Marine Energy พลังงานที่ยั่งยืนจากทรัพยากรทางทะเล

- Advertisement -

6 กันยายน 2568

Marine Energy: Sustainable Energy from Marine Resources

“….เทคโนโลยีพลังงานทางทะเล มีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคงภายใต้การวิจัย และพัฒนาที่รุดหน้าด้วยความสามารถในการผลิตกำลังไฟฟ้าปริมาณมากขึ้นอีกจากกระแสน้ำความเร็วต่ำ….”

พลังงานทางทะเล Marine Energy หรือที่เรียกอีกอย่างว่า พลังงานมหาสมุทร Ocean Energy นั้น ใช้ประโยชน์จากพลังงานการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของมหาสมุทร Ocean’s Natural Movements เช่น คลื่น Waves, น้ำขึ้นน้ำลง Tides และกระแสน้ำ Currents ตลอดจนความแตกต่างของอุณหภูมิ และระดับความเค็ม Temperature & Salinity Level Differences เพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียน Generate Renewable Energy ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น เครื่องแปลงพลังงานคลื่น Wave Energy Converters, กังหันน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Turbines และการแปลงพลังงานจากความร้อนของมหาสมุทร Ocean Thermal Energy Conversion: OTEC หากแต่พลังงานมหาสมุทร Ocean Energy โดยทั่วไปจะไม่นับรวมกำลังไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Offshore Wind Power เอาไว้ด้วย โดยแยกประเภทไปรวมกับกลุ่มของพลังงานลม Wind Energy .. อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน พลังงานทางทะเล Marine Energy คือ ทรัพยากรพลังงานขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์มากนัก โดยมีศักยภาพที่จะสนับสนุนความต้องการพลังงานสะอาดทั่วโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ Significantly to Global Clean Energy Needs ..

Marine Energy / Mocean Energy’s Blue X Wave Energy Prototype for Marine Renewable Energy Developers | Credit: Mocean Energy

ทั้งนี้ พลังงานทางทะเล Marine Energy คือ รูปแบบหนึ่งของพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy: RE ที่ได้มาจากการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ Ocean’s Natural Movements และการไล่ระดับความร้อนของมหาสมุทร Thermal Gradients โดยครอบคลุมเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ดักจับพลังงานจลน์ของคลื่น Capture the Kinetic Energy of Waves, น้ำขึ้นน้ำลง Tides, กระแสน้ำในมหาสมุทร Ocean Currents รวมทั้งพลังงานความร้อนจากความแตกต่างของอุณหภูมิ และความเค็มในน้ำ Thermal Energy from Temperature & Salinity Level Differences in the Water และยังรวมไปถึงพลังงานกระแสน้ำในแม่น้ำ River Current Energy มาพร้อมด้วย นั่นเอง โดยแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้ :-

– พลังงานคลื่น Wave Energy : การดักจับพลังงานของคลื่นมหาสมุทร Captures the Energy of Ocean Waves โดยใช้เครื่องมือ เช่น ทุ่น Buoys หรือเสาน้ำที่แกว่งไปมา Oscillating Water Columns เป็นต้นนั้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การผลิตกำลังไฟฟ้า Power Generation, การแยกเกลือออกจากน้ำ Desalination และการสูบน้ำ Water Pumping ซึ่งพลังงานคลื่น Wave Energy คือ พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และยั่งยืน Clean & Sustainable Renewable Energy ..

– พลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Energy : การใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่ของกระแสน้ำขึ้นน้ำลง Utilizes the Movement of Tides ไม่ว่าจะเป็นช่วงระยะน้ำขึ้นน้ำลงในเขื่อนกั้นน้ำ Tidal Range in Barrages หรือกระแสน้ำขึ้นน้ำลงผ่านกังหันน้ำ Tidal Streams through Turbines .. ทั้งนี้ พลังงานที่ได้จากกระแสน้ำขึ้นน้ำลงตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ที่มีต่อโลก โดยการผลิตกำลังไฟฟ้าจากพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Power Generation นั้น สามารถกระทำได้โดยการสร้างเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำบริเวณปากแม่น้ำ หรืออ่าวที่มีการขึ้นลงของน้ำสูง จากนั้นเมื่อน้ำขึ้นน้ำจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำผ่านกังหันน้ำ และเมื่อน้ำลง น้ำจะไหลออกจากอ่างเก็บน้ำผ่านกังหันน้ำเช่นกัน ซึ่งการหมุนของกังหันน้ำ Water Turbines จะถูกนำไปใช้ในการผลิตกำลังไฟฟ้า Generate Electricity ..

– พลังงานกระแสน้ำในมหาสมุทร Ocean Current Energy : การใช้ประโยชน์จากพลังงานจลน์ของกระแสน้ำในมหาสมุทร Harnesses the Kinetic Energy of Ocean Currents โดยใช้กังหันน้ำใต้น้ำ Underwater Turbines หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานจลน์ของกระแสน้ำ Convert the Kinetic Energy of the Water Currents ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ..

– การแปลงพลังงานความร้อนในมหาสมุทร Ocean Thermal Energy Conversion: OTEC : หมายถึง การแปลงความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผิวน้ำที่อุณหภูมิสูง หรืออุ่นกว่า และน้ำทะเลลึกที่เย็นกว่า ให้เป็นกำลังไฟฟ้า Converts the Temperature Difference between Warm Surface Water & Cold Deep – Sea Water into Electricity โดยใช้ความร้อนจากน้ำทะเลผิวน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ไปทำระเหยของเหลวที่มีจุดเดือดต่ำ เช่น แอมโมเนีย Ammonia: NH₃ หรือโพรเพน Propane: C₃H₈ แล้วใช้ไอระเหยนั้นหมุนกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า Spin the Turbines to Generate Electricity .. หลังจากที่ไอระเหยผ่านกังหันแล้ว จะถูกนำไปควบแน่นเป็นของเหลวอีกครั้งโดยใช้น้ำทะเลเย็นจากส่วนลึกของมหาสมุทร ซึ่งของเหลวแอมโมเนีย Ammonia: NH₃ หรือโพรเพน Propane: C₃H₈ ที่ควบแน่นแล้ว จะถูกนำกลับไปใช้ในกระบวนการระเหยอีกครั้ง ทำให้เกิดการหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง .. ทั้งนี้ โดยทั่วไปต้องมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน 20°C ขึ้นไป ..

– พลังงานความต่างของความเค็ม Salinity Gradient Energy : บางครั้งเรียกว่า พลังงานออสโมติก Osmotic Power การใช้ประโยชน์จากพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อน้ำจืด และน้ำเค็มผสมกัน Exploits the Energy Released when Freshwater & Saltwater Mix .. พวกมัน คือ พลังงานที่ได้จากความแตกต่างของความเข้มข้นของสารละลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างน้ำจืด และน้ำทะเล ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการผลิตกำลังไฟฟ้าได้นั่นเอง .. ทั้งนี้ หลักการสำคัญ ได้แก่ การใช้กระบวนการออสโมซิส Osmosis ซึ่งเป็นกระบวนการที่น้ำจะเคลื่อนที่ผ่านเยื่อกั้นจากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารละลายต่ำไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงกว่า โดยเมื่อน้ำจืด และน้ำทะเลที่มีความเข้มข้นต่างกันถูกกั้นด้วยเยื่อเลือกผ่าน Semi – Permeable Membrane ที่ยอมให้น้ำผ่านได้ แต่ไม่ยอมให้เกลือผ่าน Allows Water to Pass Through, but Does not Allow Salt to Pass Through น้ำจะไหลจากฝั่งน้ำจืดไปยังฝั่งน้ำทะเล ทำให้เกิดแรงดัน ซึ่งแรงดันนี้สามารถนำไปใช้ในการขับเคลื่อนกังหัน หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ ..

Marine Energy / Salinity Gradient Energy | Credit: Ocean Energy Europe

– พลังงานแม่น้ำ Riverine Energy : พลังงานกระแสน้ำในแม่น้ำ River Current Energy หรือพลังงานจลน์ของน้ำ Hydrokinetic Energy หมายถึง การสกัดพลังงานจลน์จากน้ำที่ไหลในแม่น้ำเพื่อผลิตกำลังไฟฟ้า Extraction of Kinetic Energy from Flowing Water in Rivers to Generate Electricity โดยทั่วไปจะใช้กังหันน้ำ Water Turbines เพื่อเปลี่ยนพลังงานจลน์ของน้ำให้เป็นพลังงานกล Convert the Kinetic Energy of Water into Mechanical Energy จากนั้น พลังงานกลนี้จะถูกนำไปใช้ในการผลิตกำลังไฟฟ้า หรือใช้ประโยชน์อื่น ๆ Power Generation or Other Uses ..

เป็นที่ชัดเจนว่า มหาสมุทร Oceans มีพลังงานจำนวนมหาศาล Huge Amount of Energy .. การดักจับพลังงานเหล่านี้ Capturing This Energy มาใช้งาน จะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมากมาย .. พลังงานในคลื่นมหาสมุทร Energy in the Ocean Waves คือ รูปแบบหนึ่งของพลังงานแสงอาทิตย์เข้มข้น Form of Concentrated Solar Energy ซึ่งถ่ายโอนผ่านปฏิสัมพันธ์ระหว่างคลื่นลมที่ซับซ้อน Transferred through Complex Wind – Wave Interactions .. ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกอันเนื่องมาจากความร้อนจากแสงอาทิตย์ ร่วมกับปรากฏการณ์ในชั้นบรรยากาศมากมาย ก่อให้เกิดกระแสลมระดับโลก การสร้าง การแพร่กระจาย และทิศทางของคลื่นทะเลมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระแสลมเหล่านี้ ..

ในอีกแง่มุมหนึ่ง กระแสน้ำในมหาสมุทร Ocean Tides คือ การเปลี่ยนแปลงแบบเป็นวัฏจักรในระดับความสูงของน้ำทะเล Cyclic Variations in Seawater Elevation และความเร็วของกระแสน้ำ Flow Velocity ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเคลื่อนที่ของโลกเมื่อเทียบกับดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ Direct Result of the Earth’s Motion with Respect to the Moon & the Sun และรวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างแรงโน้มถ่วงของทั้ง 2 ปรากฏการณ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเอียงของการหมุนของโลก Earth Rotational Tilt, อัตราการหมุน Rate of Spinning และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแรงโน้มถ่วง และการหมุน Interaction among Gravitational & Rotational Forces ทำให้สภาวะของกระแสน้ำเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไป Tide Conditions to Vary Significantly Over Time .. สภาวะของกระแสน้ำ Tide Conditions จะเห็นได้ชัดขึ้นในบริเวณชายฝั่งช่องแคบที่จำกัด ทำให้การไหลของน้ำเพิ่มขึ้น Increased Water Flow และเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน Increase the Energy Density อีกด้วย เป็นต้น ..

World’s Largest Tidal Plant Opening in France in 2012 | Credit: Marine Insight

ประโยชน์ที่ได้จากพลังงานทางทะเล Benefits of Marine Energy นั้น มีอยู่อย่างมากมาย .. พวกมัน คือ แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน Sustainable & Renewable Sources ซึ่งได้มาจากกระบวนการทางธรรมชาติ Natural Processes จึงถือเป็นหนึ่งในสุดยอดพลังงานสะอาดไร้ขีดจำกัดที่ใช้ผลิตกำลังไฟฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยมโดยปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย Minimal or No Greenhouse Gas Emissions .. มหาสมุทร Oceans มีพลังงานมหาศาล Tremendous Amount of Energy ซึ่งมีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อความต้องการพลังงานทั่วโลก Significant Contribution to Global Energy Needs ซึ่งเชื่อถือได้ และคาดเดาได้ Reliable & Predictable .. นอกจากนั้น การวางระบบพลังงานทางทะเล Marine Energy System Installation ใกล้ศูนย์กลางประชากร Close to Population Centers ในพื้นที่ภูมิภาคชายฝั่งจำนวนมากที่มีความต้องการพลังงานสูง High Energy Demand อยู่ใกล้กับแหล่งพลังงานทางทะเล จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนได้เป็นอย่างดี และคุ้มค่าต่อการลงทุน Worth the Investments ..

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย และข้อควรพิจารณา Challenges & Considerations อีกมากด้วยเช่นกัน ได้แก่ ต้นทุนเริ่มต้นสูง High Initial Costs หมายถึง การพัฒนา และปรับใช้เทคโนโลยีพลังงานทางทะเล Developing & Deploying Marine Energy Technologies อาจมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงข้อพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Environmental Impacts แม้ว่า โดยทั่วไปแล้ว พลังงานทางทะเล Marine Energy คือ พลังงานสะอาด Clean Energy แต่การพัฒนาพลังงานทางทะเล Marine Energy Development ก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และสัตว์ป่า Impact Marine Ecosystems & Wildlife มาพร้อมด้วยได้ ดังนั้น การวางแผนอย่างรอบคอบ และกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบ Careful Planning & Mitigation Strategies จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ..

ปัจจุบัน การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางทะเลหลายอย่าง Technological Development of Many Marine Energy Technologies ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และต้องการการวิจัย รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกมาก โดยความสามารถในการปรับขนาด และการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทางทะเลเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในระดับขนาดใหญ่ Marine Energy Production to Meet Large – Scale Energy Demands นั้น ถือเป็นความท้าทายสำหรับอนาคตจากนี้ไป ..

โดยสรุปแล้ว พลังงานทางทะเล Marine Energy มีศักยภาพที่จะแสดงบทบาทสำคัญอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน Important Role in the Sustainable Energy Future แม้ว่าจะมีความท้าทายในด้านต้นทุน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาด้านเทคโนโลยี แต่การวิจัย นวัตกรรม และนโยบายสนับสนุนที่ดำเนินอยู่ ทำให้คาดหมายได้ว่า พวกมัน กำลังปูทางไปสู่การนำแหล่งพลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียนนี้มาใช้ในวงกว้างให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

พลังงานทางทะเล Marine Energy บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของสมดุลธรรมชาติ Strength of the Natural Balance ..

มหาสมุทร Oceans คือ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ยักษ์ และเป็นศูนย์กลางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก Central to Reducing Global Greenhouse Gas Emissions รวมทั้งทำให้สภาพอากาศของโลกมีเสถียรภาพ Stabilizing the Earth’s Climate ด้วยพลังแห่งสมดุลธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ..

มหาสมุทร Oceans สร้างออกซิเจน Oxygen: O₂ มากกว่า 50 % ที่มนุษยชาติต้องการบนโลกใบนี้ ดูดซับ 25 % ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO₂ ทั้งหมด และดักจับ 90 % ของความร้อนส่วนเกิน Excess Heat ที่เกิดจากการปล่อยคายเหล่านี้ไว้ .. มหาสมุทร Oceans มิใช่แค่ “ปอดของโลก The Lungs of the Planet” เท่านั้น แต่ยังรวมถึง “อ่างรองรับคาร์บอน Carbon Sinks” ที่ใหญ่ที่สุดด้วย ซึ่งเป็นด่านปราการที่สำคัญสำหรับการลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change รวมทั้งมหาสมุทร The Oceans ยังเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนไร้ขีดจำกัด Unlimited Renewable Energy Sources ที่มีศักยภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานของมนุษยชาติบนโลกใบนี้ทั้งหมดได้ High Potential to Meet All Human’s Energy Demand on This Planet ..

ศักยภาพของมหาสมุทร Potential of the Oceans เช่น พลังงานทางทะเล Marine Energy, พลังงานคลื่น Wave Energy, พลังน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Energy, พลังงานกระแสน้ำในมหาสมุทร Ocean Current Energy, การแปลงพลังงานความร้อนในมหาสมุทร Ocean Thermal Energy Conversion: OTEC, พลังงานความต่างของความเค็ม Salinity Gradient Energy และแบตเตอรี่มหาสมุทร Ocean Batteries เป็นต้นนั้น ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์ไร้ขีดจำกัด Unlimited Abundant Energy Sources ..

กระแสน้ำขึ้นลง Tides เป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ และสัมพัทธภาพระหว่างแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ Gravitation of the Sun, Earth & Moon ที่พบเห็นได้ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ .. การขึ้น และลงของกระแสน้ำ ในบางกรณีที่ระดับน้ำต่างกันมากกว่า 12 เมตร สร้างพลังงานศักย์ Potential Energy ปริมาณมหาศาล .. กระแสน้ำที่เกิดจากน้ำไหลท่วมขึ้น และกระแสน้ำที่ไหลลดลง ทำให้เกิดพลังงานจลน์ Kinetic Energy ปริมาณมากด้วยเช่นกัน .. พลังงานทั้ง 2 รูปแบบในมหาสมุทรนี้ สามารถเก็บเกี่ยวรวบรวมมาใช้ประโยชน์ได้ด้วยเทคโนโลยีพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Energy Technologies ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy ในอนาคตที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด ..

ระบบพลังงานในมหาสมุทร Ocean Energy Systems ใช้พลังงานจลน์ และพลังงานความร้อนของน้ำทะเล เช่น คลื่น หรือกระแสน้ำ Kinetic & Thermal Energy of Seawater เพื่อผลิตกำลังไฟฟ้า Electricity หรือความร้อน Heat .. ระบบพลังงานหมุนเวียนในมหาสมุทร Ocean or Marine Renewable Energy Systems ถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา โดยมีต้นแบบที่พัฒนาขึ้นจำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อประยุกต์ใช้พลังงานจากคลื่น และอุปกรณ์กระแสน้ำขึ้นน้ำลง Wave & Tidal Current Devices .. พลังงานทางทะเล Marine Energy มีศักยภาพเกินความต้องการพลังงานของมนุษย์ชาติในปัจจุบันอย่างมากมาย ไม่มีข้อสงสัย ..

ตัวอย่างการผลิตกำลังไฟฟ้าจากเทคโนโลยีทางทะเล Electricity Generation from Marine Technologies เพิ่มขึ้นแตะระดับความจุประมาณ 400 GWh หรือขยายตัวมากกว่า 33 % ในปี 2563 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของเดนมาร์ก อยู่ที่ 200 MW .. อย่างไรก็ตาม แม้ศักยภาพของพลังงานทางทะเล Marine Energy จะมีอยู่อย่างมหาศาล แต่สถานะของกำลังไฟฟ้าพลังงานทางทะเล Marine Power ยังคง “ไม่อยู่ในเส้นทาง Not on Track” เพราะปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นได้ ยังอยู่ไกลจากความสอดคล้องกับการเติบโตประจำปีตาม Net Zero Scenario อยู่ที่ 33 % จนถึงปี 2573 ซึ่งไม่คาดว่าจะบรรลุผลในปีต่อ ๆ ไปได้ .. การเติบโตของกำลังไฟฟ้าจากพลังงานทางทะเล Marine Energy ดังกล่าว จะต้องมีการเพิ่มกำลังผลิตเฉลี่ยอย่างน้อย 1 GW ต่อปีต่อเนื่องจนถึงปี 2573 มิฉะนั้น ภาพรวมโครงการ และแผนงานเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ของนานาชาติทั่วโลก อาจประสบความล้มเหลวลงได้ ซึ่งหมายถึงผลกระทบร้ายแรงต่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ นอกจากจะมีแหล่งพลังสะอาดสีเขียวรูปแบบอื่นมาทดแทน ..

แม้ว่าจะมีการติดตั้งโครงการพลังงานทางทะเลขั้นสูง ขนาดเล็ก 10 KW ถึง 1 MW สำหรับการผลิตกำลังไฟฟ้ารูปแบบกระจายหลายแห่งแล้วก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร UK, แคนาดา Canada, ออสเตรเลีย Australia, จีน China และเดนมาร์ก Denmark เมื่อเร็ว ๆ นี้ .. หากแต่โครงการสาธิต และโครงการเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กเหล่านี้ ยังคงมีราคาแพงมาก เนื่องจากความประหยัด และความคุ้มค่าจากขนาดที่จำเป็นสำหรับการลดต้นทุนที่สำคัญในเชิงพาณิชย์นั้น ยังไม่เกิดขึ้นจริง ..

เทคโนโลยีพลังงานทางทะเล Marine Energy Technologies มีศักยภาพสูง แต่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนนโยบายภาครัฐของแต่ละประเทศเพิ่มเติมสำหรับการวิจัยและพัฒนา R&D เพื่อลดต้นทุนที่มาพร้อมกับการว่าจ้างโรงงานเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ กลายเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ..

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีเหล่านี้ จำเป็นต้องเร่งปรับใช้งานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จำลอง Net Zero Emissions ภายในปี 2593 หมายถึง ทั่วทั้งโลก จะต้องมีการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานในมหาสมุทร อย่างน้อย 27 TWh ในปี 2573 ให้ได้เสียก่อน .. ดังนั้น การลดต้นทุนเพิ่มเติมเพื่อไปสู่ระดับราคาที่แข่งขันได้ในตลาดพลังงานโลก และการพัฒนาในวงกว้างสำหรับการผลิตกำลังไฟฟ้าจากมหาสมุทร Ocean Power ขนาดใหญ่ที่เติบโตด้วยปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใกล้เคียงกับแบบจำลองการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net Zero จนถึงในปี 2593 เพื่อให้ความมุ่งมั่นของมนุษยชาติในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานจากทะเลเฉลี่ย 1 GW ต่อปีทั่วโลกนั้น สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้โดยเร็วในที่สุด ..

Marine Energy / Wave & Tidal Energy | Credit: ORE.Catapult.org.uk

ทั้งนี้ โครงการความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระบบพลังงานมหาสมุทรของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA Ocean Energy Systems Technology Collaboration Programme ที่กำลังเร่งเดินหน้าอยู่นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อการยอมรับระบบพลังงานในมหาสมุทร Ocean Energy Systems หรือระบบพลังงานทางทะเล Marine Energy Systems สำหรับความอยู่รอดของมนุษยชาติ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกใบนี้ Survival of Humanity & All Life on this Planet .. กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการวิเคราะห์เทคโนโลยีเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากการเคลื่อนตัวของมหาสมุทร เช่น คลื่น Waves & Swells, กระแสน้ำขึ้นน้ำลง Tides & Currents, ความแตกต่างของอุณหภูมิ Temperature Differences และความเข้มข้นของเกลือ Salt Concentrations และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแยกเกลือออกจากน้ำทะเล Desalination of Seawater เพื่อการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำทะเล Sea to Hydrogen: Sea2H2 คือ เป้าหมายหลักที่เป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของ Ocean Energy ด้วยพลังแห่งสมดุลธรรมชาติ Power of the Natural Balance ของพวกมัน ..

พลังงานทางทะเล หรือพลังงานมหาสมุทร ในประเทศไทย Marine Energy or Ocean Energy in Thailand ..

ศักยภาพพลังงานทางทะเลของประเทศไทย Thailand’s Marine Energy Potential โดยเฉพาะจากคลื่น และกระแสน้ำขึ้นน้ำลง Waves & Tides กำลังถูกสำรวจเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของชาติในการเพิ่มแหล่งพลังงานหมุนเวียน Increase Renewable Energy Sources และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล Reduce Reliance on Fossil Fuels .. แม้ว่า พลังงานคลื่นจากมหาสมุทร Ocean Wave Energy ของไทย จะถือเป็นทรัพยากรหมุนเวียนที่มีแนวโน้มดี แต่จำเป็นต้องมีการประเมินความเป็นไปได้เพิ่มเติม และพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม พลังงานจากน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Energy โดยเฉพาะจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Currents กำลังถูกศึกษาวิจัยอย่างจริงจังเช่นกัน ..

โดยทั่วไป ประเทศไทย Thailand มีศักยภาพในการผลิตพลังงานจากคลื่นจากมหาสมุทรทั้งบนชายฝั่งอ่าวไทย Gulf of Thailand และทะเลอันดามัน Andaman Sea หากแต่ศักยภาพในอ่าวไทยนั้น ถือว่าต่ำเนื่องจากน้ำตื้น .. อ่าวไทย Gulf of Thailand เป็นพื้นที่น้ำตื้น โดยมีความลึกเฉลี่ย 58 เมตร ซึ่งทำให้พลังงานจากคลื่นมีน้อยกว่า ขณะที่ทะเลอันดามัน Andaman Sea ลึกกว่ามาก โดยมีความลึกเฉลี่ย 1,000 เมตร ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมมากกว่าสำหรับการพัฒนาพลังงานจากคลื่น .. การศึกษาโดยใช้แบบจำลอง SWAN และ MIKE21 – SW แสดงให้เห็นว่า ทะเลอันดามัน Andaman Sea โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งของจังหวัดภูเก็ต และพังงา Coastal Areas of Phuket & Phang Nga Provinces มีคลื่นสูงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการแปลงพลังงานคลื่น Potential for Wave Energy Conversion ..

ด้วยการวิจัยอย่างต่อเนื่อง และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Ongoing Research & Technological Advancements พบว่า พลังงานคลื่น Wave Energy อาจมีส่วนสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีศักยภาพพลังงานคลื่นสูง Coastal Areas with High Wave Energy Potential ให้เดินหน้าไปอย่างมั่นใจได้ .. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอ่าวไทย Gulf of Thailand มีคลื่นสูงต่ำ ดังนั้น พลังงานคลื่น Wave Energy ในพื้นที่ทะเลนี้ คือ ความท้าทายสำคัญ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้ตัวแปลงพลังงานคลื่น Wave Energy Converters อาจมีราคาแพง และมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ ต่างไปจากพลังงานคลื่นตามแนวชายฝั่งในจังหวัดพังงา และภูเก็ตบนทะเลอันดามัน Andaman Sea ซึ่งแบบจำลองพฤติกรรมของคลื่นในพื้นที่ ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่ามาก ..

ทั้งนี้ ไมโครกริดพลังงานคลื่น Wave – Powered Microgrids บนพื้นที่ห่างไกลตามเกาะแก่งในประเทศไทย เป็นอีกแผนงานสำคัญที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยของไทย ซึ่งประกอบด้วยการประยุกต์ใช้ตัวแปลงพลังงานคลื่นบนบก Onshore Wave Energy Converters, ระบบการจัดการพลังงานแบบกระจายไร้สาย Wireless Distributed Energy Management System และเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI – Based Technologies .. คาดว่า เกาะเต่า Koh Tao อันห่างไกลของประเทศไทย จะได้รับพลังงานจากไมโครกริดพลังงานคลื่น Wave – Powered Microgrids ในไม่ช้านี้ ..

The First Onshore Wave Energy Converters to Power Thailand’s Remote Islands | Credit: Thailand Construction News

จนถึงวันนี้ กลุ่มบริษัทฯ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ กำลังพัฒนาโครงการนำร่องร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. Provincial Electricity Authority: PEA ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของไทย ด้วยการมุ่งพัฒนา และดำเนินโครงการไมโครกริดพลังงานคลื่น Wave – Powered Microgrid Projects บนเกาะห่างไกลอื่น ๆ ในประเทศไทย โดยใช้ระบบการจัดการพลังงานแบบไร้สาย Utilizing a Wireless Energy Management Systems เพื่อใช้ประโยชน์ศักยภาพพลังงานทางทะเล Marine Energy ให้มากขึ้นอีกสำหรับอนาคตระบบพลังงานหมุนเวียนของไทย Thailand’s Renewable Energy System Future จากนี้ไป ..

ด้วยโครงการริเริ่มของรัฐบาล Government Initiatives โดยนโยบายภาครัฐ พบว่า ประเทศไทยThailand มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้ได้อย่างน้อย 50 % ของการผลิตกำลังไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2580 ขณะที่ การส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน Board of Investment: BOI กำลังเร่งรัดส่งเสริมโครงการพลังงานสะอาด และเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนอย่างแข็งขัน Actively Promoting Renewable Energy เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล Reduce Reliance on Fossil Fuels คือ ความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ ..

ในภาพรวมนั้น ประเทศไทย Thailand กำลังเร่งสำรวจพลังงานทางทะเลอย่างแข็งขัน Actively Exploring Marine Energy และผลักดันให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านพลังงานหมุนเวียนที่กว้างขึ้น Part of its Broader Renewable Energy Strategies โดยเน้นไปที่ทรัพยากรพลังงานคลื่น และพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Focus on Wave & Tidal Energy Resources .. อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปสู่การปฏิบัตินั้น จำเป็นต้องมีแนวทางแบบบูรณาการ และยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมภาครัฐ เอกชน ชุมชน ภาคประชาสังคม และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การพัฒนา และจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพ Effective Development & Management of Coastal Resources รวมถึงพลังงานทางทะเล Marine Energy มาพร้อมด้วยนั้น บรรลุความสำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

คาดการณ์ตลาดพลังงานทางทะเลทั่วโลก Global Marine Energy Market ..

อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ The Brainy Insights พบว่า ตลาดพลังงานทางทะเลทั่วโลก Global Marine Energy Market มีมูลค่า 1.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2565 และได้รับการคาดหมายว่าจะเติบโตแตะระดับ 8.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate: CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับตลาดพลังงานทางทะเลทั่วโลก Global Marine Energy Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 22.84 % ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2566 – 2575 .. การเติบโตของตลาดพลังงานทางทะเล Growth of the Marine Energy Market สามารถอธิบายได้จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตกำลังไฟฟ้าทั้งในประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา Rising Demand for Power Generation in Developed & Developing Countries .. นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนาพลังงานคลื่น และกระแสน้ำขึ้นน้ำลง Increasing Technological Advancement in Wave & Tidal Energy Development มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของตลาดมาพร้อมด้วย ..

The Global Marine Energy Market | Credit: The Brainy Insights

พลังงานทางทะเล Marine Energy คือ พลังงานสะอาด Clean Energy ที่ผลิตโดยกระแสน้ำขึ้นน้ำลง Tides, คลื่น Waves, แม่น้ำที่ไหลอิสระ Free – Flowing Rivers, กระแสน้ำในมหาสมุทร Ocean Currents และช่องทางเทียม Artificial Channels .. พลังงานทางทะเล Marine Energy เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ได้มาจากการเคลื่อนที่ตามธรรมชาติของน้ำ Renewable Power Source Derived from the Natural Movement of Water รวมถึงกระแสน้ำขึ้นน้ำลง คลื่น และกระแสน้ำในแม่น้ำ และมหาสมุทร ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า พลังงานทางทะเล และพลังงานจลน์ของน้ำ หรือพลังงานหมุนเวียนทางทะเล Marine & Hydrokinetic Energy .. การแปลงพลังงานความร้อนในมหาสมุทร Ocean Thermal Energy Conversion เป็นอีกวิธีหนึ่งในการใช้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในน้ำเพื่อสร้างพลังงานทางทะเล ..

พลังงานสะอาด Clean Energy ถูกผลิตขึ้นจากการแปลงพลังงานความร้อนที่ต่างกันของอุณหภูมิน้ำผิวน้ำ และน้ำเย็นที่อยู่ลึก และพลังงานจลน์จากคลื่น กระแสน้ำ และกระแสน้ำขึ้นน้ำลงจากเทคโนโลยีพลังงานทางทะเล เป็นต้น .. ทรัพยากรเหล่านี้ ถือเป็นส่วนเสริมที่น่าสนใจสำหรับโครงข่ายพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Grids ที่มั่นคง และเชื่อถือได้ เนื่องจากสามารถคาดเดาได้ง่าย .. โซลูชันข้อไขพลังงานทางทะเลส่วนใหญ่ ผลิตพลังงานสะอาดในขณะที่ยังคงรักษาทัศนียภาพอันสวยงามของมหาสมุทร และแหล่งน้ำโดยรอบ Preserving Stunning Views of the Ocean & Surrounding Water ไว้ได้ เนื่องจากโซลูชันข้อไขพลังงานทางทะเล Marine Energy เหล่านี้ จมอยู่ใต้น้ำ หรือตั้งอยู่ในทะเล ..

Ocean Thermal Energy Conversion | Credit: Teachoo

ด้วยแนวโน้มการใช้พลังงานจากทะเลที่เพิ่มขึ้น Increasing Use of Marine Energy นั้น พลังงานจากคลื่น Wave Energy อาจนำมาซึ่งงานต่าง ๆ สำหรับการผลิตกำลังไฟฟ้านอกชายฝั่งได้ Power Offshore Jobs เช่น กิจกรรมทางทหาร Military Activities, การประมง Fishing, การตั้งถิ่นฐานริมชายฝั่ง Coastal Settlements, เกาะที่ห่างไกล Isolated Islands และหุ่นยนต์ใต้น้ำ Underwater Robots เป็นต้น .. นอกจากนี้ สถานที่ห่างไกลจากชายฝั่ง หรือใต้ผิวน้ำลึกมาก อาจผลิตกำลังไฟฟ้าสะอาด Generate Clean Electricity โดยใช้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และช้า .. พลังงานจากทะเล Marine Energy อาจผลิตกำลังไฟฟ้าให้กับเรือไฟฟ้า Electric Boats และสถานีชาร์จเครื่องบิน Plane Charging Stations เช่นเดียวกับระบบจัดเก็บพลังงานสำหรับยานยนต์ใต้น้ำ Storage System for Powering Undersea Vehicles เนื่องจากมหาสมุทรทั่วโลกมีลักษณะที่แพร่หลาย และเสียหายได้ง่าย จึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เพื่อกำจัดเศษซากขยะในทะเล Removes Marine Debris และสารพิษจากทะเลออกจากน้ำเค็ม Toxins from Saltwater ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ทางทะเลอื่น ๆ Other Marine Conservation Initiatives ไปพร้อมด้วย ..

ข้อเสียเปรียบหลักของการผลิตพลังงานจากคลื่น Energy from the Waves คือ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ Geographic Location .. โรงไฟฟ้า และชุมชนริมชายฝั่ง Power Plants & Coastal Communities คือ สถานที่ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากแหล่งพลังงานดังกล่าว ดังนั้น มีเพียงบางภูมิภาคเท่านั้นที่สามารถใช้พลังงานจากคลื่น Use Wave Energy เป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนได้ เนื่องจากแหล่งที่มาของพลังงานจากคลื่นไม่ใช่พลังงานสะอาดสำหรับทุกคนเสมอไป เนื่องจากประเทศ และเมืองที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล หรือที่อยู่ห่างจากทะเล อาจต้องหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งอื่น ..

ภูมิภาคที่กำลังเร่งเดินหน้าเข้าสู่ในตลาด ได้แก่ อเมริกาเหนือ North America, ยุโรป Europe, อเมริกาใต้ South America, เอเชียแปซิฟิก Asia Pacific, ตะวันออกกลาง Middle East และแอฟริกา Africa ขณะที่ ยุโรป Europe กลายเป็นตลาดพลังงานทางทะเลที่สำคัญที่สุด Most Significant Marine Energy Market โดยมีส่วนแบ่งรายได้จากตลาด 37.02 % ในปี 2565 ..

ภูมิภาคยุโรป Europe Region มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดจากการเติบโตของรายได้ ภูมิภาคนี้ มีความต้องการสูงในการผลิตกำลังไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม .. การกำหนดนโยบายที่เอื้ออำนวย และความคิดริเริ่มภาครัฐของรัฐบาลแต่ละประเทศในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันการเติบโตของตลาดในภูมิภาคนี้ ด้วยการให้ความสำคัญกับแหล่งพลังงานหมุนเวียน และลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างจริงจัง ..

กลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Tidal Energy, พลังงานคลื่น Wave Energy, พลังงานจากความเค็ม Salinity Gradient Power, พลังงานความร้อนจากมหาสมุทร Ocean Thermal Energy และอื่น ๆ .. กลุ่มพลังงานคลื่น Wave Energy Segment ครองตลาด โดยมีส่วนแบ่งประมาณ 47.91 % ในปี 2565 .. เทคนิคการเก็บเกี่ยวพลังงานคลื่นต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าบนพื้นผิวมหาสมุทร .. นอกจากนี้ พลังงานคลื่น Wave Energy ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลังงานที่ได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไป Energy Derived from Conventional Fossil Fuels เช่น ถ่านหิน Coal หรือน้ำมัน Oil เนื่องจากปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า Emits Fewer Carbon Emissions ..

กลุ่มการใช้งานแบ่งออกเป็นการผลิตกำลังไฟฟ้า Power Generation, การผลิตไฮโดรเจน Hydrogen: H₂ Production, การแยกเกลือออกจากน้ำ Desalination และอื่น ๆ .. กลุ่มการผลิตกำลังไฟฟ้า Power Generation ครองส่วนแบ่งตลาด โดยมีส่วนแบ่งประมาณ 50.85 % ในปี 2565 .. ขณะที่ อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ Commercial Industry กำลังเลิกใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่หมุนเวียน Shifting towards Non – Renewable Building Materials เช่น เหล็กกล้า Steel และคอนกรีต Concrete โดยกำลังเปลี่ยนมาใช้วัสดุคาร์บอนต่ำ และหมุนเวียน Low – Carbon & Renewable เนื่องจากวัสดุก่อสร้าง Construction Materials คิดเป็น 11 % ของการปล่อย CO₂ ของโลกในปัจจุบัน ..

สรุปส่งท้าย ..

มหาสมุทร Oceans คือพันธมิตรยิ่งใหญ่ เพื่อต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ .. เป็นที่ชัดเจนว่า มหาสมุทร Oceans และชายฝั่งทะเล Coastline รวมทั้งแนวปะการัง Coral Reefs คือ แหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เช่น ไฟโตแพลงก์ตอน Phytoplankton, สาหร่าย Algae, หญ้าทะเล Seagrasses, ป่าชายเลน Mangroves และปะการัง Corals ตลอดจนใยอาหารที่เกี่ยวข้องมากมาย สามารถดูดซับกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO₂ จากชั้นบรรยากาศได้ในอัตราที่สูงกว่าป่าฝนบนบก Terrestrial Rainforests ถึง 4 เท่า รวมทั้ง มหาสมุทร Oceans สร้างออกซิเจน Oxygen: O₂ มากกว่า 50 % ที่มนุษยชาติต้องการบนโลกใบนี้ .. ความสามารถในผลิตออกซิเจน Oxygen: O₂ และศักยภาพในการดักจับ และกักเก็บคาร์บอน Carbon Capture & Store ของมหาสมุทร Oceans เหล่านี้ ทำให้ป่าชายเลน Mangroves, แพลงก์ตอน Phytoplankton และสาหร่าย Algae เป็นต้นนั้น มีคุณค่าอย่างสูงยิ่งในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change ..

ยิ่งไปกว่านั้น มหาสมุทร Oceans ยังเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่เหลือเชื่อ Incredible Source of Renewable Energy ซึ่งได้มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ความร้อน Heat, น้ำ Water, คลื่น Waves และกระแสน้ำ Currents ซึ่งไม่ปล่อยคายคาร์บอนไดออกไซด์ CO₂ หรือก๊าซเรือนกระจกใด ๆ ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน Global Warming ..

กระแสน้ำขึ้นลง Tides เป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ และสัมพัทธภาพระหว่างแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ Gravitation of the Sun, Earth & Moon ที่พบเห็นได้ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ .. การขึ้น และลงของกระแสน้ำ ในบางกรณีที่ระดับน้ำต่างกันมากกว่า 12 เมตร สร้างพลังงานศักย์ Potential Energy ปริมาณมหาศาล .. กระแสน้ำที่เกิดจากน้ำไหลท่วมขึ้น และกระแสน้ำที่ไหลลดลง ทำให้เกิดพลังงานจลน์ Kinetic Energy ปริมาณมากด้วยเช่นกัน .. พลังงานในมหาสมุทรเป็นต้นเหล่านี้ สามารถเก็บเกี่ยวรวบรวมมาใช้ประโยชน์ได้ด้วยเทคโนโลยีพลังงานทางทะเล Marine Energy Technologies ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy ในอนาคตที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด ..

ระบบพลังงานในมหาสมุทร Ocean Energy Systems ใช้พลังงานจลน์ และพลังงานความร้อนของน้ำทะเล Kinetic & Thermal Energy of Seawater เช่น คลื่น Waves หรือกระแสน้ำ Currents เพื่อผลิตกำลังไฟฟ้า Electricity หรือความร้อน Heat .. ระบบพลังงานในมหาสมุทร Ocean Energy Systems ถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา โดยมีต้นแบบที่พัฒนาขึ้นจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ก็มั่นใจได้ว่า พลังงานทางทะเล Marine Energy นั้น มีศักยภาพเกินความต้องการพลังงานของมนุษย์ชาติในปัจจุบันอย่างมากมาย ไม่มีข้อสงสัย ..

ทั้งนี้ พลังงานทางทะเล Marine Energy ที่เป็นพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง Tides, คลื่น Waves และกระแสน้ำ Currents ตลอดจนความแตกต่างของอุณหภูมิ และระดับความเค็ม Temperature & Salinity Level Differences เพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียน Generate Renewable Energy ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น คือ แหล่งพลังงานศักยภาพสูงไร้ขีดจำกัด Unlimited Potential Energy Sources สามารถนำมาใช้ผลิตกำลังไฟฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย และพัฒนา รวมทั้งปัจจุบัน มีการดำเนินธุรกิจในเชิงพาณิชย์เพียงอย่างจำกัดเท่านั้น ..

La Rance Tidal Power Plant / The Rance Tidal Barrage in North West France is the Largest in the World | Credit: The Ecologist

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีพลังงานทางทะเล Marine Energy Technologies มีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคงภายใต้การวิจัย และพัฒนาที่รุดหน้าด้วยความสามารถในการผลิตกำลังไฟฟ้าปริมาณมากขึ้นอีกจากกระแสน้ำความเร็วต่ำ หรือหมายถึง กำลังไฟฟ้าปริมาณมากจากกังหันใบพัดใต้น้ำรอบหมุนต่ำในราคาพลังงานที่ลดลงเรื่อย ๆ กลายเป็นความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้การผลิตกำลังไฟฟ้าจากทะเล Electricity Generation from Marine เช่น แหล่งพลังงานน้ำขึ้นลง Tidal Energy Resources เป็นต้นนั้น กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจเชิงพาณิชย์ในอนาคต ..

ตามที่เราได้พบเห็นในช่วง 2 – 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โลกกำลังเปลี่ยนไปสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ Transitioning to a Low – Carbon Future ซึ่งทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน Renewable Resources จะจัดหาความต้องการพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ให้แก่มนุษยชาติได้เพียงพอในที่สุด .. หลังจากให้บริการไฟฟ้ามานานกว่าศตวรรษในทุกส่วนของโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่การเติบโตของไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower ลดลงเมื่อเทียบกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ ..

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลักษณะที่ไม่สม่ำเสมอของพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Energy และพลังงานลม Wind Energy จึงเป็นไปไม่ได้ที่โครงข่ายระบบสายส่งกริดไฟฟ้าจะรับรองความเสถียรที่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ทั้งหมด .. ดังนั้น โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบดั้งเดิม Old Workhorse of Hydropower จึงยังคงมีความจำเป็นสำหรับยุคของการเปลี่ยนไปใช้คาร์บอนต่ำ Transition to Low – Carbon แต่เราจำเป็นต้องมองหาเทคโนโลยี และแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ รวมทั้งเติมเต็มส่วนที่ยังขาดอยู่ ซึ่งพลังงานทางทะเล Marine Energy คือ อีกหนึ่งในคำตอบตรงประเด็นสำหรับความต้องการพลังงานของมนุษยชาติ เพื่อไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

คอลัมน์ Energy Key

By โลกสีฟ้า ..

สนับสนุนโดย…..บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)