หน้าแรกCOLUMNISTSปูทาง“เปลี่ยนผ่านพลังงาน”สู่“SMR” แต่“ต้องไม่ปิดตาย”กับทางเลือกอื่นๆ

ปูทาง“เปลี่ยนผ่านพลังงาน”สู่“SMR” แต่“ต้องไม่ปิดตาย”กับทางเลือกอื่นๆ

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เคยฟันธงไปแล้วว่า Small Modular Reactor (SMR) หรือ นิวเคลียร์ขนาดเล็ก มาแน่ เฉพาะปีนี้ มีการจัดเสวนาหลายเวทีถี่ ๆ ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชนเป็นหลัก ล่าสุด บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ SMR รวมทั้งศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการ SMR

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา 2 บริษัทฯจัดงานสัมมนา “Thailand’s SMR Energy Forum-A Global Dialogue on SMR Deployment” มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศมาแชร์ประสบการณ์ อาทิ “ชาลอต นิโคลส์” สมาชิกรัฐสภาอังกฤษและประธานร่วมกลุ่มสมาชิกรัฐสภาว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ สหราชอาณาจักร “ไซมอน สตัทฟอร์ด” ผู้บริหารระดับสูง Castletown Law จากสหราชอาณาจักร “โทรุ อิโตะ” ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายจัดการโครงการ บริษัท ฮิตาชิ-จีอี เวอร์โนวา นิวเคลียร์  เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด “เฉิน ฟางจุน” ผู้แทนประจำประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนาม บริษัท ไชน่า เนชั่นแนล นิวเคลียร์ คอร์ปอเรชั่น และ “อเล็กซิส ออนเนอร์” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โรลส-รอยส์ เอสเอ็มอาร์ ในฝ่ายไทยก็มีกระทรวงพลังงาน สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มาช่วยกันโหมโรง SMR

งานนี้มีภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐมาเข้าฟังกันหนาแน่นหลายร้อยคน เพราะเล็งเห็นถึงความสนใจ SMR “ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ” ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้มาย้ำชัด ๆ ในงานนี้ถึงเส้นทางนโยบายว่า “ไม่ปิดกั้น หากเอกชนจะพัฒนา SMR ไม่ว่าจะเป็นราช กรุ๊ป หรือเอ็กโก”

แต่การผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ มีขั้นตอนกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากล และต้องมีหน่วยงานมากำกับดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งต้องมีหลายฝ่ายมาร่วมกันทำงานไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพลังงาน สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หรือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นต้น ถ้าจะทำ ต้องใช้เวลาร่วม ๆ 10 ปีกว่าจะได้เห็น เอาเข้าจริงแม้ว่าเอกชนจะสนใจ แต่พอจะนำร่องเพื่อทดสอบระบบ โดยเฉพาะกฎระเบียบควบคุมกำกับ ก็คงต้องให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ได้ทำไปก่อนระยะหนึ่ง

ในประเทศไทย SMR ได้กำหนดไว้ในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ฉบับปี 2024 เปิดให้เข้าระบบไว้ในปลายแผน หรือ ปี 2580 จำนวน 600 เมกะวัตต์ ส่วนร่างแผน PDP ที่กำลังปรับปรุงใหม่นั้นจะมี SMR แค่ไหนอย่างไร ต้องรอคณะกรรมการจัดทำ PDP มาพิจารณา ซึ่งจะมี SMR เข้ามาเร็วและมากกว่า 600 เมกะวัตต์หรือไม่นั้น “ปลัดกระทรวงพลังงาน” ระบุว่า “ก็มีสิทธิ์” แต่ก็รับปากไม่ได้ว่า ต้องเป็นเช่นนั้น เพราะในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก เชื้อเพลิงไฮโดรเจนอาจมาเร็วกว่าและถูกกว่า ซึ่งคนไทยสบายใจในการใช้งานมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากมองในตอนนี้ ผู้บริโภคไฟฟ้ารายใหญ่ อย่างภาคอุตสาหกรรมต้องการ SMR สุด ๆ โดยเฉพาะ DATA CENTER ที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดไปทั่วโลก รองรับยุค AI ซึ่งในทางปฏิบัติ DATA CENTER จะกระจายไปในหลาย ๆ ประเทศ มากกว่าจะกระจุก เนื่องจากเป็นกิจการที่กินไฟฟ้าสูง และต้องเป็นไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสุด ๆ แบบ 24/7 คือ มีไฟฟ้ารองรับ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วันอย่างมั่นคงไม่ติด ๆ ดับ ๆ

“ปลัดกระทรวงพลังงาน” ได้ประมวลภาพการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ทั่วโลกให้ฟังว่า “ตอนนี้มีการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์แล้ว 417 แห่งใน 31 ประเทศ บางประเทศก็กำลังเพิ่มกำลังผลิตรวมๆแล้วกำลังก่อสร้างอีก 61 โรง ที่พึ่งกำลังผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์มากที่สุด คือ สหรัฐฯ มีอยู่ 94​ โรง รองลงมาเป็นฝรั่งเศส 57 โรง, จีน 57 โรง, รัสเซีย 36 โรง และเกาหลีใต้ 26 โรง”

หันมามองในอาเซียน ที่กำลังแข่งขันกันดึงดูดนักลงทุน DATA CENTER ก็รุกคืบกันพอสมควรในเรื่องการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ทั้งโรงใหญ่ และ SMR ในส่วนของ เมียนมา ได้ MOU กับรัสเซียด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์ โดยมีแผนพัฒนา  SMR ขนาด 110 เมกะวัตต์ และขยายได้ถึง 330 เมกะวัตต์ สนใจตั้งที่กรุงเนปิดอว์

ส่วน สภาพลังงานแห่งชาติมาเลเซีย กำหนดให้นิวเคลียร์เป็นหนึ่งในทางเลือกพลังงาน และเตรียมพร้อมรองรับหลังปี 2570 ทางด้านสิงคโปร์ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์และกำลังพัฒนาขีดความสามารถในการประเมินทางเลือก, เวียดนาม ได้บรรจุไว้ในแผนพลังงานแห่งชาติ 2025 เริ่มดำเนินงานในปี 2573 -2578 กำลังการผลิตรวม 4-6.4 กิกะวัตต์เป็นนิวเคลียร์โรงใหญ่ 4-6 โรง

สำหรับ ฟิลิปปินส์ ก็มีเป้าหมายเช่นกันในการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ 1,200 เมกะวัตต์ในปี 2575 และเพิ่มเป็น 2,400 เมกะวัตต์ตามลำดับถัดไป รวม ๆ แล้วจะทำให้ถึง 4,800 เมกะวัตต์ในปี 2593 มีทั้งโรงใหญ่และ SMR

มาถึง อินโดนิเซีย ของแท้เลย จะพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างจริงจัง โดยรัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างน้อย 20 แห่ง โครงการแรกคาดว่าจะมอบให้กับ ThorCon ผู้พัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐดำเนินงาน โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเกลาซา จังหวัดบังกาเบลีตุง กำหนดส่งมอบเครื่องปฏิกรณ์ต้นแบบภายในปี พ.ศ.2571 และเตรียมสร้าง SMR แบบลอยน้ำด้วย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปี 2579  

การที่อินโดนิเซียต้องเอานิวเคลียร์ไว้ในแผน เพราะวางเป้าหมายจะพัฒนาเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใน 15 ปีข้างหน้า อีก 100 กิกะวัตต์ ในส่วนนิวเคลียร์โรงใหม่มอบให้กับ ThorCon ผู้พัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐดำเนินงาน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อินโดนิเซียบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ และช่วยให้ประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2593 สำเร็จ และที่แน่ ๆ ด้วยความต้องการที่ชัดเจนนี้หลายประเทศ อาทิ เกาหลีใต้ รัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน ได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือกับอินโดนีเซียในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์อย่างจริงจังด้วย

ส่วน แนวทางการส่งเสริมการพัฒนาโรงไฟฟ้า SMR ของไทย ซึ่งในเทคนิค ผู้เกี่ยวข้องบอกว่า “ไม่น่าห่วง” เพราะมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่น่าห่วงกลับเป็น “การยอมรับของประชาชน”

ดังนั้นหัวใจสำคัญของการพัฒนา SMR ในไทย คือ การให้ข้อมูลครบถ้วนกับประชาชนอย่างทั่วถึง การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการพัฒนาบุคลากรและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา SMR ในประเทศ

“ราช กรุ๊ป” ซึ่งออกตัวแรงที่จะพัฒนา SMR มาตั้งแต่ต้นก็ขอจองพื้นที่ก่อนใคร และโชว์ศักยภาพพร้อมเดินหน้า SMR “นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า “นานาประเทศขานรับกันอย่างกว้างขวาง และมีการพัฒนาเทคโนโลยี SMR ให้รุดหน้าเป็นอย่างมาก ขณะที่ประเทศไทยก็มีแผนที่จะนำ SMR เข้ามาใช้ โดยมีการศึกษาและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้ว โดยหากราช กรุ๊ปจะทำ SMR ในไทยก็จะจับมือกับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง”

ขณะเดียวกัน “ราช กรุ๊ป” ก็ไม่ได้มองเฉพาะการลงทุนในประเทศเท่านั้น แต่มองข้ามช็อตไปลงทุน SMR ในต่างประเทศ ซึ่ง “นิทัศน์” แย้มว่า “เล็งไว้เหมือนกัน แต่จะหาพันธมิตรใหม่ ไม่ใช่บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง  ซึ่งความพร้อมของราช กรุ๊ป ก็พอตัว เพราะมีฐานการลงทุนโรงไฟฟ้าไว้ในหลายประเทศ​ เช่น  สปป.ลาว, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สำหรับ SMR ราช กรุ๊ป โฟกัสไปที่อินโดนิเซีย ซึ่งการบุกพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ถึง 20 แห่งของอินโดนิเซีย คงพอจะบอกได้ว่า ทำไมราช กรุ๊ปถึงมองอินโดนิเซียไว้”

มาถึงมุมมองของ “วิชัย กุลสมภพ” ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลที่เข้ามาร่วมมือกับราช กรุ๊ป ว่า “การขับเคลื่อนเทคโนโลยี SMR อาจฟังดูเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย แต่ในระดับโลกถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจ ซึ่งคาดหมายว่า SMR จะเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานสะอาดที่จะมาแทนที่โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคต ซึ่งในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงของการศึกษาและวางแผน ต้องใช้เวลาในการดำเนินการในหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมาย การกำกับดูแล การคัดเลือกเทคโนโลยี การเลือกพื้นที่ติดตั้ง และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า

“อนาคตของพลังงานไม่ควรพึ่งพาแหล่งพลังงานรูปแบบเดิมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป การหาทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืนเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Carbon Neutrality และพลังงานสีเขียว” วิชัย กล่าวย้ำ

อย่างไรก็ตาม มีหลายประเทศเห็นว่า “นิวเคลียร์จำเป็น” แต่ก็มีบางประเทศปฏิเสธเช่นกัน ประเด็นคือ ประเทศนั้นใช้เชื้อเพลิงใดในการผลิตไฟฟ้า ปล่อยคาร์บอนอย่างไร หรือเขาต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศอื่น ซึ่งก็เท่ากับผลักภาระไปให้ประเทศอื่นแทน ไม่เท่านั้น การพึ่งพาประเทศอื่นมากๆก็สุ่มเสี่ยงในยุคที่อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ ทั้งภูมิศาสตร์การเมืองโลก (Geopolitics) หรือภัยธรรมชาติ

การผลิตไฟฟ้าในไทยจะไปนิวเคลียร์ได้จริง ๆ หรือไม่ในคราวนี้ ไม่รู้ได้ เพราะเราหยิบจับนิวเคลียร์เข้าแผน PDP มาหลายรอบ แต่ไม่ได้ทำ

“หัวใจ” คือ การสนับสนุนของประชาชนในสังคมจำนวนมากพอ โดยทางเลือกต่าง ๆ ต้องใส่เข้ามาให้ครบ ไม่ให้เขาจนมุมกับนิวเคลียร์ SMR เท่านั้น ส่วนคนในพื้นที่ที่จะเป็นจุดที่ตั้ง นิวเคลียร์ SMR นั้น การปกปิดข้อมูลทำไม่ได้อีกต่อไปในยุคนี้

ดังนั้นนอกจากต้องให้ข้อมูลรอบด้านแล้ว ต้องวางมาตรการตอบแทนเขาตั้งแต่ต้น และทำจริงเป็น “รูปธรรม” ให้เขามี “คุณภาพชีวิตที่ดีจริง ๆ” ในฐานะเป็น “ผู้ให้” ซึ่งต้องมากพอคุ้มความเสี่ยง ที่สำคัญคือ ความปลอดภัยที่การันตีได้ 100%

……………………………………….

คอลัมน์ : เข็มทิศพลังงาน

โดย…“ศรัญญา ทองทับ”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img