หน้าแรกCOLUMNISTSปรับครม.จบ ‘อิ๊งค์’ลุ้นศาลชี้ชะตา 1 ก.ค.

ปรับครม.จบ ‘อิ๊งค์’ลุ้นศาลชี้ชะตา 1 ก.ค.

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

การปรับครม. “แพทองธาร ชินวัตร 2” เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ว่า “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี…ไปอีกนานแค่ไหน ยังเป็นเรื่องต้องลุ้น!!!

ท่ามกลางกระแสข่าว ยังไง “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ยอมให้อำนาจการเมืองหลุดมือ ถึงขั้นลือกันสนั่น ตอนนี้เริ่มส่งซิกให้ “ชัยเกษม นิติศิริ” อดีตรมว.ยุติธรรม-อดีตอัยการสูงสุด ที่เป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยคนที่สาม” นอกเหนือจาก “เศรษฐา ทวีสิน-แพทองธาร ชินวัตร” เตรียมสแตนด์บายไว้

ในกรณีที่ “แพทองธาร” ไม่รอด โดน” “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ “แพทองธาร” สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ กรณี “คลิปเสียง” สนทนากับ “ฮุน เซน” ซึ่งนายกฯและฮุน เซน บอกตรงกันว่า เป็นคลิปเสียงสนทนาจริง

ที่ก็คือ…ถ้า “แพทองธาร” ไม่รอด ต้องเก็บของออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ตามรอย “เศรษฐา ทวีสิน”

“ฝ่ายทักษิณ” ก็จะสั่งให้พรรคร่วมรัฐบาลจับมือกันตั้งรัฐบาลกันใหม่ แล้วโหวตให้ “ชัยเกษม” เข้ามาเป็นนายกฯ ไม่มีทางที่จะไปหนุนคนอื่น เช่น “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” แคนดิเดตนายกฯจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือกลับไปง้อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกฯจากพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งหากไม่ถึงตาจนจริงๆ ยังไงก็ไม่ให้ “แพทองธาร” ยุบสภาฯเด็ดขาด เรียกว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลให้ครบสี่ปีให้ได้ แล้วค่อยไปวัดกันตอนเลือกตั้ง 2570

อย่างไรก็ตาม “ทักษิณ-แพทองธาร-เพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาล” ต้องลุ้นฉากเฉพาะหน้าก่อน ในสัปดาห์นี้กับการประชุม “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” วันอังคารที่ 1 ก.ค.นี้ ว่าผลคำร้องคดี 36 สว.จะออกมาอย่างไร โดยมีจังหวะต้องลุ้น 3 จังหวะ

เริ่มจาก…ลุ้นว่า คำร้องคดีดังกล่าว จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมตุลาการศาลรธน.วันอังคารนี้เลยหรือไม่ ถ้าไม่มีการพิจารณาคำร้องดังกล่าว ก็เท่ากับจบแค่ตรงนี้ ไม่ต้องไปลุ้นอะไรอีก ไปรอลุ้นในการประชุมนัดถัดไป

จังหวะสอง…คือ หากคำร้องดังกล่าวเข้าที่ประชุมตุลาการศาลรธน.ก็ต้องดูว่า ที่ประชุมจะมีมติเสียงข้างมาก “รับคำร้องไว้วินิจฉัย” หรือไม่ หรือจะมีมติด้วยเสียงข้างมาก “ไม่รับคำร้อง” โดยหากไม่รับคำร้อง…เรื่องก็จบ คลิปเสียงการเมืองแห่งปี ก็จบแค่นี้ ไม่สามารถมายื่นคำร้องลักษณะเดียวกันกับศาลรธน.ได้อีก

คนที่ลุ้นให้ “แพทองธาร” หลุดจากนายกฯเพราะคลิปเสียง ก็ต้องไปลุ้นกับองค์กรอื่น ที่ตั้งแท่นรอสอบสวนไต่สวน หลังมีคนไปยื่นคำร้องไว้ ทั้งที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป แต่การไปลุ้นทั้ง 2 องค์กรดังกล่าว ก็เป็นหนังยาว รอกันเป็นปีๆ กว่าจะจบเรื่อง ไม่เหมือนกับศาลรธน.

เพราะหากศาลรธน.รับคำร้องไว้วินิจฉัย ก็คาดว่าไม่เกินสี่เดือน ก็รู้ผลแล้ว และเผลอๆ อาจเร็วกว่านั้น เพราะนายกฯยอมรับเองว่า เป็นคลิปจริงทั้งหมด การไต่สวนจึงแทบไม่ต้องมีอะไรมาก เหลือแค่การใช้ดุลยพินิจของตุลาการศาลรธน.เองแล้วว่า พฤติการณ์ของนายกฯเข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่…เท่านั้น

จังหวะที่สาม…ก็คือ หากรับคำร้องไว้วินิจฉัย ก็ต้องลุ้นกันแล้วว่า ศาลรธน.จะมีคำสั่งให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ จนกว่าศาลรธน.จะมีคำวินิจฉัยหรือไม่

โดยที่ผ่านมา ก็มีทั้งที่ศาลรธน.สั่งให้ “นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี-สส.” ที่มีคนยื่นคำร้องให้ศาลรธน.วินิจฉัยปมเรื่องคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม-ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ มีทั้งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

ในส่วนที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นกรณีสำคัญก็คือ กรณีของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แต่ที่คนจำได้มากสุดก็คือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ถูกร้องในคดีดำรงตำแหน่งนายกฯเกินแปดปี ในการเป็นนายกฯสมัยที่สอง

โดยคดีดังกล่าว ศาลมีมติเอกฉันท์รับคำร้องไว้วินิจฉัย 9:0 แต่เสียงแตก 5:4 ให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ควบรมว.กลาโหมด้วย แต่ก็ไม่ได้เข้าประชุมครม.เลย จนสุดท้ายศาลรธน.มีมติ 6 ต่อ 3 ว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังได้ไปต่อ ไม่ต้องพ้นจากนายกฯ

ส่วนคดีที่ศาลรธน.รับคำร้อง แต่ไม่ได้สั่งให้นายกฯ-รัฐมนตรี-สส. หยุดปฏิบัติหน้าที่ฯ ก็มีเช่นกัน แต่ที่ดังสุด คนจำได้มากสุดก็คือ คดี “เศรษฐา ทวีสิน” กรณีตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ทนายถุงขนมเป็นรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่อดีตสว.ชุดที่ผ่านมา เข้าชื่อส่งเรื่องถึงศาล และศาลรธน. มีมติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณา แต่มีมติ 5 ต่อ 4 ไม่ให้ “เศรษฐา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ฯ แต่สุดท้าย “เศรษฐา” ก็ไม่รอด เพราะศาลมีมติ 5 ต่อ 4 ให้พ้นจากนายกฯ เมื่อส.ค.ปี 2567 จนทำให้ “แพทองธาร” ขึ้นเป็นนายกฯแทน

ดังนั้น วันที่ 1 ก.ค.นี้ ต่อให้ศาลรธน.ไม่สั่งให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ฯ แต่การที่รับคำร้องไว้พิจารณา มันก็ไม่เป็นผลดีต่อ “ทักษิณ-แพทองธาร-เพื่อไทย” เพราะมันก็มีโอกาสกลับมาซ้ำรอยเดิมแบบ “เศรษฐา” ได้

คือ “ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ไม่รอด” ด้วยเหตุนี้ การลุ้นของ “ทักษิณ-แพทองธาร-เพื่อไทย” วันที่ 1 ก.ค. หากคำร้องคดีดังกล่าว เข้าที่ประชุมตุลาการศาลรธน. จึงต้องลุ้นให้ “ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา” เพื่อจะได้จบๆ ไปเลย คือเรื่องที่ดีที่สุดของครอบครัวชินวัตรและพรรคเพื่อไทย

เพราะต่อให้รับไว้วินิจฉัยแต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ มันก็ไม่ใช่ข่าวดี ยังไง มันก็จะ “หลอนการเมือง” ที่ทำให้ “ทักษิณ-แพทองธาร-เพื่อไทย” ผวาเอาได้ไปจนถึงวันที่ศาลรธน.นัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัย

ด้วยเกรงว่า “แพทองธาร” จะกลายเป็น นายกฯคนที่ 5 ที่มาจากเครือข่าย “เพื่อไทย-ทักษิณ-ตระกูลชินวัตร” ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง จากผลคำตัดสินของศาลรธน. ตามรอย “สมัคร สุนทรเวช” สมัยรัฐบาลพลังประชาชนในคดีชิมไปบ่นไป “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” คดียุบพรรคพลังประชาชนกรณีซื้อเสียงที่เชียงราย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” คดีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสมช.และ “เศรษฐา ทวีสิน” คดีตั้งทนายถุงขนมเป็นรมต.

แต่ก็มีข่าวว่า “เพื่อไทย” ก็พยายามหาทางตั้งรับไว้หลายทาง เช่น กระแสข่าวที่จะให้ “แพทองธาร” เป็นนายกฯควบรมว.วัฒนธรรม เพื่อที่ว่า แม้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ยังเป็นรมว.วัฒนธรรมอยู่ ยังคงอยู่ในรัฐบาล แต่จะใช่หรือไม่ ยังต้องพิสูจน์

อย่างไรก็ตาม หากท้ายสุด คำร้องดังกล่าว เข้าไม่ทัน 1 ก.ค. แต่ก็ไม่เกินสัปดาห์หน้า อังคารที่ 8 ก.ค.คำร้องของสว.เข้าที่ประชุมแน่นอน ถึงตอนนี้ส่วนใหญ่ยังมองว่า น่าจะเข้าทัน แต่จะรับหรือไม่รับ และรับแล้วจะสั่งให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนหรือไม่ อันนี้ยังยากจะคาดเดา แม้จะพอเริ่มจับสัญญาณบางอย่างได้รางๆ!

………………………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…. “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img