จับตา! “เทพไท” ปะทะ “นายกฯอิ๊งค์” ปมกาสิโน! อดีตสส.ปชป.ชี้รัฐบาลมองข้ามผลกระทบ จี้ทำประชามติวัดใจประชาชน!
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.58 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า โต้แย้งความเห็นของอุ๊งอิ๊ง เรื่องกาสิโน
ผมได้ติดตาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ สร้างโอกาสในวิกฤต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักลงทุน ได้พูดถึงโครงการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในหลายประเด็น ดูเหมือนนางสาวแพทองธารจะมุ่งมั่นต้องการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จให้ได้ โดยมีการพูดถึงข้อดีของสถานบันเทิงครบวงจรมากมาย
ซึ่งผมจะขออนุญาตให้คำตอบ และโต้แย้งความเห็นของนางสาวแพทองธาร ดังนี้
1.นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงประเด็นการจัดทำสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องสนใจเรื่องโลว์ซีซันนั้น ว่า โครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เงินที่เข้ามาลงทุนในโครงการนี้ ไม่ใช่เงินรัฐบาลหรือภาษีของประชาชน
คำตอบ : เพราะรัฐบาลได้ให้สัมปทานกับเอกชน มาลงทุนในธุรกิจที่เป็นแหล่งอบายมุขเพื่อหวังผลกำไร ซึ่งใครๆ ก็อยากลงทุน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินของรัฐ
2.การอ้างว่าเป็นเงินทุนจากภาคเอกชนและนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้เพิ่ม โดยรายได้จากภาษีจะมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในโครงการ รวมถึงการใช้บริการในกาสิโนด้วย
คำตอบ : รัฐบาลหวังผลรายได้จากการเก็บภาษีเข้ารัฐ โดยไม่สนใจปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อประเมินผลแล้ว ไม่คุ้มกับความเสียหายทางสังคมที่เกิดขึ้นต่อคนในชาติ
3.การสร้าง Entertainment Complex รัฐบาลจะทำตามโมเดลของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ได้นำรูปแบบไปปรับใช้เช่นกัน รัฐบาลไม่ต้องการให้โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นเพียงกาสิโนเท่านั้น
คำตอบ : ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีความโปร่งใสสูงสุดในเอเซีย ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่มีปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และปัญหาทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุด
4.ต้องการพัฒนาให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนต์ สถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่ม (Indoor) และโรงแรม เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังขาดสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่มีคุณภาพและสามารถรองรับผู้ชมจำนวนมากได้
คำตอบ : ถ้าหากภาคเอกชนไม่ลงทุนรัฐบาลก็สามารถลงทุนได้ เมื่อลงทุนแล้วเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหาร เหมือนกับโครงการรถไฟฟ้าและทางด่วน
5.การเปิดบ่อนกาสิโน จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานสากล ต้องเป็น ‘การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ’ (Responsible Gambling) ซึ่งจะมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ระบบตรวจสอบประวัติผู้เล่นอย่างเข้มงวด รวมถึงตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
คำตอบ : การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ สามารถเกิดขึ้นได้ในหมู่คนไทยหรือไม่เพราะพื้นฐานของคนไทยขาดระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ใช้ระบบเส้นสายจนไม่สามารถตรวจสอบประวัติได้
6.Entertainment Complex สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนในประเทศ
“ประเทศที่พัฒนาในหลายประเทศ ได้ปรับตัวเข้าสู่เทรนด์การสร้าง ‘Man-made Destination’ เช่น งาน World Expo จัดขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจบงานก็จะถูกพัฒนาให้กลายเป็น Entertainment Complex ในอนาคต หากประเทศไทยมีโครงการลักษณะนี้ ก็จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในประเทศ และช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้ตลอดทั้งปี”
คำตอบ : รัฐบาลสามารถสร้างโครงการทางเศรษฐกิจแบบเม็กกะโปรเจ็คได้ เป็นการสร้างงานให้ประชาชนได้เช่นเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโนมาเกี่ยวข้อง
7.นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ถ้าโครงการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย ไม่สามารถผลักดันให้เป็นผลสำเร็จได้ ไม่อยากจะมานั่งเสียดายทีหลังว่า ประเทศไทยช้าไปแล้ว
คำตอบ : ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคนไม่ใช่เป็นของตระกูลชินวัตรเพียงตระกูลเดียวการกำหนดอนาคตของประเทศไทยในเรื่องเปิดบอลคาสิโนต้องเป็นความเห็นพ้องของคนไทยทั้งประเทศถ้ารัฐบาลต้องการคำตอบที่แท้จริงก็ควรจะจัดทำประชามติในเรื่องนี้
ผมเห็นว่าทั้งนางสาวแพทองธารและนายทักษิณ ต้องการที่จะผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ให้สำเร็จให้ได้ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชนทั่วประเทศ และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค แต่ด้วยความเป็นคนที่มีอีโก้สูง ดื้อตาใส จึงไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ ให้รอดูว่าพลังต่อต้านการเปิดบ่อนกาสิโน จะมากกว่าการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก