วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกNEWS“บิ๊กป้อม”ดันโครงสร้างพื้นฐานรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กป้อม”ดันโครงสร้างพื้นฐานรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ

ประวิตร’ ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังเปิดประเทศ เดินหน้าวาระแห่งชาติปี 65 ปราบปรามการค้ามนุษย์ ตั้งเป้าให้ไทยในอยู่ในลิสของประเทศ เทียร์ 2

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่าการดำเนินนโยบายในด้านต่างๆ ที่จะช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศของไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เร่งรัดโครงการพื้นฐานต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกลไกการทำงานของคณะกรรมการที่กำกับดูแลในด้านต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน ในโครงการขยายเส้นทางคมนาคมระบบรางที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่ความสำคัญต่อการใช้บริการของประชาชน และการขนส่งสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ ช่วยให้เกิดการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศ

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่าเชื่อว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังจากนี้จะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆที่รัฐต้องเข้าไปสนับสนุนให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ในการกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการชุดต่างๆ ขณะนี้ได้เร่งให้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดทำโครงการให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เพราะต้องยอมรับว่าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องหาระบบและกลไกต่างๆที่จะไม่สร้างภาระกับประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าไปทำงานในพื้นที่เพื่อดูแลปากท้องของประชาชน ผ่านกลไกส.ส.ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูล ความต้องการที่แท้จริง

“ขณะนี้เราได้รวบรวมบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งคนในพรรคและคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากทั้งภาคเอกชน และสถาบันต่างๆ มาร่วมทีมในการวางยุทธศาสตร์ใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต เพื่อการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกันของแต่ละภาค”

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ในการขยายเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางในพื้นที่ภาคเหนือ เชื่อมต่อกับช่วง ลพบุรี-ปากน้ำโพ ในการดำเนินโครงการช่วง ปากน้ำโพ-เด่นชัย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท) ซึ่งมีระยะทาง 280.544 กิโลเมตร ผ่าน 5 จังหวัดได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และแพร่ นอกจากนี้ในกระบวนการพัฒนาประเทศ ยังมีมิติทางสังคมที่เป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ จากปัญหาฝุ่น P.M 2.5 ที่ยังเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นภัยทางสังคมและสุขภาพของประชาชน โดยต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในประเทศ และเวทีนานาชาติ

ส่วนการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกขั้นตอน พร้อมวางกลไกการส่งต่อระดับชาติ แนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการคดี การกำกับและติดตามแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM นับว่าประเทศไทยเป็นต้นแบบในภูมิภาคอาเซียน ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงปฎิบัติการเชิงรุกของทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันให้ประเทศ ได้รับการพิจารณาในรายงานทิพรีพอร์ต (2021 US TIP Report) จัดอันดับให้ไทยในอยู่ในลิสของประเทศ เทียร์ 2 ในปี 65

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img