การขึ้นเป็น “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย ในฐานะรองนายกฯอันดับ 1 ตั้งแต่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา หลัง “อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกฯ ทำให้เป็นได้แค่ “รมว.วัฒนธรรม”
คาดหมายกันว่า “ภูมิธรรม” น่าจะต้องทำหน้าที่ “เบอร์ 1” ใน รัฐบาลอิ๊งค์ 1/2 คงกินเวลาพอสมควร อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีไม่น้อยกว่า 2 เดือน แต่หากนานกว่านั้น ก็อาจร่วมๆ 3-4 เดือน ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ “กระบวนการสู้คดี” ของ “แพทองธาร-ทีมทนายความ-ที่ปรึกษากฎหมาย”
เพราะหากใช้เวลาในการ “ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา” ไม่ใช่แค่ 15 วัน แต่มีการขยายเวลาออกไป จากที่ศาล รธน.ให้ขยายได้ 2 รอบ รอบละ 15 วัน แต่การจะขอขยายในรอบสุดท้าย ต้องให้ศาล รธน.อนุญาตด้วย ทำให้รวมเวลาแล้ว ถ้าใช้เต็มที่ก็ร่วม ๆ 45 วัน และยังใช้ได้อีกตอนทำ “คำชี้แจงรอบสุดท้าย” ที่ก็มีเวลาประมาณ 30 วัน ถ้ามีการขอขยายเวลา อันนี้ไม่นับรวมกับที่ศาล รธน.ต้องให้ “กลุ่ม 36 สว.” ทำหนังสือส่งมาให้ศาล รธน.อีกสองรอบเช่นกัน แต่คาดว่าฝ่ายสว.คงไม่ใช้เวลาเยอะ เพราะ สว.อยากให้เรื่องจบเร็วอยู่แล้ว เต็มที่ไป-กลับ 2 รอบของ สว.คงใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน
คาดว่า รวมเวลาแล้ว กระบวนการส่งเอกสารของศาล รธน.ไปให้ “ผู้ร้อง” คือ “กลุ่ม 36 สว.” กับ “แพทองธาร” ในฐานะ “ผู้ถูกร้อง” ตีกลมๆ ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน รวมเวลาที่ศาล รธน.จะขอพิจารณาอีก ก็ตีให้สัก 1 เดือน
ทำให้ “คำร้องคดีแพทองธาร” กรณีคลิปเสียงกับ “ฮุน เซน” ทางศาล รธน.น่าจะใช้เวลาสัก 3 เดือน หรืออาจเร็วกว่านั้นหรือช้ากว่านั้นก็ได้ ถ้ามีการขอขยายเวลากันเต็มที่ แต่รวม ๆ ก็คงไม่เกิน 4 เดือน ศาล รธน.ก็คงนัดอ่านคำวินิจฉัย ก็ได้รู้แล้วว่า “แพทองธาร” จะหลุดจากนายกฯหรือไม่ ก็คือคงไม่เกินเดือนต.ค.นี้
ยกเว้นมีเหตุแทรกซ้อนขึ้นมาอีก เช่น ศาล รธน.ให้มีการเปิดห้องพิจารณาคดี ก็อาจทำให้ขยายเวลาออกไปอีกสัก 15 วัน แต่ถึงตอนนี้ เชื่อไว้ก่อนว่า ไม่เกินต.ค.รู้ผล จะปิดฉาก “แพทองธาร” บนเก้าอี้นายกฯหรือไม่ ?
ด้วยเหตุนี้ ทำให้บทบาทการเมืองของ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ต่อจากนี้…น่าติดตามไม่น้อย เพราะอาจต้องนั่งเป็นรักษาการนายกฯร่วม ๆ 3-4 เดือน
โดยหากโฟกัสเฉพาะงานในส่วนของตำแหน่ง “รมว.มหาดไทย-มท.1” ของ “ภูมิธรรม” หรือ “สิงห์อ้วน-บิ๊กอ้วน” ต่อจากนี้ น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะเป็นการเข้ามาเป็น “มท.1” ในช่วงที่เดือนหน้า “สิงหาคม” ก็เข้าช่วงที่จะเริ่มมีการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทยประจำปี 2569 กันแล้ว ยิ่งสถานการณ์การเมืองเวลานี้ แม้ต่อให้ “ทักษิณ ชินวัตร-แกนนำเพื่อไทยหลายคน” จะเชื่อว่า จะประคอง “รัฐนาวาแพทองธาร” ต่อไปได้ แต่หลายคนก็เห็นไปในทางเดียวกันว่า…
“แพทองธาร…โอกาสรอดยาก”
มีโอกาสน้อยที่จะชนะคดีในชั้นศาล รธน. โดยหากไม่ชิงลาออกนายกฯเสียก่อน ก็อาจแพ้คดี ทำให้หลุดจากนายกฯ
และทำให้ต้องมีการโหวตนายกฯคนใหม่ ที่ “ทักษิณ” ก็ต้องดัน “ชัยเกษม นิติศิริ” ขึ้นมารับไม้ต่อ แต่หากการเมืองพลิกผัน มีการสลับขั้ว-เปลี่ยนขั้ว มีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค แยกตัวออกไปจับมือกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” พรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาชน เพื่อดัน “อนุทิน” เป็นนายกฯ ก็ไม่แน่ว่า “ทักษิณ-เพื่อไทย” อาจต้องยอม “ยุบสภา” แล้วไปวัดกันที่สนามเลือกตั้ง โดย “เพื่อไทย” ก็ยังเป็น รัฐบาลรักษาการฯ ต่อไป
เมื่อสถานการณ์การเมืองมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ “สิงห์อ้วน-ภูมิธรรม” ต้องเตรียม “จัดทำ-เขย่าโผ” แต่งตั้งบิ๊กคลองหลอด เพื่อรองรับการเลือกตั้งในปีนี้ หรือต่อให้ “ชัยเกษม” ขึ้นมาเป็นนายกฯ ต่อได้ ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปี ต้องเลือกตั้งใหญ่แล้ว ทำให้ “เพื่อไทย-สิงห์อ้วน” ต้องเตรียมพร้อมจัด “ขุมกำลังในมหาดไทย” เพื่อ “วางคน” ของตัวเอง-คนที่ไว้ใจได้ ไปคุมกำลังในระดับจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ตั้งแต่ระดับ “ผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ-ปลัดจังหวัด-นายอำเภอ” เพื่อให้เป็นแขนขาคอยช่วย “คนของเพื่อไทย” ให้ชนะเลือกตั้งและสกัดไม่ให้คู่แข่งเอาชนะได้
รวมถึงตำแหน่งสำคัญ ๆ ใน “ส่วนกลาง” เช่น “อธิบดีกรมการปกครอง” ที่ปีนี้ “ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์” อธิบดีปกครองฯ เกษียณพอดี ก็ต้องหาคนไว้ใจไปนั่งคุมกรมการปกครอง ตลอดจนอีกหลายตำแหน่งสำคัญในมหาดไทย เช่น “อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น” ที่น่าจะมีการปรับเปลี่ยน เพราะ “นฤชา โฆษาศิวิไลซ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่เหลืออายุราชการอีก 2 ปี เป็นสายตรง “สีน้ำเงิน-ภูมิใจไทย” เพราะเข้ามาเป็นอธิบดีกรมท้องถิ่นฯ ตอน “อนุทิน” เป็น “มท.1”
รวมถึง “อธิบดีบางกรมฯ” ที่อาจ เสี่ยงถูกเด้ง-ถูกย้าย ในเดือนกันยายนนี้ เช่น “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน ที่เหลืออีกหนึ่งปีจะเกษียณ เพราะมีปมเรื่อง ที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ ที่ไม่เป็นที่ถูกใจของ “เพื่อไทย” มาตลอด รวมถึงพวกบิ๊กคลองหลอดอีกหลายคน ที่ได้ดิบได้ดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในยุค “อนุทิน” เป็น “มท.1”
หลายคน…คงต้องทำใจว่า แต่งตั้งโยกย้ายปีนี้ อาจถูกโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่อยากจะไปมากนัก เช่น เด้งเข้ากรุเป็นผู้ตรวจมหาดไทย เป็นต้น
ภารกิจ “จัดทัพ-ทำโผ” แต่งตั้งโยกย้าย “มหาดไทย” จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจเฉพาะหน้าของ “สิงห์อ้วน-ภูมิธรรม” ในการเป็น “มท.1”
และยังรวมถึงภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องเข้าไปสะสาง เช่น การแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินอัลไพน์ฯ ว่าสุดท้าย จะหาทางออกอย่างไร จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ได้มาโดยชอบ โดยไม่รู้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ ซึ่งก็มี “ตระกูลชินวัตร” รวมอยู่ด้วย รวมถึงเรื่อง ที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ ที่เกี่ยวข้องกับ “ตระกูลชิดชอบ” โดยตรง ก็อาจมีการ “เอาคืน” ให้เห็นกันรอบนี้
รวมถึงงานอื่น ๆ เช่น การหาทางออกในเชิงข้อกฎหมายเรื่อง พนันออนไลน์ ที่ต้องไปดูว่า จะออกเป็นกฎกระทรวงหรือกระทรวงมหาดไทยจะเสนอแก้ไขพ.ร.บ.การพนันฯ เพื่อทำให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เกิดขึ้นในยุค “เพื่อไทย” คุม “มหาดไทย” ได้หรือไม่
ทั้งหมดข้างต้นคือ ภารกิจหน้างานที่ “สิงห์อ้วน-ภูมิธรรม-มท.1” ต้องรับจบ-ปิดจ๊อบ…ให้เร็ว ให้สมกับที่ “ทักษิณ” บีบ “ภูมิใจไทย” ให้คืน “มหาดไทย” มาให้ “เพื่อไทย” แต่เมื่อ “ภูมิใจไทย” ไม่ยอม จนออกตัว “ขอออกจากการร่วมรัฐบาล”
จนวันนี้ “เพื่อไทย” ได้คุมมหาดไทย “ภูมิธรรม” อดีตสิงห์ดำฯ ที่ฝันอยากเป็น “มท.1” มาตลอดชีวิต คงต้องทำให้สำเร็จ ให้สมกับที่ “ทักษิณ” ส่งมาเป็น “มท.1”
……………………………………….
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย…. “พระจันทร์เสี้ยว”
