“นิโรธ” อุบ “พปชร” หนุนสูตรหาร 500 ชวาง “เพื่อไทย” แลนสไลด์ เผย “บิ๊กป้อม” เร่งเดินหน้าปล่อยนโยบายพปชร.สู้ -กระแส “ชัชชาติ ฟีเวอร์”
วันที่ 5 ก.ค.65 ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมโหวตร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ให้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้หาร 500 ว่า พรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ และมองเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาชั้นกรรมาธิการ ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างน้อยและเสียงข้างมากยังคงมีข้อถกเถียงเรื่องของสูตรการคำนวณอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับมาสู่การพิจารณาในวาระ 2 ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกที่จะต้องร่วมกันพิจารณา ทั้งนี้เห็นว่า การใช้สูตร หาร 100 หรือ 500 ต้องยอมรับว่ามีผลต่อการเลือกตั้งของส.ส. จึงเชื่อว่าทุกคนจะพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ จะโหวตแนวทางหาร 500 เพื่อพลิกเกมสกัดแลนสไลด์พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้มองประเด็นนี้ พรรคพลังประชารัฐพร้อมหมด ไม่ว่าจะหาร 500 หรือ หาร 100 และมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐ กลับมาได้อยู่แล้วในการเลือกตั้งครั้งหน้า และไม่ว่าจะใช้สูตรคำนวณใดก็ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน
“ในส่วนของวิปรัฐบาล ยังไม่ได้มีมติเรื่องของการโหวตสูตรคำนวณ ว่า จะออกมาในทางใด ขอให้เป็นเรื่องที่กรรมาธิการเสมอและเป็นดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภา จากนั้นค่อยกลับมาคุยในวิปรัฐบาลอีกครั้ง”ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
นายนิโรธ ยังกล่าวถึงกระแสชัชชาติ ฟีเวอร์ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองประเด็นนี้ตั้งแต่นายชัชชาติ ได้รับการเลือกตั้งแล้ว และพยายามทบทวนแนวทางการขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐ จะเห็นได้ชัดว่า ตอนนี้เริ่มขยับ ทั้งนโยบาย 3 เสาหลัก เศรษฐกิจฐานราก เรื่องน้ำ มีเราไม่มีแล้ง รวมถึงจะมีการจัดเวทีโรดโชว์ไปตามภาคต่างๆ 10 พื้นที่ นอกจากนี้ยังจะมีนโยบายใหม่ๆที่จะออกมานำเสนอประชาชน
เมื่อถามว่า ยังคงมั่นใจการต่อสู้กระแสชัชชาติฟีเวอร์ได้หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า นายชัชชาติ มีบุคลิกทำงานของท่าน และคิดว่าคน กทม.ตัดสินใจเลือกนายชัชชาติ ตั้งแต่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่านายชัชชาติ คงไม่คิดกลับมาเล่นการเมืองในสนามเลือกตั้งใหญ่ เพราะนายชัชชาติ มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ไม่เช่นนั้นคงไม่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย
