“นายกฯ” เปิดหลักสูตร “รวมมิตร” โครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง ‘บิ๊กเอกชน’ เข้าร่วมเพียบ ลั่นทุกคนอยู่บนยอดพีระมิดทำประโยชน์เพื่ออนาคตประเทศชาติ พร้อมชวน “บิ๊กเอกชน”หลักสูตรรวมมิตร ลงพื้นที่เชียงใหม่ดูโครงการพระราชดำริ อยากให้ช่วยกันโปรโมทสินค้า และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 8 ม.ค.67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานรัฐ และผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย
ทั้งนี้ เมื่อนายกฯเดินเข้าสู่ห้องจัดงาน ได้เดินทักทายผู้ร่วมงาน ทักทายพล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบก.สส.จชต.) โดยนายก กล่าวว่า ฝากดูแลภาค 9 ด้วย เดี๋ยวเดือนหน้าจะลงไปยังพื้นที่ภาคใต้รวมถึงสามจังหวัด จะไปสัก 2 คืน
จากนั้นนายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “Thailand’s Future : อนาคตประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า ตนขอบคุณ พล.ต.อ วิษณุ ปราสาททองโอสถ ผู้อำนวยการโครงการฝึกอบรม ที่เป็นเพื่อนกับตนมาตั้งแต่เด็กและเป็นมิตรกันยาวนาน ตนดีใจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการจัดหลักสูตรนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ดีว่าที่ผ่านมา หลักสูตรดังกล่าว ได้มีการทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย และมีจุดประสงค์ชัดเจน โดยจะไม่มีการเข้าใจผิดอย่างแน่นอนว่าเรามาอยู่ด้วยกันตรงนี้เพื่ออะไร ซึ่งตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนมาพูดในวันนี้
“ผมชื่อว่าทุกคนที่มาในนี้ ก็เป็นผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชน พวกเราอยู่บนยอดพีระมิดที่สามารถทำอะไรได้อีกมากมาย เพื่ออนาคตของประเทศชาติที่สดใส เพราะอนาคตของประเทศชาติอยู่ในมือของพวกท่าน ดังนั้นขอให้ต่อยอดเนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวที่อยู่มา 6 ปีแล้ว และจะต้องทำต่อไป เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะต้องทำ ขอใช้คำว่า พวกเราที่อยู่บนยอดพีระมิดว่าสามารถทำได้”นายเศรษฐา กล่าว
ต่อมา นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังในโครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 ว่า “หลักสูตรรวมมิตรใช่ไหม ผมว่าสิ่งที่หลักสูตรที่ทำอยู่แล้ว ชื่อก็บอกอยู่ว่ารวมมิตร เอาทั้งภาคราชการตำรวจและภาคเอกชนนักธุรกิจมารวมกัน เพื่อสร้างมิตรภาพที่ดี ปรึกษาหารือช่วยเหลือยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ผมมาเปิดคอร์สให้ เพราะรู้จักกันดีกับผู้อำนวยการฯคือ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ เชิญผมมาเปิดงาน ผมก็ยินดีแต่จะขอมีส่วนร่วมในหลักสูตร เพราะมีหลายท่านที่อยู่บนฐานบนของสังคม ได้มีการช่วยเหลือสังคมเยอะมากในแง่ของการใช้ทุนทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทุนการศึกษา การบริจาค”
นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนอยากจะเติมเต็มอีกคือ อยากจะเชิญพวกท่านเหล่านี้ลงไปต่างจังหวัดกับตน ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยเริ่มต้นไปที่โครงการพระราชดำริจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งขอร้องทุกท่านว่าถ้าหากว่างก็ขอให้ไป ตนก็ไปเอง จะเชิญพวกท่านเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริ ไปดูเรื่องป่า เรื่องทรัพยากรธรรมชาติแล้วไปดูว่ามีสินค้าอะไร สินค้าดีๆที่ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือโปรโมท ตนอยากให้ช่วยกันเป็นตลาด โดยมีการแจกการบ้านไปก่อน ว่านักเรียนที่มาเรียนโครงการนี้ มีใครสามารถช่วยเหลือตรงไหนได้บ้าง ซึ่งตนก็หวัง เพราะในประเทศเรามีหลักสูตรพวกนี้เยอะ
“หวังว่าอีกหลายหลักสูตรอื่นๆ คงจะไปทำตามบ้าง จนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เป็นเรื่องแค่ให้ทุนทรัพย์ หรือให้เงินอย่างเดียว เป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจ และเป็นเรื่องที่คนที่อยู่ฐานบนของสังคม ได้ไปดูแววตาของประชาชนที่อยู่ชายขอบของสังคม ว่าถ้าเราลงไปในฐานะที่เรามีเยอะ เราลงไปให้ความช่วยเหลือและให้ความสนใจเขา แววตานั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเรายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ของพวกเขาให้สูงขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ถือเป็นจุดมุ่งหมายหลักของผมที่มาพูดในวันนี้”นายเศรษฐา กล่าว
