“ลุงป้อม” เดือดสุดขีด เอ่ยตะเพิด ส.ส.แหกมติ พ้นพรรค “มาดามเดียร์-เมียฉายเนชั่น” ต่อสายคุย ยังไม่ยอมรับสาย ขณะที่ “กก.บห.” เบรก ให้ตั้งกก.สอบก่อน มี “ไพบูลย์” เป็นประธาน รู้ผลใน 15 วัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ที่ทำการพรรคพลังประขารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ 1 ส.ส.ระยอง ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจสวนกับแนวทางของพรรค โดยมีตนเป็นประธาน มีคณะกรรมการประกอบด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายบุญสิงห์วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น และ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ซึ่งจะมีการเชิญส.ส.ทั้ง 7 ราย มาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยดูตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร และข้อบังคับของพรรคอย่างเคร่งครัด มีระยะเวลาในการพิจารณา 15 วัน เมื่อได้ข้อสรุป จะเสนอกรรมการบริหารพรรคต่อไป ยืนยันว่า มาตรฐานของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าสูงที่สุด
เมื่อถามว่า หากตรวจสอบแล้ว พบว่าผิดจริง ตามข้อบังคับพรรคมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายไพบูลย์ กล่าวว่า สมาชิกพรรค ถ้าไม่ปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อพรรค หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของพรรค ที่จริงแล้วไม่มีบทลงโทษ แต่สมาชิกพรรคจะต้องอยู่ร่วมกันตามข้อบังคับของพรรค ซึ่งเมื่อปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค ก็จะได้สิทธิต่างๆ
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการลงโทษกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ 1 ส.ส.ระยอง ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจสวนกับแนวทางของพรรคนั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างคุกรุ่น โดยพล.อ.ประวิตรแสดงท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของกลุ่มส.ส.ดังกล่าว และกล่าวตอนหนึ่งว่า “โหวตอย่างนี้ รับไม่ได้ แล้วไม่ต้องโพสต์อะไรอีก อย่างนี้มันต้องขับออก ไปรับปากเขามา เขาก็ให้เราเต็ม แต่เรามีปัญหา พรรคเราเสียหาย มันต้องมีบทลงโทษ ทำไมตอนถามในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่ามีปัญหาอะไร แล้วไม่บอก” ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคฯที่ร่วมประชุมนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ค่อยเห็นการแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้ของพล.อ.ประวิตร
ทั้งนี้กรรมการบริหารพรรคฯรายหนึ่งชี้แจง โดยยกข้อกฎหมายขึ้นมาอธิบายว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ มีอิสระ ปราศจากการครอบงำของพรรคการเมืองในการลงมติตามรัฐธรรมนูญ ทำให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฝ่ายกฎหมาย เสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณา ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวเสริมเพื่อให้บรรยากาศเย็นลงว่า เมื่อตั้งคณะกรรมการสอบแล้วขอให้รอฟังผลข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีมาตรการกับกลุ่มส.ส.ดังกล่าว ส่วนกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ค่อนข้างระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้มีรายงานว่า ตั้งแต่มีปัญหา น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พยายามโทรศัพท์หาพล.อ.ประวิตรเพื่อชี้แจงเหตุผล แต่พล.อ.ประวิตรไม่รับสายเลย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับการประชุมกรรมการบริหารพรรคฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบฯ ถือเป็นกระบวนการของพรรคการเมือง ซึ่งคงไปขับไล่ ส.ส.ไม่ได้ แต่อาจจะมีผลต่อมาตรการส่วนตัวกับกลุ่มส.ส. อาทิ ตัดการดูแลช่วยเหลือและสนับสนุนเรื่องต่างๆ ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ให้เป็นกรรมาธิการต่างๆ หลังจากนี้ โดยเฉพาะน.ส.วทันยาที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงคนเดียว เป็นแกนนำกลุ่ม และยังเป็นภรรยานายฉาย บุนนาค ผู้บริหารเครือเนชั่น ที่อาจจะโดนหนักกว่าเพื่อน ขณะที่อีก 6 คนที่เหลือเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต คงต้องรอดูก่อน
