นายกฯปัดตอบเวทีสาธารณะMou44 ส่วนตั้งJTCมีความคืบหน้าแต่ยังไม่เสร็จ ส่วนเรื่องการช่วยเหลือคนไทย ตอนนี้ยังปลอดภัย ทั้งนี้ รมต.ต่างประเทศของไทยและเมียนมา จะมีการพบกันวันที่ 19 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือคัดค้าน MOU44 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า ได้ดูหนังสือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องให้มั่นใจนิดนึงเรื่องประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ กันนิดหนึ่ง มันไม่มีการบิดเบือนอะไรไปนอกจากนี้เลย ส่วนที่เคยบอกว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็น จะเป็นอย่างไร จะเป็นเวทีสาธารณะอย่างที่มีการเรียกร้องหรือไม่นั้น จริงๆ แล้วเรามีหน่วยงานรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว ก็ผ่านมาได้ เหมือนอย่างที่นายสนธิ มายื่นหนังสือ ก็ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นเช่นกัน ทุกอย่างที่เราได้มา เรารับพิจารณา เพราะเราทราบดีว่าทุกเรื่องที่ยื่นมามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ได้จะเปิดเวทีสาธารณะหรืออะไร
ต่อข้อถามว่า หากเป็นเช่นนั้นยืนยันจะเดินหน้า MOU44 ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กล่าวว่า เรากำลังดูเรื่องรายละเอียดอยู่ว่ามีผลกระทบอะไรอย่างไรบ้าง อันนี้ไม่ได้คิดว่าจะเดินหน้าอะไร แต่กำลังพิจารณาในสิ่งที่มีการนำเสนอมาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น ส่วนการตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิค หรือ JTC มีความคืบหน้าอย่างไรนั้น า“มีความคืบหน้า แต่ยังไม่เสร็จสิ้น”
เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ เคยพูดว่าหลังจากเดินทางกลับจากประชุมเอเปค การตั้งคณะกรรมการจะเรียบร้อย ติดขัดอะไร? เหตุใดยังไม่เสร็จ? นายกฯ กล่าวว่า มีการตามเรื่องการตั้งคณะกรรมการ แต่ยังมีในเรื่องรายละเอียดที่อ่อนไหวพอสมควร ฉะนั้นจะตั้งหรือจะเคาะกรรมการ เราอยากให้การตั้งขึ้นมาไม่ติดขัดในเรื่องของอะไรเพิ่มเติม แต่เร่งอยู่ ไม่ได้ปล่อยเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในลิสต์ที่นึกถึงอยู่ทุกวัน
สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือ 4 คนไทย ถูกทางการเมียนมาควบคุมตัวนั้น นายกฯ ชี้แจงว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.อาวุโส ตานฉ่วย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศเมียนมา รวมถึงได้พูดคุยกับทูตของเราที่เมียนมา ขณะนี้ติดเรื่องขั้นตอนกฎหมายในการส่งตัวออกมา แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะที่คุยล่าสุดได้ส่งข้อความฝากไปยังทูตของไทยที่เมียนมาว่า ห่วงใยและอยากให้มีการปล่อยตัวให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ รมต.ต่างประเทศของไทยและเมียนมา จะมีการพบกันวันที่ 19 ธ.ค.นี้