“บิ๊กเล็ก” ยัน “ปราสาทตาควาย” ยังเป็นของไทย เข้าใจอินฟลูเอนเซอร์รักชาติ ประกาศทวงคืน ขอความเห็นใจรัฐบาล-กองทัพ เร่งเคลียร์อาวุธหนัก-ทุ่นระเบิดออกจากพื้นที่ ภายใน 17 พ.ย.นี้ ลั่นชีวิตนี้ไม่คุยเรื่องเปิดด่านแล้ว
วันที่ 4 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบของประชาชนเกี่ยวกับกรณีปราสาทตาควายว่ามีการพูดถึงในที่ประชุม ครม.หรือไม่ว่า ยังไม่มีการพูดคุย ยืนยันว่าปราสาทตาควายยังเป็นของไทยอยู่ ปัจจุบันเราคุยกับเรื่องปล่อยเชลยศึก 18 คน เรายังมีมาตรการที่เหลืออยู่ถ้ายังไม่สามารถจัดการเรื่องปราสาทควายได้ เราก็จะไม่คุยเรื่องอื่นต่อ เช่น การเปิดด่าน จะไม่มีการคุยกันเลย และได้พูดกับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วว่าปราสาทตาควายผิดอนุสัญญาเจนีวา ใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทางทหาร มีการวางกับระเบิดรอบปราสาทตาควาย ซึ่งผิดอนุสัญญาออตตาวา เพราะฉะนั้นเราไม่ยอมระบุว่าเขายึดได้
เมื่อถามว่าเป็นการเอาเชลยศึกไปต่อรองแลกปราสาทตาควายคืนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ปฏิเสธว่าไม่ใช่แต่ยังมีมาตรการอื่น ๆ อีก ย้ำว่าการเปิดด่านจะไม่มีการคุยแน่นอน ถ้ายังไม่สามารถเคลียร์เรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่ารัฐบาลยืนยันตามถ้อยแถลง 4 ข้อหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ปราสาทตาควายต้องรวมอยู่ในเรื่องนี้ด้วย ต้องเคลียร์ให้หมดทุกเรื่องและกลับไปสู่สภาพปกติ ส่วนปราสาทคนาและชายแดนช่องจอมต้องไปคุยกันอีกที แต่ปราสาทตาควายยืนยันกับกัมพูชาว่าไม่จบแน่นอน
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะไปร้องต่อองค์กรระหว่างประเทศหรือไม่ เนื่องจากกัมพูชาละเมิดอนุสัญญา พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าแน่นอน อะไรที่เป็นเขตอธิปไตยของไทย เราต้องเอาคืนมาให้หมด
เมื่อถามว่ามีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จะรวมตัวเพื่อทวงคืนปราสาทตาควาย จะทำให้เกิดสถานการณ์อะไรหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ขอความเห็นใจในเรื่องการดำเนินการ เพราะปัญหาเยอะไปหมด ปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิดปีนี้ รัฐบาลและกองทัพพยายามแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพและรัฐบาล เพราะเรายึดมั่นในอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ การแก้ปัญหาต้องค่อย ๆ ทำไป รับรองว่าไม่ใจเย็นแน่นอน
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์หรือไม่ เพราะเหมือนไปซ้ำเติมทำให้สถานการณ์บานปลาย พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าไม่เป็นไร ตนเข้าใจ เขาก็รักชาติ เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติ และยึดมั่นในอธิปไตยเหมือนกับเรา จึงอยากแค่ทำความเข้าใจเท่านั้นว่ารัฐบาลทำงานตามขั้นตอน และขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ที่มีกับระเบิดหรืออันตราย ซึ่งได้บอกกองทัพไว้แล้วว่าให้ดูแล
เมื่อถามว่าชาวบ้านเข้าใจว่าสูญเสียปราสาทตาควายไปแล้วและไม่พอใจรัฐบาล จะมีการทำความเข้าใจอย่างไร พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่าเราจะไม่จบแน่นอน ถ้าไม่ได้ปราสาทตาควายคืน ส่วนจะต้องทำความเข้าใจกับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ เพราะมีการยอมรับเหมือนว่าเสียปราสาทตาควายไปนั้น คำว่า “เสีย” เช่นที่ภูมะเขือ เรายึดได้และทำถูกต้องทุกอย่าง แต่ปราสาทตาควายเขาทำผิดอนุสัญญา เพราะฉะนั้นต้องมีการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่จะขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่าจะทำให้จบทีละเรื่อง ปัจจุบันกองทัพเกิดปัญหาแทบทุกจุด เราค่อย ๆ คลี่คลายไปทีละเรื่อง ซึ่งเราจะเคลียร์อาวุธหนักให้เขาเอาออกไปก่อน เพราะถ้ายังอยู่แล้วเกิดความขัดแย้ง เราไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน
พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตนก็มีความห่วงใยทหารในพื้นที่ ไม่อยากให้มีการสูญเสียอีก โดยในพื้นที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เราต้องมุ่งมั่นเอาที่ดินของคนไทยคืนมาให้ได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอน ขั้นตอนแรกจะต้องเคลียร์กับระเบิดออกก่อน ไม่เช่นนั้นจะเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่ได้ หากเร่งรัดกำหนดเขต เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปแต่ยังจัดการทุ่นระเบิดไม่ได้ เจ้าหน้าที่เองจะประสบอุบัติเหตุ ฉะนั้นภายในวันที่ 17 พ.ย.นี้ เราจะเคลียร์เรื่องกับระเบิด โดยใช้เวลา 1 เดือน เพื่อสำรวจหลักหมุดชั่วคราว
ตอนประชุม GBC ตนย้ำกับกัมพูชาในส่วนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ อาจจะรอดำเนินการต่อไป แต่ตรงไหนหากเลยจากแนวที่เขาอ้างมาก็ต้องออก ไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับว่าตรงนั้นเป็นเส้นเขตแดน เป็นเพียงการแก้ปัญหาขั้นที่ 1 ขณะที่การสร้างรั้ว ตอนแรกกัมพูชาไม่ยอมให้สร้าง ตนบอกไปว่าไม่เกี่ยวเพราะสร้างในเขตอธิปไตยของไทย ต้องสร้างได้ จนที่ตนไปประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน (ADMM PLUS) สุดท้ายเขาก็ยอมให้สร้าง ในเขตอธิปไตยของไทยที่ชัดเจนแล้วก็สร้างได้ ย้ำว่า หากเราทำพร้อมกันทุกเรื่องอาจไม่ประสบความสำเร็จ จึงขอความเห็นใจเพราะปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้ว
“ยืนยันว่ากองทัพมุ่งมั่นเต็มที่ และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการเปิดด่านไม่มีแน่นอน ใครจะมาเปิดด่านก็ไม่ต้องมาคุยกับตน ตนไม่คุยเปิดด่านแล้วชีวิตนี้”พล.อ.ณัฐพล กล่าว
