ตลอด 10 เดือนนับตั้้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 16 ส.ค.67 “นายกอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” โชว์ภาวะผู้นำที่โดดเด่นเพียงวันเดียว คือเป็น ประธานติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หลังเกิดเหตุ “คลิปสนทนา” ระหว่าง “ผู้นำไทย” กับ “ผู้นำจิตวิญญาณกัมพูชา”
ท่าทีนายกฯในวันนั้นเด็ดสะระตี่ โดยอ้างข้อมูลยูเอ็น (สหประชาชาติ) ตีแสกหน้ากัมพูชาเป็น “อาชญากรรมไซเบอร์” ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท จีดีพี 40-60% มาจาก “คอลเซ็นเตอร์”
ขันอาสาเป็นเจ้าภาพหาความร่วมมือกับนานาชาติกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ ทุบหมอข้าว “ตระกูลฮุน” ที่ผูกขาดอำนาจในกัมพูชามายาวนานเกือบ 40 ปี
โดยงัดทุกมาตรการ ทั้ง Seal Stop Safe ลาดตระเวนตามจุดช่องทางธรรมชาติ เอกซเรย์บัญชีม้า ส่องเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ระงับบริการอินเทอร์เน็ต-ประตูอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่ส่งไปยังหน่วยงานทหาร หน่วยงานมั่นคงของกัมพูชา
เป็นอันว่า “ตระกูลชิน” ตัดขาด “ตระกูลฮุน” นับจาก “นายกฯอิ๊งค์” ถูกต้มจนเปื่อย ก็ได้จังหวะเอาคืนกวาดล้างธุรกิจสีเทาตามแนวตะเข็บชายแดนให้สิ้นซาก ดูทรงสองตระกูลนี้ต้อง “ปะ-ฉะ-ดะ” กันอีกหลายยก
ระหว่างนี้ก็มีการปล่อยหมัดข่มกันไปมา โดย “ผู้นำจิตวิญญาณกัมพูชา” ลีลาเหลือรับประทาน สร้างมุกผ่านโพสต์รัวๆ ตามสไตล์ถนัด ปั่นกระแสชาตินิยมค้ำบัลลังก์ตระกูลฮุนไปในตัว และยังตอกลิ่มการเมืองไทยให้ร้าวลึกระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย
ล่าสุดเปิดมีมือดีแพล่มให้เห็นว่า มีนักการเมืองใหญ่ของไทยซุกทรัพย์สินในกัมพูชา โดยพยายามโยนบาปให้ “แม่ทัพใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน” และ “บิ๊กทางจิตวิญญาณของพรรค” แม้ออกมาปฏิเสธชนิดรัวๆ ก่อนโยนระเบิดกลับ “ใครกันแน่ที่มีทรัพย์สินเอาไปฝากซุกซ่อนที่นั่น”
มือระดับเซียนในการเปิดประเด็นอย่างค่ายน้ำเงิน กล้าเปิดหน้าเล่นชนิดแถลงอย่างเป็นทางการ เพื่อขุดบ่อล่อปลายั่ว “บิ๊กนักการเมือง” ที่ซุกสมบัติไว้ต่างประเทศนอนผวา และสะกิดต่อมสมเด็จ ฮุนเซน ผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาลกัมพูชา ปล่อยคลิปเด็ดดังกล่าว
เด็ดกว่านั้น ว่ากันว่าฝั่งกัมพูชากำข้อมูลลับเกี่ยวข้องกับ “กองกำลังชุดดำ” ที่ออกปฏิบัติการพิเศษโยนบาปให้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายลงมือทำ จนเป็นปมคาใจของมวลชนมาถึงทุกวันนี้
รูปแบบลงมือปฏิบัติการมีการบังคับบัญชาแบบซับซ้อนคล้ายรังผึ้ง แต่ละโหนดของชุดดำไม่รู้จักกัน หัวหน้าโหนดขึ้นตรงต่ออีกคนเป็นทอดๆ ไปแบบนี้ โดยรับคำสั่งจากทหารนอกราชการ รบนอกรูปแบบกับกองทัพ
ทำให้แต่ละโหนดเมื่อลงมือในสมรภูมิ ไม่ว่าสำเร็จตามยุทธิวิธี หรือเกิดเพลี่ยงพล้ำขึ้นมา มีจุดถอยทัพหลบไปพื้นที่ปลอดภัย โดยทางเจ้าหน้าที่ทางการตามล่าไม่มีวันได้เจอตัว
จนถึงทุกวันนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังกลายเป็นปริศนาว่า กองกำลังชุดดำป่วนสถานการณ์บ้านเมือง มีใครเป็นผู้บงการใหญ่กันแน่
ต่อจิ๊กซอว์แล้วตกใจ เพราะจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย คือ “ผู้บงการใหญ่” กับ “นักการเมืองซุกหีบสมบัติ” ดันมีบุคลิกคล้ายๆกัน เป็น “บุคคลคนเดียวกัน” หรือไม่ “ผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาลกัมพูชา” คนเดียวเท่านั้น จะเป็น “ผู้เฉลย”
………………………………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
