หน้าแรกCOLUMNISTS“ครม.แพทองธาร 1/2” โอกาสสุดท้าย …เรียก“ความเชื่อมั่น”จากปชช.กลับคืน

“ครม.แพทองธาร 1/2” โอกาสสุดท้าย …เรียก“ความเชื่อมั่น”จากปชช.กลับคืน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พรรคภูมิใจไทย” ชิงถอนตัวจากการเป็นร่วมรัฐบาลในห้วงเวลาที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ต้องเจอมรสุมทางการเมืองครั้งใหญ่ จากกรณีคลิปการโทรศัพท์คุยกับ สมเด็จฮุนเซน ยิ่งกระหน่ำซ้ำเติมให้สถานการณ์ของรัฐบาลที่มี “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ “นายกฯแพทองธาร” เล่นเกมเดินหน้า “ปรับ ครม.” สู้  ไม่ยุบสภาฯ-ไม่ลาออก หวังช่วงชิงความได้เปรียบ

เกมชิงไหวชิงพริบทางการเมืองของบรรดา “เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด” และ “เสือหิว” แย่งเก้าอี้รัฐมนตรี ก็เริ่มเปิดฉากขึ้นแบบไม่สนใจความรู้สึกประชาชน แม้การปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นโอกาสสุดท้ายในการเรียกความศรัทธาจากประชาชนให้กลับคืนมาก็ตาม

“เดิมพันครั้งนี้” จึงไม่ใช่แค่ของ “ตัวนายกรัฐมนตรี” แต่ยังหมายรวมถึง “อนาคตพรรคเพื่อไทย” ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกด้วย แต่ “หน้าตา ครม.” ที่ออกมา นอกจากไม่ได้ดีกว่าที่ผ่านมา กลับแย่กว่าเดิมกลายเป็น “ครม.ครอบครัว” ทั้งที่คุณภาพของตัวรัฐมนตรีหน้าเก่า ก็ไม่มีผลงาน ก่อนหน้านี้มีข่าวจะถูกปรับออก ก็ได้อยู่ต่อเฉพาะอย่างยิ่ง “รัฐมนตรีในก๊วนนายกฯอิ๊งค์” ส่วนรัฐมนตรีหน้าใหม่เข้ามา ก็ล้วนแต่มาด้วยกระบวนท่าพิสดาร 

เมื่อไม่มี “พรรคภูมิใจไทย” ทำให้มีเก้าอี้ว่าง 8 ที่นั่ง “พรรคร่วมรัฐบาล” รับส้มหล่นโปรโมชั่น แจก แถม ไม่อั้น แต่แทนที่ทุกอย่างจะราบรื่น การจัด ครม.รอบนี้มีปัญหาสารพัด รัฐมนตรีในสายพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่ก็เป็นโควตาของพ่อและกลุ่มเพื่อนนายกฯ งานนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับบรรดา สส.หลายคนที่อายุงานถึงคิว แต่ก็มีคำปลอบใจว่า ปีใหม่ปรับอีกรอบ

การปรับครม.เที่ยวนี้เต็มไปด้วยความทุลักทุเล เฉพาะอย่างยิ่ง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” กลายเป็นตัวปัญหา ทั้งการชักเข้าชักออกของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค ที่ยื่นไม้ตายให้นายกฯลาออก แต่ในที่สุดกลับลำอยู่ต่อ แถมยังมีความขัดแย้งไม่ลงรอย “กลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น” กระทั่งวินาทีสุดท้าย พรรครวมไทยสร้างชาติก็ยังเป็นตัวปัญหา ทั้ง “พีระพันธุ์” และ “สุชาติ” ต่างก็ขู่ลาออกจากการร่วมรัฐบาล 

ขณะเดียวกันมีข่าวสะพัดในพรรคเพื่อไทยว่า รัฐมนตรีว่าการบางคน ได้ตำแหน่งไม่ใช่โควตาพรรค แต่เป็นโควตาคนนอก โดยใช้เงินทุ่ม “ซื้องูเห่า” มาต่อรองตำแหน่ง ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารมาก่อน กลับได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ บางพรรคไม่เคยส่งสส.ลง ก็ไปกว้านซื้องูเห่ามาต่อรอง บางพรรคส่วนหนึ่งเป็นฝ่ายค้าน ส่วนหนึ่งเข้าร่วมรัฐบาล บางพรรคอยู่พรรคเดียวกัน แยกสองขั้วต่อรองเก้าอี้ ภาพลักษ์ของครม.ชุดนี้ จึงไม่ได้สร้างความเชื่อมั่น สร้างศรัทธากับประชาชน 

ครม.ชุดนี้ต้องบอกว่า ไม่ได้มาด้วยความรู้ ความสามารถ เฉพาะอย่างยิ่ง “ทีมเศรษฐกิจ” ที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงยกเว้น “รมว.พาณิชย์” ที่เปลี่ยนจาก “พิชัย นริพทะพันธุ์” มาเป็น “จตุพร บุรุษพัฒน์” อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

ต้องบอกว่า ตลอดเวลา 9 เดือนของ “รัฐบาลแพทองธาร 1” ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นโยบายหาเสียงทำได้นโยบายเดียว “แจกเงิน 1 หมื่นบาท” กระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” แถมยังทำไม่สำเร็จ ส่วน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ก็ใส่เกียร์ถอย

แต่ครั้นพอเห็นหน้าตา ครม.ชุดใหม่ เฉพาะอย่างยิ่ง “ทีมเศรษฐกิจ” ยิ่งฝากผี-ฝากไข้ไม่ได้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจเกือบจะชุดเดิมทั้งหมด แต่ละคนล้วนมีจุดอ่อน แม้แต่ “พิชัย ชุณหะวชิระ” ที่เป็นมืออาชีพเข้ามาคุมกระทรวงคลังแทน “เศรษฐา ทวีสิน” ผลงานก็ยังไม่เปรี้ยง ด้วยความที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่มาจากสายบัญชี มีเสียงบ่นอุบว่า ชอบลงรายละเอียดและให้เวลากับการประชุมมาก จนแทบไม่มีเวลาทำงาน ล่าสุดก็มีคำถามจาก “พรรคฝ่านค้าน” กรณีไปเจรจากับสหรัฐฯที่ว่าจ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” มาช่วยงานเกือบๆ 90 ล้านบาท เหมาะสมหรือไม่???

ด้าน กระทรวงคมนาคม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ก็ยังวุ่นกับถนนพระราม 2 ที่ไปไม่ถึงไหน มีปัญหาซ้ำซาก ที่ดูจะคืบหน้าหน่อย ตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่ก็หาเสียงได้เฉพาะคนกรุงฯเท่านั้น ผลงานด้านอื่นๆ ไม่ชัดเจน ส่วนรัฐมนตรีช่วยฯก็เป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม 

กระทรวงพลังงาน “พีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค” ภาพอาจจะดูขึงขังเอาจริงเอาจังกับ “ทุนผูกขาด” แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ด้วยความเป็นนักกฏหมาย เอากฏหมายเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง กลายเป็น “ชักตื้นติดกึก-ชักลึกติดกั๊ก”

ที่พอจะมีผลงานรูปธรรมน่าจะเป็น กระทรวงอุตสาหกรรม ของ “เอกณัฐ พร้อมพันธุ์” ที่เอาจริงเอาจังกับโรงงานจีนเทา แต่สำหรับนโยบายระยะยาว ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งเรื่องการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม การยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อแข่งขันในตลาดโลก ว่ามีแนวทางอย่างไร

ทีมเศรษฐกิจชุดนี้อยู่ครบทีมใน “ครม.แพทองธาร 1/2” การปรับครม.ครั้งนี้ จึงเป็นการแก้ปัญหาการเมือง โดยลืมไปว่า ความท้าทายแรกของเศรษฐกิจไทยคือ การขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล สะท้อนจากธนาคารไม่เต็มใจปล่อยสินเชื่อ และบริษัทใหญ่ๆ กำลังทยอยคืนเงินกู้ นักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงการขาดความเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจของไทย ส่งผลให้ดัชนี SET ร่วงลงต่อเนื่อง 

ล่าสุด “สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจดัชนีการเมืองไทย ประชาชนเชื่อมั่นต่ำสุดในรอบ 18 เดือน จากผลโพล สะท้อนให้เห็นว่า ความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด อันเนื่องมาจากปมปัญหาที่สะสมมา อย่างต่อเนื่องและยังไม่ชัดเจน เป็นความท้าทาย “รัฐบาลแพทองธาร 1/2” อย่างมิอาจปฏิเสธได้ !!!

…………………………..

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img