้ว คือ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้าและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อีกราย คือ บารัตของอินเดียยังยื่นเอกสารไม่ครบ ส่วนอีก 10 รายไม่ได้มีการมายื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียน ซึ่งมีทั้งส่วนของโมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม หรือสปุตนิกไฟท์ ซึ่งที่ผ่านมาอย.ได้มีการชี้แจงอย่างน้อย 2 ครั้ง กับโรงพยาบาลเอกชน ภาคเอกชน รวมถึง สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมแล้วเกี่ยวกับขั้นตอนการนำเข้าวัคซีน เพื่อให้มีวัคซีนมาใช้ในประเทศจำนวนมาก ระบุทั่วโลกขณะนี้ฉีดวัคซีนโดยรัฐ ยังไม่มีที่ไหนให้เอกชนดำเนินการเนื่องจากเป็นการฉีดวัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน.
