วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกHighlight‘ปชป.’ย้ำโควต้ารมต.ยึดตามเดิม! เกลี่ยใหม่ต้องคุยกันรับได้หรือไม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ปชป.’ย้ำโควต้ารมต.ยึดตามเดิม! เกลี่ยใหม่ต้องคุยกันรับได้หรือไม่

“ปชป.” ประสานเสียงส่งสัญญาณถึงนายกฯ โควต้ารมต.ควรยึดตามเดิม “จุรินทร์” ย้ำยังไม่ได้คุยเรื่องหาคนมาแทน “ถาวร” ขอเร่งประกันตัวแกนนำ กปปส.ของพรรคก่อน “นิพนธ์” ชี้ถ้าจะเกลี่ยโควต้าใหม่ต้องคุยกันก่อน ว่าเหตุผลรับได้หรือไม่

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.64 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่ม กปปส. ถูกดำเนินคดีเนื่องจากชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2556-2557 ว่า ส่วนตัวขอให้กำลังใจทุกคนที่ถูกดำเนินคดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลสมาชิกของพรรคที่ถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนตัวไม่สามารถชี้ได้ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และผลที่ตามมาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ต้องเร่งขอประกันตัวให้ทุกคนได้ออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีขณะนี้อยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้น ตอนนี้ต้องทำให้ทุกคนได้รับอิสรภาพก่อน

เมื่อถามถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ต้องโทษจำคุก และส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งทันทีนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า พรรคยังไม่ได้วางแนวทาง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนโควตา จะมอบให้กลุ่ม ส.ส. ภาคใดนั้น ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะพรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว โดยการพิจารณาตัวรัฐมนตรีนั้น จะพิจารณาในที่ประชุม ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ส่งสัญญาณปรับครม.แต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่กังวลหลังมีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคต้องการขอโควตารัฐมนตรีเพิ่ม มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตามหลักการควรจะจัดสรรโควตารัฐมนตรีเท่าเดิม เหมือนตอนที่ขอร่วมรัฐบาล แต่หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องสัดส่วนของแต่ละพรรค และตนเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจอะไรได้ยกเว้นในส่วนของพรรคเท่านั้น

ทางด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตัดสินของศาล ในคดีการชุมนุมของกลุ่มกปปส. ว่า เบื้องต้นก็ต้องเคารพการตัดสินคำพิพากษาของศาล แต่คิดว่าทุกท่านที่ทำไปในขณะนั้น ด้วยเจตนาดีต่อบ้านเมือง ฉะนั้นเมื่อการกระทำอาจจะไปผิดกฎหมายบ้าง เราก็ต้องมาดูและถือเป็นบทเรียน สิ่งที่ต้องเอามาใช้ต่อไป ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตนยังเชื่อว่าทุกท่านมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง ในสถานการณ์ขณะนั้น

เมื่อถามว่า ได้มีการแจ้งมาในเรื่องการประกันตัวหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยัง และขั้นตอนทางฝ่ายกฎหมายก็ดำเนินการกันไป และตนคิดว่าวันเดียวกันนี้จะมีการยื่นขอประกันตัว เมื่อถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำเป็นต้องยึดเก้าอี้โควตาเดิมหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน ตนคิดว่าต้องรอให้สถานการณ์ชัดเจนและรอให้นายกฯแจ้งในสิ่งเหล่านี้ก่อน เพราะการปรับครม.เป็นอำนาจของนายกฯ

เมื่อถามว่า จำนวนเสียงของพรรคภูมิใจไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันว่ามากอย่างไร ใช้ตัวเลขอะไรเป็นตัวฐานคำนวณ เมื่อถามต่อว่าไม่น่าจะนำเสียงของพรรคอื่นมารวมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมาดูเสียงว่าเป็นอย่างไร ตนคิดว่าต้องพูดคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า จะกลายเป็นปัญหาของรัฐบาลหรือไม่หากมีการปรับครม.และต้องมาเกลี่ยตำแหน่งกันใหม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ต้องมาพูดคุยกันว่า เดิมเราคุยกันไว้อย่างไร และถ้าจะเปลี่ยนมีเหตุผลอะไรในการเปลี่ยน ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกัน การเมืองต้องพูดคุย

cr / กระทรวงมหาดไทย

เมื่อถามต่อว่า หากมีการยึดเก้าอี้ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์คืน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่บอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร ต้องไปดูว่าเดิมคุยกันอย่างไร ฐานเสียงเดิมเป็นอย่างไร” เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าให้ยึดคำพูดเดิมที่เคยตกลงกันไว้ใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ควรเป็นอย่างนั้น ตนเพิ่งทราบว่าจะมีเรื่องการปรับเกลี่ยโควตากัน ถ้ามีการเปลี่ยนเกลี่ยกันใหม่ ต้องดูเหตุผลรับได้หรือไม่ ส่วนจะต้องพูดคุยกันในพรรค ก่อนที่จะพูดคุยกับนายกฯก่อนหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรับสัญญาณก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ในฐานะที่มีรัฐมนตรีของพรรคอยู่ด้วยในกรณีนี้ พรรคก็ต้องเตรียมและพูดคุย ส่วนหากมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายนิพนธ์เองก็พร้อมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันตามมติพรรค พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครพูดได้คนเดียวต้องดูมติพรรคเป็นอย่างไร

เมื่อถามอีกว่าในช่วงเวลานี้คิดว่าจะปรับครม.แค่ตำแหน่งที่ว่างหรือควรจะดูให้ครอบคลุมทั้งหมด นายนิพนธ์ กล่าวว่า แล้วแต่นายกฯ เพราะอำนาจในการปรับครม.อยู่ที่นายกฯคนเดียว ส่วนมีการมองกันไปไกลว่าควรมีการยุบสภาฯและเลือกตั้งใหม่ คิดว่าเหตุผลนี้จำเป็นหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าว ตนยังไม่มีความเห็นเรื่องนี้ เพราะตนคิดว่าไม่ใช่ข้อขัดแย้งระหว่างสภาฯกับรัฐบาล

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img