วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกHighlightตอบข้อสงสัย“หลังฉีดวัคซีน COVID-19”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ตอบข้อสงสัย“หลังฉีดวัคซีน COVID-19”

”หมอศิริราช” ชี้วัคซีน AstraZeneca และ Sinovac มีประสิทธิภาพดีไม่ต่างกัน และสามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงหลังจากฉีดได้ พร้อมแนะนำให้ฉีดโดยเร็วที่สุด

เฟซบุ๊กโรงพยาบาลศิริราช sirirajpr ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวลักษณะอาการหลังฉีดวัคซีน COVID-19  ของ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิกและอาจารย์สาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

การฉีดวัคซีน COVID-19

ในประเทศไทยมีวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca และ Sinovac ซึ่งทั้ง 2 วัคซีนมีประสิทธิภาพดีไม่ต่างกัน แต่สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงหลังจากฉีดได้เป็น 2 กรณี ดังนี้

1.อาการที่สามารถคาดเดาได้ เช่น ปวดบวม แดงร้อนบริเวณที่ฉีด ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ส่วนน้อยบางราย มีอาการไข้สูง ต้องนอนพัก 2-3 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ส่งผลรุนแรงต่อร่างกาย เมื่อมีอาการ สามารถกินยาลดไข้ได้ตามปกติ

2.อาการที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เช่น อาการแพ้วัคซีน พบได้น้อยมาก มีทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรง ส่วนอาการที่แพ้รุนแรง ซึ่งมักจะพบได้ภายใน 30 นาที หลังฉีดวัคซีน เช่น หน้ามืด เป็นลม ใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มีผื่น ผื่นลมพิษ หน้าบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน อาการเหล่านี้จะรุนแรงมาก หากเกิดหลังจากการฉีดวัคซีน 30 นาท

ดังนั้นควรสังเกตอาการหลังจากการฉีดวัคซีน COVID-19 ภายใน 30 นาที ในสถานพยาบาลที่ท่านรับการฉีด ซึ่งหากมีอาการแพ้เกิดขึ้น ก็สามารถทำการฉีดยาแก้แพ้ และให้การรักษาได้ทันที

หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว ควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน ซึ่งหากเกิดอาการหลังได้รับวัคซีนมากกว่า 30 นาที  อาการมักไม่รุนแรง แต่จำเป็นต้องบันทึกความผิดปกติทุกอย่างที่พบหลังจากการฉีดวัคซีนลงใน Application หมอพร้อม

ผู้ที่มีประวัติการแพ้ สามารถฉีดวัคซีน COVID-19 ได้หรือไม่?

ไม่ว่าจะมีประวัติแพ้อะไรก็ตาม แต่ไม่ได้แพ้วัคซีน COVID-19 สามารถฉีดวัคซีน COVID-19 ได้ตามปกติ หลังจากที่ฉีดวัคซีนแล้ว ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้รุนแรงในอดีต ก็สามารถมีอาการแพ้วัคซีน COVID-19 มากกว่าคนที่ไม่มีประวัติแพ้ต่างๆมาก่อน แต่ก็ไม่จำเป็นว่าผู้ที่มีประวัติแพ้ต่าง ๆ จะแพ้วัคซีน COVID-19

ในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ต่าง ๆ สามารถกินยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ง่วงนอน 30 นาที-1 ชั่วโมง ก่อนการรับวัคซีน COVID-19 ก็จะสามารถบรรเทาอาการแพ้เล็กน้อยไปได้

ส่วนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หากติดเชื้อ COVID-19 แล้ว มักจะมีอาการรุนแรง ดังนั้นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ควรได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 และควรปรึกษาจากแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด

cr /www..thaigov.go.th

ผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีน COVID-19 ได้หรือไม่ ?

ผู้หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ COVID-19 และมีอาการรุนแรง แต่ในปัจจุบันยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน COVID-19 ในหญิงตั้งครรภ์ ยกเว้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง อาจจะพิจารณาเป็นรายบุคคล โดยวัคซีนบางตัวมีความปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์ แต่สำหรับวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยยังต้องการข้อมูลความปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์เพิ่มเติมก่อนที่จะอนุมัติให้ใช้ทั่วไป

กระทรวงสาธารณสุข

สุดท้ายนี้ หากท่านมีโอกาสได้รับวัคซีน COVID-19 ขอแนะนำให้รีบไปรับการฉีดวัคซีน COVID-19 เร็วที่สุด หากเราได้รับวัคซีน COVID-19 ครบแล้ว จะป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อ COVID-19 ได้และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่หลังจากฉีดวัคซีน COVID-19 แล้ว ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เพราะอาจจะมีการติดเชื้อ แบบไม่มีอาการ และไม่รุนแรงเกิดขึ้นได้ จนกว่าจำนวนประชากรในประเทศไทยจำนวนมาก หรือเกือบทั้งหมด จะได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 แล้ว เราถึงจะถอดหน้ากากพร้อมๆ กันได้

วัคซีน COVID-19 กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดพร้อมกันได้หรือไม่ หรือควรฉีดอะไรก่อน ?

ไม่ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่กับวัคซีน COVID-19 พร้อมกัน แนะนำควรฉีดห่างกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ หากสามารถเลือกฉีดวัคซีน COVID-19 ได้ก่อน ควรเลือกฉีดวัคซีน COVID-19 เป็นอย่างแรก หรือหากยังไม่สามารถได้รับวัคซีนในเร็วๆ นี้ แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปก่อน

ผู้ที่เคยเป็น COVID-19 ยังต้องฉีดวัคซีนอีกหรือไม่

ควรฉีดวัคซีน COVID-19 หลังจากหายป่วยจาก COVID-19 แล้วอย่างน้อย 3-6 เดือน และฉีดเพียงเข็มเดียวก็เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้อยู่ยาวนาน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img