วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกHighlight“บิ๊กตู่”สั่งคัดกรองเชิงรุกเพิ่มขึ้นทุกจุด-ทุกพื้นที่ หวั่นเฟคนิวส์ทำปั่นป่วน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กตู่”สั่งคัดกรองเชิงรุกเพิ่มขึ้นทุกจุด-ทุกพื้นที่ หวั่นเฟคนิวส์ทำปั่นป่วน

“บิ๊กตู่’’สั่งลุยตรวจสอบคัดกรองเชิงรุกเพิ่มขึ้นทุกจุด-ทุกพื้นที่ หวั่นเฟคนิวส์ทำปั่นป่วน วอนทุกฝ่ายร่วมมือด้วยความเข้าใจให้ข่าวแนวทางเดียวกัน ย้ำดูแลคนทุกคนบนแผ่นดินไทย ที่ประชุมเห็นชอบขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน ส.ค.-ก.ย.

เมื่อวันที่  9 ก.ค. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุมว่า สำหรับมาตรการเยียวยาจะต้องดูแลทุกภาคส่วน โดยออกมาตรการที่เหมาะสม โดยมอบหมายสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด และย้ำว่าการสื่อสารต้องไม่ให้สับสนอลหม่าน นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมี ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(Emergency Operation Center, EOC) และมีคณะกรรมการต้องชี้แจงเฉพาะเรื่องตามอำนาจหน้าที่ ขณะที่ศบค. ก็มีอำนาจหน้าที่ชัดเจน จึงให้ตระหนักว่าเราทุกคนคือ”ทีมประเทศไทย”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้กำชับทุกภาคส่วนในการตรวจสอบคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและต้องมีเพิ่มขึ้นทุกจุด ทุกพื้นที่ รวมถึงจุดตรวจของเอกชนและของสาธารณสุข ขณะที่ในส่วนของโรงพยาบาลสนามได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่แรก โดยต้องเร่งดำเนินการศูนย์คัดกรองและให้มีการประกาศไปเลยว่ามีที่ไหนบ้าง โดยต้องเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมการยกระดับเตียงโดยการบริหารจัดการเพิ่มและรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ โดยจัดหาให้ครบทุกกลุ่ม รวมถึงแพทย์เกษียณและนักศึกษาแพทย์

สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยยืนยันจะต้องดูแลคนทุกคนบนแผ่นดินไทย ส่วนการกำหนดจำนวนวัคซีนให้สอดคล้องกับจำนวนคนที่ต้องเร่งฉีด พร้อมกันนี้ให้เตรียมhome isolation โดยต้องเตรียมอุปกรณ์จัดหาให้พร้อม สิ่งสำคัญที่สุดต้องร่วมมือด้วยความเข้าใจให้ทุกคนทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจในแนวทางเดียวกัน ขณะที่ในส่วนด้านความมั่นคงได้สั่งการไปแล้ว เพื่อให้ทันสถานการณ์

ขณะเดียวกันขอให้สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์โลก โดยต้องให้ประชาชนรับรู้ว่าสถานการณ์ภายนอกยังไม่น่าไว้วางใจ นอกจากนี้การลักลอบเข้าแดนต้องเพิ่มความเข้มงวด  โดยตำรวจตระเวนชายแดนจะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการรับส่งกลับ อีกทั้งในส่วนของแรงงานต้องมีการลงไปสำรวจและขึ้นทะเบียน ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาเด็ดขาด ต้องทำลายกระบวนการลักลอบ

นายกฯ กำชับด้วยว่า ขณะเดียวกันต้องแก้ไขเฟคนิวส์ให้ได้ เพราะจะเป็นการสร้างความปั่นป่วน ย้ำว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวในที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบให้ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือน คือ ส.ค.-ก.ย.นี้ โดยรายละเอียดมาตรการและผลการประชุม ศบค.จะมีการแถลงให้ทราบต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img