“กรมวิทย์ฯ” เปิดรายงานถึงสิ้นก.ค.64 พบโควิดสายพันธุ์เดลต้าคลอบคลุมทั่วไทย เฉพาะกทม.พบมาถึง 86.2% ส่วนสายพันธุ์เบต้า ยังพบเฉพาะภาคใต้ แต่ยังไม่พบสายพันธุ์แลมบ์ด้าในไทย
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการว่า แนวโน้มในภาพรวมของประเทศจากข้อมูลการเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค.64 จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,547 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จำนวน 1,993 ราย คิดเป็น 78.2%, สายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) จำนวน 538 ราย คิดเป็น 21.2% และสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) จำนวน 16 ราย คิดเป็น 0.6%
โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครสุ่มตรวจ 1,229 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า 1,059 รายคิดเป็น 86.2%, สายพันธุ์อัลฟ่า 170 ราย คิดเป็น 13.8% ส่วนสายพันธุ์เบต้าไม่พบผู้ติดเชื้อ ขณะที่ส่วนภูมิภาคสุ่มตรวจ จำนวน 1,318 ราย เป็นสายพันธุ์เดลต้า 934 ราย คิดเป็น 70.9%, สายพันธุ์อัลฟ่า 368 ราย คิดเป็น 27.9% และสายพันธุ์เบต้า 16 ราย คิดเป็น 1.2% โดยขณะนี้พบสายพันธุ์เดลต้าใน74 จังหวัด ส่วนสายพันธุ์เบต้าสัปดาห์นี้พบเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พบมากที่สุดที่ยะลา 14 ราย สงขลาและตรัง จังหวัดละ 1 ราย
“สำหรับสายพันธุ์แลมบ์ด้าที่พบในแถบประเทศอเมริกาใต้ ยังไม่พบในประเทศไทย และยังเป็นเพียงสายพันธุ์ที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ตามการแบ่งระดับขององค์การอนามัยโลก (WHO)”นพ.ศุภกิจ ระบุ
