พิสดารพันลึก เรือยอร์ชของ 2 พี่น้องตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ไฟไหม้กลางดึก หลังจอดที่ “อ่าวปอ ภูเก็ต” โซเชียลขุดปูมหลังกันมันส์หยด พบถือครองเรือยอร์ช ตั้งแต่ 20 ต.ค.2560 แต่แจ้งป.ป.ช.ว่าถือครอง 26 มิ.ย.2561 ต่างกันถึง 8 เดือน แถมหมู่เกาะคุกที่ไปจดทะเบียนเรือ เป็นที่ทราบกันดีว่าคือแหล่งหลบเลี่ยงภาษี และ “ไม่สนใจคำสั่งศาลต่างประเทศ”
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าว The Key News รายงานว่า จากกรณีเมื่อเวลา 02.15 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือยอร์ชชื่อ Silvretta ขนาดระวาง 64 ฟุต ลักษณะเรือ 1 ชั้นครึ่ง สีขาว ชึ่งจอดลอยลำอยู่ที่ ท่าจอดเรือชื่อ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณบันไดท้ายเรือด้านขวา และลุกลามไปที่ท้ายเรือ ประมาณ 5 นาที ต่อมาเจ้าหน้าที่ รปภ.ได้รับแจ้งจึงช่วยกันดับไฟ สำรวจเบื้องต้นพบความเสียหายบริเวณท้ายเรือ ค่าเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้น มีรายงานว่า เจ้าของเรือสำราญดังกล่าวเป็นของนักการเมืองและเศรษฐีชื่อดัง อักษรย่อ “ธ”
ในเวลาต่อมา โลกโซเชียลมีการขยายผลถึงที่มาที่ไปของเรือยอร์ชลำดังกล่าวที่ชื่อ Silvretta โดย เพจ เสธPlay นำเสนอข้อมูลว่า…
1.ชื่อเรือยอร์ชในใบทะเบียนคือ “Silvretta” ตรงกับที่เป็นข่าวจริง
2.ในรายชื่อ Owner (เจ้าของ) มีเจ้าของร่วมสี่คน สองคนในนี้เป็นคนที่เรารู้จักกันดี คนแรกคือ ธนาธร ตรงตามที่เป็นข่าว และคนที่สองคือ สกุลธร
3.จุดที่มาร์คสีเขียวไว้ที่คือจุดที่ เสธ. สนใจมากที่สุดในทะเบียนนี้ มันบอกให้รู้ว่า เรือนี้จดทะเบียนที่หมู่เกาะคุก
หมู่เกาะคุก เป็นเขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ประกอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ 15 เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 240 ตาราง กิโลเมตร รายได้สำคัญของหมู่เกาะคุกมาจากการท่องเที่ยว ที่สำคัญคือหมู่เกาะคุก คือมันเป็นเขตปลอดภาษีครับ ในอีกด้านหนึ่ง มันเป็นเกาะที่ดังเรื่องการฟอกเงิน
เห็นได้ชัดว่าการจดทะเบียนทรัพย์สินจากที่นี่ย่อมแสดงให้เห็นถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์ อย่างแรกๆ เลยก็คือการเลี่ยงภาษี และน่าจะมีอย่างอื่นอีกที่เราไม่ทราบ
สรุปแบบกำปั้นทุบดินเลยก็คือ เรือเป็นของธนาธรจริงครับ และมีเรื่องแปลกๆ แฝงมาอย่างการหลบไปจดทะเบียนเรือที่เกาะคุกด้วย เบื้องต้น เสธ. คิดว่าก็เพื่อเลี่ยงภาษี มากกว่านี้ยังไม่ทราบ เพราะไม่เคยรวยขนาดซื้อเรือยอร์ชได้แบบธนาธรครับ
ทางด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวเรื่อง #ฝากสื่อมวลชนและป.ป.ช.ตรวจสอบด่วน มีเนื้อหาดังนี้…ช่วยกันครับ ตรวจสอบข้อมูลนี้ว่ามีข้อเท็จจริงแค่ไหนประการใด ที่สำคัญควรเปรียบเทียบกับบัญชีที่ยื่นต่อป.ป.ช. ก่อนและหลังพ้นตำแหน่งด้วย ว่า มีเรือยอร์ชลำนี้อยู่ในบัญชีที่แจ้งหรือไม่ ถ้าไม่มี ท่าทางจะยุ่ง…………และสงสัยว่าจะผิดกฎหมายป.ป.ช.ในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จแล้วกระมังครับ?
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (ในขณะนั้น) กรณีเข้ารับตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2562 ต่อคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 นายธนาธร แจ้งทรัพย์สินรวม นางรวิพรรณ คู่สมรส 5,632,536,266.2 บาท หนี้สินรวม 683,303.45 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,631,852,962.75 บาท โดยครั้งนั้น นายธนาธร แจ้งว่ามียานพาหนะ 11,300,000 บาท จำแนกเป็น รถยนต์ตู้ ยี่ห้อ Alphard 1 คัน รถกะบะยี่ห้อนิสสัน 1 คัน และ เรือยอร์ช มูลค่า 10 ล้านบาท ได้มาเมื่อ 26 มิ.ย.2561 ขณะที่ นางรวิพรรณ คู่สมรส แจ้งมียานพาหนะ รวม มูลค่า 4,300,000 บาท 3 รายการได้แก่รถยนต์ รถตู้ยี่ห้อฮุนได้ 1 คัน ยี่ห้อ Alphard 1 คัน และรถยนต์ยี่ห้อ LEXUS 1 คัน ทั้งนี้ในส่วนของเรือยอร์ชนายธนาธรแจ้งว่าถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับบุคคลอื่น นายธนาธรถือกรรมสิทธิ์ 20%
ทั้งนี้นายธนาธร ได้แจ้งว่าถือครองเรือยอร์ช มูลค่า 10 ล้านบาท ได้มาเมื่อ 26 มิ.ย.2561 โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดของเรือยอร์ชที่ถือครองว่าเป็นรุ่นใด ยี่ห้อใด แต่เมื่อตรวจสอบในใบ Cook Islands Certificate of Registry พบว่า วันที่ลงทะเบียน (Date of Registration) คือวันที่ 20 ต.ค.2560 (20 Oct 2017) ซึ่งปรากฏชื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่บ้านเลขที่ 157 เลควิลล์ วิลล่า แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ถือหุ้นในเรือยอร์ช Silvretta จำนวน 20% ร่วมกับน้องชายคือนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถือหุ้น 20% เช่นกัน โดยจดทะเบียนที่หมู่เกาะคุก (Cook Islands) นั่นหมายความว่า การแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ที่ระบุว่า ถือครองเรือยอร์ช เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2561 ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในใบ Cook Islands Certificate of Registry ซึ่งระบุวันลงทะเบียนคือ 20 ต.ค.2560 ซึ่งระยะเวลาห่างกันเกือบ 8 เดือน
ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีการไปจดทะเบียนเรือดังกล่าวในต่างประเทศ โดยผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Apichart Khrue ระบุว่า…#ให้เด็กตะโกน “ภาษีกู” แต่ตัวเองไปจดทะเบียนเรือต่างประเทศ #เพื่อเลี่ยงภาษี หนีการตรวจสอบรายได้ เพราะเรือไม่มีไฟแนนซ์ ต้องซื้อเงินสดเท่านั้น ถ้าเป็นเรือจดทะเบียนต่างประเทศ จะจอดในน่านน้ำไทยได้ไม่เกิน 6 เดือน หากเกินกำหนดต้องจ่ายค่าปรับวันละ 500 บาท เรือไฟไหม้ จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี ?
Cr:teabhoky @teabhoky
5:51 AM · Dec 24, 2020·Twitter Web App
https://twitter.com/teabhoky/status/134187915367553843
เมื่อตรวจสอบไปยังปูมหลังของ หมู่เกาะคุก (Cook Islands) พบว่า ตั้งแต่ประมาณปี 2532 ได้กลายเป็นสถานที่ที่เชี่ยวชาญในการปกป้องทรัพย์สินที่เรียกว่า “ทรัสต์” ซึ่งนักลงทุนได้ปกป้องทรัพย์สินจากการเข้าถึงของเจ้าหนี้และหน่วยงานทางกฎหมาย โดยตามรายงานของ The New York Times พบว่า Cook Islands มี “กฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทรัพย์สินของชาวต่างชาติจากการเรียกร้องทางกฎหมายในประเทศบ้านเกิดของตน” ซึ่งเห็นได้ชัดว่า สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของชาวอเมริกัน เจ้าหนี้ต้องเดินทางไปยังหมู่เกาะคุกและโต้แย้งคดีของตนภายใต้กฎหมาย Cook โดยมักจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องห้าม ต่างจากเขตอำนาจศาลต่างประเทศอื่น ๆ เช่น หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หมู่เกาะเคย์แมน และสวิตเซอร์แลนด์ โดยทั่วไปแล้ว Cook Islands “ไม่สนใจคำสั่งศาลต่างประเทศ” และไม่ต้องการให้บัญชีธนาคารอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ได้รับการคุ้มครองจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง (การเปิดเผยชื่อถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับ Cook Trusts) ตั้งอยู่ภายในหมู่เกาะ ภาษีจากทรัสต์และพนักงานที่ไว้วางใจคิดเป็น 8% ของเศรษฐกิจหมู่เกาะคุกซึ่งอยู่เบื้องหลังการท่องเที่ยว แต่นำหน้าการตกปลา
อ้างอิง
https://www.nytimes.com/…/paradise-of-untouchable…
https://www.offshore-protection.com/cook-islands-trust….
ล่าสุด มีรายงานว่า นายปรัชญา รุจิราวรรักษ์ ในฐานะกัปตันเรือ ได้รับมอบหมายจากเจ้าของเรือ ให้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเนื้อหาของบันทึกประจำวันมีดังนี้…
นายปรัชญา รุจิราวรรักษ์ อายุ 34 ปี 102 ม.4 ต.ท่าดี อ.ลานสภา จ.นครศรีธรรมราช มาพบ พงส. แจ้งว่า ขณะที่ตนเองซึ่งเป็นกัปตันเรือ Silvretta (ซึ่งเป็นเรือยอร์ช) ได้จอดเรือดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 17.00 น. ต่อมาผู้แจ้งได้เดินทางพักผ่อนที่หมู่บ้านพรหมพันธุ์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ต่อมาเวลาประมาณ 02.15 น. ของวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ได้มีหัวหน้าผู้ดูแลเรือดังกล่าว โทรศัพท์มาแจ้งกับผู้แจ้งว่า เรือของผู้แจ้งได้มีไฟลุกไหม้บริเวณท้ายเรือ ซึ่งมีเรือลำเล็กจอดอยู่บนเรือดังกล่าว ทำให้เรือดังกล่าวได้รับความเสียหาย หลังจากทราบเรื่อง ผู้แจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่จอดเรือ เห็นเรือได้รับความเสียหาย จากนั้นผู้แจ้งจึงติดต่อไปยังเจ้าของเรือ จากนั้นเจ้าของเรือจึงให้ผู้แจ้งมาบันทึกลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
เหตุเกิด ท่าเทียบเรือ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ม.6 ต.ปากคลอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 03.15 น.
