วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกNEWS“ชัชชาติ”หารือ“กมธ.คมนาคม” ชงโอน“ตร.จราจร”ขึ้นตรงกทม.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชัชชาติ”หารือ“กมธ.คมนาคม” ชงโอน“ตร.จราจร”ขึ้นตรงกทม.

‘ชัชชาติ’ โผล่สภาฯผนึก ‘กมธ.คมนาคม’ คุยกรุยทางแก้ระบบสัญจรเมืองกรุงฯ-ปริมณฑล เผยแนวคิดเตรียมโอน ‘ตร.จราจร’ ขึ้นตรงกทม. รับหนักอกแก้ปม ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ มาพร้อมกับหนี้แสนล้าน แจงเก็บ59บาทตลอดสาย หวังสาง ’ส่วนต่อขยายที่2’ ทันที หักอก ‘ตั๋วร่วม’ ไม่ช่วยแก้โครงสร้าง แค่ช่วยอำนวยความสะดวกชำระเงิน จ่อคุย ‘ปธ.กรุงเทพธนาคม’ เคาะคืบหน้า2ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระที่สำคัญคือการพิจารณาแนวนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยกมธ.ฯ ได้เชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ข้อเสนอแนวคิดเก็บค่าโดยสารเพดานไม่เกิน59บาท เป็นต้น

นายโสภณ กล่าวว่า ที่เชิญนายชัชชาติมาวันนี้ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงการจัดการการคมนาคมทั้งระบบ ในช่วงวาระการดำรงตำแหน่ง4ปีของผู้ว่าฯกทม. เราอยากฟังว่านายชัชชาติจะทำอะไรบ้าง ทางกมธ.ฯจะได้ช่วยสนับสนุนหากติดขัดเกี่ยวกับกฎหมายประการใด เพื่อให้การทำงานเดินไปได้ ถ้าความเห็นตรงกัน ผู้ว่าฯกทม.สามารถตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานร่วมกับกมธ.ฯ ในการศึกษาการคมนาคมของกทม.

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ถ้าเราดูการทำงานในนโยบายด้านคมนาคม ก็เป็นนโยบาย1ใน9ด้านของกทม. เกี่ยวกับการสัญจร ซึ่งเราเตรียมจะทำระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีร่วมกับตำรวจ จะมีกล้องควบคุมสภาพการจราจรเชื่อมโยงไปถึงการจ่ายใบสั่งหรือค่าปรับ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงสภาพถนนจะดึงเทศกิจมาช่วยการจราจรในกทม. ในอนาคตอาจมีแนวคิดโอนตำรวจจราจรมาขึ้นตรงกับกทม. แต่ยังมีภารกิจที่ยังเกี่ยวพันกันอยู่ ต้องดูว่าจะพร้อมแค่ไหนหากโอนมาแล้ว กทม.ได้มีการโอนย้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาแล้ว ส่วนระบบขนส่งมวลชน กทม.มีแนวคิดเดินรถเมล์เองในบางจุดเสริม ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) โดยกทม.จะขอใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อเดินรถเสริมในบางเส้นทางร่วมกับขสมก. ขณะเดียวกันจะเตรียมเพิ่มจำนวนรถเมล์สำหรับผู้พิการด้วย

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาที่หนักอกที่สุดคือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว กทม.จะมีรถไฟฟ้าในการดูแล2สายคือ 1.รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ และช่วงพระโขนง-พระราม3 เลียบทางด่วนรวมอินทราอาจณรงค์-พระราม3 และ 2.สายสีเงิน ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ ขณะนี้มีแนวคิดว่าการก่อสร้างโครงการใหญ่ต้องให้รัฐบาลเป็นผู้ลงทุน เพราะกทม.ไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญ หากกทม.เป็นเจ้าของรถไฟฟ้าเพิ่ม ก็จะกลายเป็นว่าแยกจากระบบขนส่งรวมจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ถ้าเกิดว่าสามารถรวมให้เกิดตั๋วราคาเดียวกัน หรือตั๋วร่วม และมีเจ้าของเพียงผู้เดียว เหมือนอย่างฮ่องกง หรืออังกฤษ ดังนั้นรถไฟฟ้า2สายที่กทม.ดูแล จะเจรจาว่าสามารถให้รัฐบาลดูแลเพียงผู้เดียวได้หรือไม่

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว กำลังคลี่คลายปัญหาอยู่ เนื่องจากสัญญาจะหมดในปี 2572 แต่บังเอิญมีการต่อสัญญาล่วงหน้าออกไปอีกจากปี2572-2585 ในการจ้างเอกชนเดินรถ เมื่อมีสัญญาผูกพันกับเอกชนแล้ว ต้องไปดูเงื่อนไขว่า เราจะทำอะไรเกินจำเป็นไม่ได้ รวมทั้งมีภาระเรื่องหนี้ที่รัฐบาลลงทุนไป แล้วโอนมาให้กทม. รวมกับหนี้ที่จ้างเดินรถประมาณ100,000ล้านบาทที่ยังค้างชำระ แต่ต้องมาพิจารณาอีกทีว่าจะแบ่งจ่ายอย่างไร นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราก็คงต้องดูแลต่อไป

นายชัชชาติ กล่าวถึงข้อเสนอของให้เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าในเพดานไม่เกิน59บาทว่า รถไฟฟ้าแบ่งเป็น3ส่วน ส่วนขยายที่1เราเก็บค่าโดยสาร15บาท ส่วนไข่แดงเก็บค่าโดยสาร44บาท แต่ส่วนขยายที่2ไม่เคยเก็บเลย แต่ไม่ได้ฟรีเนื่องจากกทม.จ้างเอกชนเดินรถ ซึ่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย TDRI จึงเสนอให้ขยายเพดานเป็นไม่เกิน59บาทในทั้ง3ส่วน ขณะที่สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกมาระบุ มีประชาชนเพียง3เปอร์เซ็นต์ที่ใช้บริการรถไฟฟ้า ซึ่งหากเอาภาษีประชาชนไปใช้จ่ายในส่วนนี้อาจจะไม่ค่อยแฟร์นั้น ยืนยันว่าแนวคิดการเก็บค่าโดยสารเพดานไม่เกิน59บาท เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นในส่วนขยายที่2เท่านั้น สำหรับข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่ให้เก็บค่าโดยสารเพดานไม่เกิน44บาท จึงเป็นไปได้ยาก เพราะแค่ในส่วนไข่แดงเก็บ44บาทก็ขาดทุนแล้ว นอกจากนี้แนวคิดตั๋วร่วม อย่าเข้าใจผิดว่าจะเป็นวิธีแก้ไขปัญหาราคารถไฟฟ้าได้ เพราะตั๋วร่วมเป็นเพียงการอำนวยความสะดวกในการชำระเงิน แต่ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างราคา ปัจจุบันมีการใช้ระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพียงใช้บัตรเครดิตก็สามารถใช้บริการได้ทุกที่

ต่อมาภายหลังหารือแล้วเสร็จ ในเวลา12.00น. นายโสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เราอยากทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. คือมาเอ็กซเรย์ปัญหาและกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานในกทม. โดยทางกมธ.จะตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาและแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยทางผู้ว่าฯ กทม. จะส่งคนมาร่วมเป็นอนุกรรมาธิการด้วย

ขณะที่นายชัชชาติ กล่าวว่า การทำงานของ กทม.ต้องประสานกับหลายหน่วยงานรวมทั้งรัฐบาลด้วย เพราะหลายอย่างไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา รวมทั้งกฎหมายต่างๆ บางครั้งอาจจะต้องมีการปรับแก้เพื่อให้กฎหมายที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์คนกทม.ได้ จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่กมธ.เชิญมาเพราะสุดท้ายแล้วประชาชนจะได้ประโยชน์ และการตั้งอนุกรรมาธิการฯ เพื่อที่จะได้เห็นปัญหาและแก้ปัญหาได้เลย ส่วนเรื่องปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว สัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้า โดยตนจะพบนายธงทอง จันทรางศุ ประธานบริษัทกรุงเทพธนาคมจำกัด (เคที) ในวันที่ 2 ก.ค.นี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img