วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกNEWSเชื่อ“ล็อคดาวน์”ใช้ไม่ได้ผลกับ“เดลต้า” สงครามโรคเปลี่ยนไป-ฉีดวัคซีนให้เร็ว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เชื่อ“ล็อคดาวน์”ใช้ไม่ได้ผลกับ“เดลต้า” สงครามโรคเปลี่ยนไป-ฉีดวัคซีนให้เร็ว

“หมอมนูญ” เชื่อมาตรการล็อคดาวน์ใช้ไม่ได้ผลกับ “สายพันธุ์เดลต้า” เพราะแพร่กระจายเร็ว-ติดกันง่าย แนะทุกคนควรเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อลดป่วยหนักหรือเสียชีวิต ย้ำ “สงครามโควิดเปลี่ยนไปแล้ว” เราเอาชนะไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้อยู่กับโรคนี้ คาดปีหน้าจะมียาขนานใหม่มีประสิทธิภาพมารักษาได้

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา หรือ CDC ออกแถลงการณ์ สงครามโควิดได้เปลี่ยนไปแล้ว การระบาดปีที่แล้วหรือสงครามครั้งแรก หลายประเทศรวมทั้งไทย สามารถเอาชนะเชื้อไวรัสโควิด-19 หยุดการแพร่ระบาดได้ด้วยมาตรการทางสาธารณสุขและการล็อคดาวน์ เพราะข้าศึกหรือเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม เปรียบเหมือนเชื้อไวรัสไข้หวัดเล็ก ยังไม่เก่งพอ คนติดเชื้อ 1 คนสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น 2 คน

แต่สงครามครั้งนี้หรือการระบาดรอบปัจจุบัน ถึงแม้เราจะออกมาตรการต่างๆ ตั้งป้อมค่ายต่อสู้ ป้อมถูกตีแตก ต้องถอยร่นเข้าหลุมหลบภัย แม้กระทั่งหลุมหลบภัยก็ยังไม่ปลอดภัย เชื้อไวรัสโควิดตามเข้ามาในบ้าน แพร่ระบาดในครัวเรือน เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าเก่งขึ้นมาก คนติดเชื้อ 1 คนสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นมากถึง 8-9 คน เปรียบเหมือนเชื้อไวรัสโรคอีสุกอีใส (ดูรูป)

โรคอีสุกอีใสเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Varicella ติดต่อได้ 2 ทาง โดยการสัมผัสโดยตรงกับตุ่มน้ำบนผิวหนัง แต่ส่วนใหญ่เกิดจากสูดหายใจเอาละอองฝอยของสิ่งคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ในอดีตเด็กทุกคนในโลกจะติดเชื้ออีสุกอีใสเพราะติดต่อกันง่ายมาก ในปัจจุบันสถานการณ์โรคอีสุกอีใสดีขึ้นเพราะมีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส

เราต้องยอมรับความจริง เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าติดกันง่ายมาก ติดกันทางหายใจ ในที่สุดเกือบทุกคนในโลกไม่ว่าจะเคยได้รับวัคซีนหรือไม่ จะติดเชื้อไม่ช้าก็เร็ว เมื่อประชากรโลกมากกว่าร้อยละ 90 ติดเชื้อ เกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ โรคโควิดถึงจะหยุดการแพร่ระบาด เหมือนกับไข้หวัดใหญ่สเปนในอดีตที่ระบาดไปทั่วโลกปี ค.ศ.1918 ใช้เวลา 2 ปี กว่าจะหยุดการระบาด ต่อมากลายเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ประจำถิ่น

คนที่ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสก็ยังมีโอกาสติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ วัคซีนลดการติดเชื้อได้ 3 เท่า แต่ลดอาการรุนแรงถึงขั้นเข้านอนในโรงพยาบาลและเสียชีวิตมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยรับวัคซีน วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่เป็นรุนแรงมากกว่าร้อยละ 90

ทุกคนควรแข่งกับเวลารีบฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด และป้องกันตัวเองเต็มที่ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง พยายามอย่าอยู่ในที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี หมั่นล้างมือ พยายามชะลอเวลาการติดเชื้อออกไปให้นานที่สุด เพราะปีหน้าคาดว่าเราจะมียาขนานใหม่ที่มีประสิทธิภาพรักษาโรคนี้ดีกว่ายาปัจจุบัน มาตรการล็อคดาวน์แบบปีที่แล้วต่อให้เข้มแค่ไหน คงไม่ได้ผลกับเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า เราต้องยอมรับสงครามเปลี่ยนไป เราไม่สามารถเอาชนะข้าศึกครั้งนี้ได้ เราต้องเรียนรู้อยู่กับโรคนี้

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนแรกที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้ายึดครองประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อในเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว 337,966 คน เสียชีวิต 2,834 คน ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดจริงๆ น่าจะมากกว่านั้นหลายเท่า คงต้องใช้เวลาอาจจะถึงปี กว่าประชากรไทยร้อยละ 90 ติดเชื้อ โรคโควิดถึงจะหยุดการแพร่ระบาดได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img