วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกNEWS"ยุทธพงศ์" ตามแฉ "เฮีย ซ." ชักใยวิ่งเต้นขรก.ซี 9 สัปดาห์หน้าคิวถกกมธ.งบฯ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ยุทธพงศ์” ตามแฉ “เฮีย ซ.” ชักใยวิ่งเต้นขรก.ซี 9 สัปดาห์หน้าคิวถกกมธ.งบฯ

กมธ.งบฯ 66 พิจารณางบฯหน่วยในสังกัดก.คลังจบแล้ว ชงคุมเข้มปราบ น้ำมันเถื่อนเกลื่อนภาคใต้ ต้นเหตุราคาพุ่ง ด้าน “ยุทธพงศ์” จ่อแฉ “เฮีย ซ.” กรมน้ำ ชักใยวิ่งเต้นขรก.ซี 9 เงินสูงถึง 8 หลัก

วันที่ 10 มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 แถลงผลการประชุมกมธ.ฯ ครั้งที่4/2565

โดยนพ.บัญญัติ กล่าวว่า ในการพิจารณาเมื่อวานนี้ (9 มิถุนายน) กมธ. ได้ใช้เวลาในการพิจารณางบประมาณมาแล้วทั้งหมด 20 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวม 1 กระทรวง 10 หน่วยงาน 1 กองทุน โดยเมื่อวานนี้ได้พิจารณาหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังเพิ่มเติมอีก 6 หน่วยงาน 1 แผนงาน ดังนี้ 1.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ จำนวน 261,908,840,000 บาท เกี่ยวข้องกับแผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ส่วนราชการ 1 หน่วยงาน 6 รัฐวิสาหกิจ จำนวน 26,649,404,800 บาท 2.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ จำนวน 117,160,100 บาท 3.สำนักงารความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) จำนวน 580,000,000 บาท 4.กรมศุลกากร จำนวน 3,641,154,800 บาท 5.กรมสรรพสามิต จำนวน 2,217,291,900 บาท และ 6.กรมสรรพากร จำนวน 9,247,042,200 บาท

นพ.บัญญัติ กล่าวต่อว่า สำหรับการพิจารณางบประมาณของกรมสรรพสามิต ที่ประชุมกมธ.ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาราคาน้ำมันแพง เนื่องจากปัญหาสงครามรสเซีย-ยูเครน ปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งค่าเงินบาทอ่อนตัว มีกมธ.บางคนสอบถามว่า หน่วยงานมีแนวทางในการจัดการกับผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนอย่างไร โดยเฉพาะในภาคใต้ เพราะส่งผลทำให้น้ำมันมีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ ประมาณการณ์การจัดเก็บภาษีและรายได้ทั้งหมดของกรมสรรพสามิตในปี 2566 มีจำนวน 567,000 ล้านบาท โดยภาษีน้ำมันเป็นภาษีที่หน่วยงานจัดเก็บภาษีได้มากที่สุด แต่เมื่อมีผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนทำให้รัฐสูญเสียรายได้อย่างมาก

นพ.บัญญัติ กล่าวด้วยว่า ผู้แทนจากกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า มีการบูรณาการร่วมกันของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และกรรพสามิต เพื่อปราบปรามผู้ค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณ 138 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่ให้ใช้ทั้ง 5 หน่วยงาน ทำให้กรรมสามิตได้รับงบประมาณเพียง 7,550,000 บาทเท่านั้น แม้ว่าหน่วยงานจะเป็นผู้ตั้งคำของบประมาณในส่วนนี้เองก็ตาม

นพ.บัญญัติ กล่าวว่า มีประชาชนบอกมาว่า โครงการคนละครึ่งทำให้ร้านขายดีแต่พอยอดขายได้วันละ 5,000บาท 1 ปี ได้ 1,800,000 บาท ซึ่งกรมสรรพากรกลับให้ไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทันที แต่เมื่อโครงการสิ้นสุด ก็ทำให้ยอดขายตก แต่เมื่อจดทะเบียนแล้ว และไม่มีรายได้เข้ามา ก็ยังคงเก็บภาษี ไหนบอกว่าโครงการคนละครึ่งไม่เกี่ยวกับการรีดภาษีประชาชน ดังนั้นกรมสรรพากรต้องทำความเข้าใจประชาชน หรือผู้ที่จะสมัครเข้าโครงการคนละครึ่งว่า ให้ระวังไว้ ถ้ารายได้เข้าระบบเกิน ต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ถ้าไม่สมัครใจ ก็อย่าเข้าร่วมโครงการ กรมสรรพากรต้องบอกความจริง อย่าให้เขาเป็นเหยื่อของระบบตาข่ายภาษี เพราะคือภาระของประชาชน และกรมสรรพากร อย่าคิดเอาแต่จัดเก็บรายได้เข้าประเทศ ต้องคิดถึงเศรษฐกิจภาคครัวเรือน

ด้านนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในการพิจารณางบฯ66 วานนี้(9มิ.ย.) ตนได้ซักถามกรมศุลกากร สังกัดกระทรวงการคลัง เพราะมีเรื่องผิดปกติในเอกสารรายการงบประมาณ คือค่าบำรุงรักษากล้องCCTV ระยะเวลา5ปี จำนวน 670 ล้านบาท ที่ติดตั้งตามด่านศุลกากรทั่วประเทศ และค่าบำรุงเครื่องเอกซเรย์เพื่อคุมสินค้าเลี่ยงภาษี กว่า2,000เครื่อง โดยในเอกสารมีการตั้งงบฯล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เท่ากันในแต่ละปีกว่าร้อยล้านบาท ตนถามว่ารู้ได้ไงว่าในอนาคตกล้อง CCTV และเครื่องเอกซ์เรย์ฯ จะต้องเสียหายในจำนวนเงินที่เท่ากัน มันมีที่ไหน คาดว่าจะมีบริษัทเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่มีอิทธิพลในกรมศุลกากร ดำเนินการในเรื่องนี้ทั้งสิ้น ซึ่งทางอธิบดีกรมศุลกากร ได้ยืนยันว่าจะนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่กรณีน้ำมันเถื่อนที่มีการระบาดทางภาคใต้ติดชายแดนมาเลเซีย มีการค้าน้ำมันเถื่อนกันอย่างโจ๋งครึ่มบริเวณอ่าวไทย ทางกมธ.ฯจึงได้ขอดูสถิติการปราบปรามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีความคืบหน้าอย่างไร และต้องส่งมาให้ภายในกำหนดการพิจารณางบฯกระทรวงการคลัง และหน่วยงานในสังกัด ที่จะพิจารณาจบในวันนี้(10มิ.ย.) เวลา16.00น.

“ในวันจันทร์ที่13มิ.ย.นี้ เวลา13.00น. จะเป็นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมจะซักถามเรื่องการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการระดับ9 ของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรฯ ที่มี เฮีย ซ. มีชื่อคล้องกับเจ้าของร้านอาหารจีนชื่อดังย่านคลองสาน มีการวิ่งเต้นเรียกค่าตำแหน่งเป็นจำนวนถึง 8 หลัก ผมจะแฉให้หมดในวันดังกล่าว สื่อรอติดตามให้ดี” นายยุทธพงศ์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img