วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกHighlightสธ.วอนปชช.“ล็อคดาว์นตัวเอง”เข้มข้น เสมือนคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.วอนปชช.“ล็อคดาว์นตัวเอง”เข้มข้น เสมือนคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว

สธ.สถานการณ์โควิดชี้ยังวิกฤตหนักพบผู้ติดเชื้อทุกจังหวัด  80% ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ขอทุกคนร่วมมือเข้มข้นช่วง 14 วันล็อกดาวน์เพื่อไม่ให้ไปถึงอู่ฮั่นโมเดล พร้องเร่งมาตรการเชิงรุกลดติดเชื้อ กำชับไม่ปิดโรงงานห่วงเชื้อลามชุมชน

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64  ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด -19 ว่า  ปัจจัยเสี่ยงก่อนหน้านี้มาจากคนรู้จักหรือคนในครอบครัว แต่ในขณะนี้มีพื้นที่แพร่ระบาดหนักมากที่พบว่าหลายกรณีไม่สามารถตรวจสอบว่าติดเชื้อมาจากใคร เพราะวันนี้เราไม่รู้แล้วว่าคนใกล้ตัวติดเชื้อแล้วหรือไม่

 ขณะที่จำนวนผู้รับวัคซีนพบว่ากลุ่มผู้สูงอายุ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 12.5 ล้านราย แต่ขณะนี้ฉีดไปแค่ร้อยละ 20 ในเข็มที่1 และเข็มที่2 เพียงร้อยละ1.3 ดังนั้น จะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ผู้สูงอายุภายในบ้านมารับวัคซีน โดยเร็วที่สุดเพราะมีความเสี่ยง 

นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า สรุปสถานการณ์วันนี้ ยังมีการติดเชื้อค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดหนักและมีการกระจายของผู้ติดเชื้อไปยังจังหวัดอื่นๆด้วย ทั้งจากการรับกลับบ้านและมีการเดินทางกลับไปโดยที่ไม่มีการแจ้ง และไปแพร่เชื้อต่อ โดยเฉพาะวันนี้พื้นที่ระบาดเป็นปัจจัยเสี่ยงมากเพราะไม่ทราบว่าใครที่อยู่ใกล้ตัวเราติดเชื้อไปแล้วบ้าง เพราะ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ

ดังนั้นต้องเร่งมาตรการป้องกันที่สำคัญช่วงล็อกดาวน์ 14 วัน ทั้งในส่วนการป้องกันโรคส่วนบุคคล ต้องทำเสมือนว่าคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว เช่น การไปซื้อของในตลาดร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือโดยสารรถขนส่งสาธารณะ เพราะวันนี้ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักต่างมีความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะการออกไปซื้อของที่ตลาดหรือออกไปซื้อของร้านสะดวกซื้อ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ขณะเดียวกันการป้องกันการระบาดในโรงงานและสถานประกอบการจำเป็นมาก เพราะหลายจังหวัดเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ก็มีการสั่งปิดโรงงานทำให้คนงานกลับไปอยู่ที่บ้าน เข้าชุมชนหรือหางานใหม่ทำ ทำให้นำเชื้อไปแพร่ต่อยังชุมชน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่แต่ละจังหวัดเร่งสื่อสารให้โรงงานและชุมชนรอบข้างเข้าใจปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการบับเบิ้ลแอนซีล เห็นว่าโรงงานไหนถ้ายังไม่พบผู้ติดเชื้อให้รีบควบคุมโรคแบบบับเบิ้ลแอนซีลจัดระบบควบคุม เพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่โรงงาน และหากพบผู้ติดเชื้อแล้วก็ไม่จำเป็นต้องปิดโรงงาน แต่ต้องแยกกลุ่มคนที่ติดเชื้อหรือมีโอกาสเสี่ยงออกมาจากคนอื่นๆ นอกจากนี้ป้องกันการแพร่เชื้อในตลาด ทั้งในส่วนของผู้ค้า แรงงานรับจ้างในตลาดและลูกค้า รวมทั้งมาตรการงดออกจากบ้าน และงดเดินทางข้ามจังหวัดอย่างเข้มข้น

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อเกินหมื่นรายต่อเนื่องมาหลายวันและหากยังไม่ลดลงจะต้องใช้มาตรการอู่ฮั่นโมเดลหรือไม่ ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าวว่า มาตรการตอนนี้ใกล้เคียงอู่ฮั่นโมเดลแล้ว และสถานการณ์ตอนนี้ก็คาดว่าจะยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์ในกรุงเทพฯมีแนวโน้มคงตัวมากขึ้นและมีแนวโน้มจะดีขึ้นในช่วง 4-6 สัปดาห์ แต่ในต่างจังหวัดจะพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องในระยะนี้ จึงขอร่วมมือจากทุกคนเพื่อให้ไปไม่ถึงอู่ฮั่นโมเดลที่ต้องปิดทุกอย่าง เพื่อให้ใช้ชีวิตปกติที่สุด โดยเฉพาะการอยู่บ้านกันให้มาก ลดการเดินทางข้ามจังหวัดและการเดินทางไปซื้อหาอาหารก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด เสมือนว่าคนรอบข้างติดเชื้อแล้ว 

ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าวว่า ช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์วิกฤติในกรุงเทพฯปริมณฑลและพื้นที่สีแดงเข้ม จึงต้องช่วยกันลดการติดเชื้อลดการแพร่กระจายเชื้อลง เพื่อคาดการณ์ว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ หากตัวเลขลดลงก็จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น

ด้านนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ภาวะเตียงดูแลผู้ป่วยหนักและรุนแรงมากค่อนข้างตึงตัว แต่ กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการเข้าดูแลผู้ป่วยเชิงรุกที่บ้านและเฝ้าระวังติดตามอาการโดยแพทย์และพยาบาล เพื่อดูแลรักษา และขณะนี้เราอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าสถานการณ์วิกฤติมากแล้ว สิ่งสำคัญคือมาตรการที่ดำเนินการต้องมีความเข้มข้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วน ยืนยันว่าบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img