“มหาดไทย” จับมือ “องค์กรต้านโกง” จัดเสวนา “ผู้นำ…กับการปราบโกง” ด้าน “มท.1” เผย 8 ปีร้องผ่านศูนย์ปราบโกงมท. ฟันโทษคนทุจริต 1,200 คน ขณะที่ “ปลัดมท.” ชี้ยุค “บิ๊กป๊อก” โปร่งใส-ไว้ใจได้ ดึงปชช.มีส่วนร่ว แต่งตั้งโยกย้ายยึดระบบคุณธรรม
วันที่ 19 ส.ค.65 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (ACT) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จัดเวทีเสวนาออนไลน์ครั้งท่ี 1 “ผู้นำ…กับการปราบโกง” นำโดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สภ.), นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายวิเชียร พงศธร ประธาน ACT ร่วมพิธี ก่อนการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมท.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การคอร์รัปชั่นแก้ได้โดย 1.ยุทธศาสตร์ชาติ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน ส่วนการปราบปรามต้องใช้วิธีการลงโทษโดยกฎหมาย วินัยอาญา 2.ต้องมีแผนแม่บท เน้นระบบให้ประชาชนมีการรับรู้มากขึ้นมีความยุติธรรมในการลงโทษ และ 3.ต้องปฏิรูปพัฒนาระบบยุติธรรมพัฒนาคนเพื่อให้ได้คนดีเข้ามาทำงาน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย มีศูนย์ปราบปรามการทุจริต ตั้งแต่ระดับกระทรวงลงไปถึงจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2557-2565 มีการลงโทษผู้ที่กระทำผิดทุจริตไปแล้ว 1,200 ราย
ด้านนายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า คนที่มารับราชการต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีระบบอบรมให้อยู่ในระเบียบวินัย และมีผู้บังคับบัญชาคอยประเมิน ซึ่งกระทรวงมท.ส่งเสริมเรื่องคุณธรรมจริยธรรมตลอดเวลา และสร้างแรงจูงใจโดยมีการคัดเลือกบุคคลต้นแบบบุคคลที่เป็นข้าราชการที่ดีซื่อสัตย์แล้วให้รางวัลและปูนบำเหน็จในเรื่องความก้าวหน้า แต่ละปีข้าราชการมหาดไทยที่มีเป็นแสนคนมีการลงโทษผู้ที่กระทำผิดเป็นประจำตลอดเวลา องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ติดตามประเมินผลการทำงานของข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยกระทรวงมหาดไทย ก็ได้คะแนนความโปร่งใสในการทำงานสูงขึ้นทุกปี ตรงกับแนวโน้มที่พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า จำนวนเรื่องร้องเรียนมีแนวโน้มลดลง ซึ่งปีนี้สำนักงานปลัดกระทรวงมท.ได้คะแนน เกณฑ์ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ได้คะแนน 96.11
“มท.1 ได้ให้นโยบายกับข้าราชการประจำให้ทำงานโดยประชาชนมีส่วนร่วม เช่น การจัดซื้อจัดจ้างจะมีภาคประชาชนองค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมในการตรวจสอบตรวจรับงาน จัดทำแผนพัฒนาอำเภอ และพัฒนาจังหวัด รวมทั้งระบบติดตามประเมินผล และยังมีระบบ AI ที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งประชาชนสามารถร้องเรียนได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในอำเภอและจังหวัด จะสร้างทีมเครือข่ายเพื่อทำร่วมคิดร่วมทำและร่วมรับผิดชอบกับประชาชน ส่วนระบบการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมท.นั้น ต้องพิจารณาตามระบบคุณธรรม ดูความประพฤติ ความสามารถและประวัติในอดีต มั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทย ในยุคของพล.อ.อนุพงษ์ เป็นกระทรวงที่โปร่งใส ไว้ใจได้ ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทย ยังมีผู้ตรวจราชการที่จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและคอยแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบข้อมูลของข้าราชการ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
