วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกHighlightสธ.เปิดแผนจัดหา''วัคซีน140 ล้านโดส''สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 70% สิ้นปี64
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.เปิดแผนจัดหา”วัคซีน140 ล้านโดส”สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 70% สิ้นปี64


’หมอโอภาส’’ เผยสิ้นเดือน ธ.ค.จัดหาวัคซีน 140 ล้านโดส สามารถฉีดให้กับทุกคนในประเทศ และเชื่อว่าฉีดได้เกินร้อยละ 70

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงแผนการจัดหาวัคซีนว่า ในปี 2564 ประมาณการณ์จัดหาวัคซีน ก.ย.-ธ.ค.นั้น แบ่งเป็นซิโนแวค จะมีเข้ามา ก.ย.-ต.ค. เดือนละ 6 ล้านโดส, แอสตร้าเซน้นก้า เข้ามา ก.ย. 7.3 ล้านโดส ส่วน ต.ค.-ธ.ค.อาจส่งมอบได้มากขึ้น ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ก.ย. ถือเป็นสัญญาณที่ดี และไฟเซอร์ได้รับการแจ้งแบบไม่เป็นทางการน่าจะเข้ามาปลาย ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส และมีคำมั่นสัญญาจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสตามที่ลงนามสัญญาภายในสิ้นปีนี้  

ดังนั้นจะมียอดการจัดหาวัคซีน 3 วัคซีนหลัก 124 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่กำหนด ศักยภาพการฉีดที่เห็นช่วงหลัง มากกว่า 6 แสนโดสต่อวัน เชื่อว่าน่าจะฉีดได้ตามเป้าหมาย ยังมีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มมาเรื่อยๆ ยอดการฉีดก็จะเพิ่มขึ้นไป รวมถึงองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกับเอกชนหลายแห่งนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา น่าจะมาได้ไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณการณ์เกินกว่า 100 ล้านโดส ก็น่าจะบรรลุเป้าหมาย ขอให้ประชาชนสบายใจ ส่วนกลุ่มใดฉีดก่อนหลังเป็นไปตามคำแนะนำคณะกรรมการทางการแพทย์และสาธารณสุข ขอให้ไปรับวัคซีนเพื่อประเทศเราปลอดภัยจากโควิดมากยิ่งขึ้น

 

เมื่อถามว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และมีผลตรวจว่าปลอดโควิดแล้ว ยังจำเป็นต้องมีการกักตัวหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ประเทศไทยยังกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศกักตัว 14 วัน สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากหลายประเทศ คือ 1.การฉีดวัคซีนสามารถลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ถึงแม้จะไม่ 100 % 2.การตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นระยะๆ จะสามารถทำให้เราตรวจหาผู้ติดเชื้อและไม่มีอาการได้  ซึ่งหลายประเทศใช้มาตรการนี้ประกอบในการลดวันกักตัวลง

สำหรับประเทศไทยในกรณีภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เราให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบและมีการตรวจเป็นระยะสามารถใช้ชีวิตได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับคนปกติในช่วงกักตัว 14 วัน และสามารถไปไหนมาไหนได้ ตรงนี้จะเป็นข้อมูลที่ทางผู้เกี่ยวข้องคงนำมาประเมินอีกครั้งและพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการลดวันกักตัวลง อย่างไรก็ตามก็รอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง  

เมื่อถามว่าการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เราใช้ตัวเลขร้อยละ 70 แต่ตอนนี้มีสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นกับหลายปัจจัย เชื้อโรคมีการกลายพันธ์ตลอดเวลา การคิดเรื่องภูมิคุ้มกันหมู่ก็ต้องปรับเปลี่ยนตามการกลายพันธุ์ นอกจากนั้นยังขึ้นกับแต่ละพื้นที่ว่าแพร่ระบาดมากน้อยแค่ไหน นำมาประกอบการพิจารณา ซึ่งตามแผนเดิมเราคิดตัวเลขการฉีดวัคซีนร้อยละ 70 หรือประชากร 50 ล้านคน

โดยนโยบายของรัฐบาลถ้าประชาชนคนไทยรวมทั้งคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยต้องการฉีดวัคซีน รัฐบาลก็จะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับทุกคนด้วยความสมัครใจ ถ้าดูตามตัวเลขในสิ้นเดือน ธ.ค .แผนการจัดหาวัคซีนของเราจะอยู่ที่ 140 ล้านโดส ตามตัวเลขนี้เราก็สามารถฉีดให้กับประชาชนทุกคนในประเทศได้อยู่แล้ว และเชื่อว่าฉีดได้เกินร้อยละ 70 แน่นอน ส่วนตัวเลขการเกิดภูมิคุ้มกันใหม่จะอยู่ที่เท่าไรนั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  

นพ.โอภาสกล่าวว่า วัคซีนอย่างเดียวไม่ได้แก้ปัญหาหรือชะลอการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องร่วมมาตรการอื่นด้วย คือ 1.มาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) แม้ไม่พบความเสี่ยง ให้คิดว่าเราและคนรอบข้างอาจติดเชื้อและแพร่เชื้อได้โดยไม่รู้ตัว จึงใส่หน้ากากเสมอเมื่ออยู่กับคนอื่น หลีกเลี่ยงการเปิดหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น ลดการออกจากบ้านโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ไม่ไปสถานที่แออัด เว้นระยะห่าง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว เป็นต้น ประเมินอาการตนเองเสมอ และตรวจ ATK ให้รู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ในช่วงที่ผ่านมา  2.การคัดกรองด้วยวิธีต่างๆ โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้ออย่างง่ายด้วย ATK  และ 3.มาตรการองค์กร เพราะเวลาเกิดระบาดแล้วมีจำนวนติดเชื้อมากๆ ส่วนใหญ่เกิดในองค์กร เช่น โรงงาน แคมป์คนงานที่แออัด สถานที่ทำงาน ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน โรงงาน ต้องมีมาตรการที่จะร่วมกันดำเนินการ  

นพ.โอภาสกล่าวว่า ถ้าสามารถดำเนินมาตรการต่างๆ ทั้งฉีดวัคซีน ป้องกันส่วนบุคคล ตรวจคัดกรอง และสถานที่ทำงานได้ จะสามารถเปิดกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์การควบคุมโรคที่เสนอ ศบค. และ ศบค.เห็นชอบในหลักการ โดยมอบทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐและเอกชนสื่อสารทำความเข้าใจประชาชน ให้ดำเนินการมาตรการต่างๆอย่างต่อเนื่อง  

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img