“ตร.สันติบาลทำเนียบฯ”ติดเชื้อโควิด เตรียมพ่นยาฆ่าเชื้อ-จำกัดสื่อเข้าออก

ทำเนียบฯพบอีกราย “ตร.สันติบาล” ติดเชื้อโควิด เตรียมพ่นยาฆ่าเชื้อ เลขานายกฯยันคุมเข้มตามแผนป้องกัน จำกัดจำนวนสื่อมวลชนเข้า-ออก ขณะที่ “นายกฯลุงตู่” นัดประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 12 ก.ค.นี้ จ่อพิจารณาล็อคดาวน์

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่อยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน และทำงานที่บ้านพักใน ร.1 ทม.รอ. ว่า แม้ผลตรวจจะไม่พบเชื้อ หลังพบประธานหอการค้าสุรินทร์ ที่ติดโควิด ขณะร่วมงาน “ภูเก็ตแซนบ็อกซ์” โดยเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์โพสต์ภาพขณะกักตัวและทำงานประชุมผ่านระบบออนไลน์ โดยด้านหลังนายกฯ มีภาพพระพุทธรูปและมีทองคำเปลวปิดอยู่ พร้อมด้วยภาพม้าวิ่ง และภาพนายกฯเมื่อครั้งเปิดเดินขบวนรถไฟ โดยมีรายงานว่า นายกฯเรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อคดาวน์ ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 13 ก.ค.นี้ทันที ทั้งนี้หากตัวเลขการติดเชื้อรายวันสูงขึ้นระดับหลักหมื่นคนขึ้น ก็อาจจะประชุม ศบค.เร็วกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ประจำทำเนียบรัฐบาล ปฎิบัติหน้าที่ประจำประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นช่องทางเข้า-ออกหลัก สำหรับผู้ที่จะเข้ามาติดต่อราชการ ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน และได้เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนแล้ว และได้กักตัวเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ไม่ได้พักอาศัยอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล แต่อาศัยอยู่บริเวณชุมชุน ซอยพิษณุโลก 1 ซึ่งมีการระบาดไปก่อนหน้านี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ภายหลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อ ทำเนียบรัฐบาลจะทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณอาคารต่างๆ รวมถึงห้องปฏิบัติงานสื่อมวลชน

ด้านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทำเนียบรัฐบาลล่าสุด หลังพบยอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตสูงสุดนับแต่มีการระบาดว่า ปัจจุบันทำเนียบรัฐบาลได้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้น ตามมาตรฐานสากล และกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว โดยข้าราชการส่วนใหญ่ขณะนี้ ก็ทำงานที่บ้าน (Work from Home) ทุกคนและทุกหน่วยงานในสังกัด สามารถปรับตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตามดำริของนายกรัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกคน ได้สั่งให้ดูแลผู้ปฏิบัติงานอย่างดี ตรวจหาเชื้อต่อเนื่อง รวมทั้งจัดให้ฉีดวัคซีนตามกำหนด จึงไม่จำเป็นปรับมาตรการเพิ่มเติม สำหรับสื่อมวลชนที่ปฎิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล ยังไม่ออกมาตรการเพิ่มเติม จากเดิมที่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ซึ่งสำนักโฆษกฯ สำนักเลขาธินายกรัฐมนตรี ได้จัดระบบการสื่อสารไว้รองรับและอำนวยความสะดวกทุกช่องทางอยู่แล้ว ทั้งเว็บไซต์ และการติดต่อสื่อสารผ่านทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี