“บิ๊กช้าง” เผย นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ย้ำกองทัพ คุมเข้มคัดกรองพื้นที่ชายแดนป้องกันโควิด-19 และร่วมสนับสนุนการบริจาคโลหิตให้สภากาชาดไทยซึ่งยังขาดแคลน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อม ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ หน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลาโหม (นขต.กห.) และเหล่าทัพ ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการปฏิบัติงานของทุกเหล่าทัพในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้แสดงความขอบคุณกำลังพลของทุกเหล่าทัพ ที่ปฏิบัติงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ต่อเนื่องที่ผ่านมา โดยกำชับให้กองกำลังป้องกันชายแดนประสานการทำงานกับตำรวจ คงความเข้มข้นเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตก ควบคู่กับการคงความต่อเนื่องสนับสนุนการตรวจคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้ามาในประเทศทั้งทางบก ทางน้ำและท่าอากาศยาน การสนับสนุนดูแลพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งขอให้กำลังพลทุกเหล่าทัพที่มีความพร้อม ร่วมสนับสนุนการบริจาคโลหิตให้สภากาชาดไทยซึ่งยังคงขาดแคลน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาเร่งด่วน
พร้อมกันนี้ รมช.กลาโหม ได้กำชับทุกหน่วยงานตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ให้เตรียมความพร้อมกำลังพลสนับสนุนการบริหารจัดการเร่งด่วนในพื้นที่ควบคุมโรคสูงสุดและเข้มงวดเมื่อจำเป็น ควบคู่กับโรงพยาบาลสนามทั้ง 30 แห่ง ( 7,822 เตียง) ให้พร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคอาจเกิดขึ้น รวมทั้ง ขอให้ดำรงความต่อเนื่องในการบริหารจัดการสถานกักกันควบคุมโรคแห่งรัฐ ทั้ง SQ และ ASQ รวม 156 แห่ง(มีผู้ผ่านการคัดกรองแล้ว 213,411 คน พักอยู่ระหว่างคัดกรอง 13,482 คน พบผู้ติดเชื้อสะสม 1,694 ราย) และขอขอบคุณในการบริหารจัดการดูแลคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศต่อเนื่องที่ผ่านมาให้มีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการได้รับการแสดงความชื่นชมจากสมาคมคนไทยในบาเรนห์ และเอกอัครราชทูตไทยประจำบาเรนห์
