หน้าแรกCOLUMNISTSสร้างภาพ‘สัมพันธ์ปึก’ แต่รอวัน‘แตกหัก’ 

สร้างภาพ‘สัมพันธ์ปึก’ แต่รอวัน‘แตกหัก’ 

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อย่าเพิ่งเบื่อกันสิคะ สัญญาณจากสื่อหรือเปล่า ที่ให้เปลี่ยนตัวนายกฯ” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หวานใส่สื่อ แต่แฝงด้วยความเด็ดขาด ไม่ให้ราคาขบวนการกดดันเปลี่ยนตัว “ผู้นำ”

และยังมีฉากเด็ดที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจาณรณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 ระหว่าง “หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ-รมว.มหาดไทย-หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ “นายกฯอิ๊งค์” บนบัลลังก์ฝั่ง ครม. 

แม้ดูเป็นปกติธรรมดาที่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่าง “หนู” ต้องรายงานผู้บังคับบัญชา “นายกฯอิ๊งค์” ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.เชียงราย ควบการปราบปรามยาเสพติด 

“ทฤษฎีปรากฏกาย” เป้าหลักไม่ใช่รายงานสถานการณ์น้ำท่วม-ปราบปรามยาเสพติด แต่ตั้งใจส่ง “สัญญาณสัมพันธ์ภาพ” ที่แนบแน่น สยบเครือข่ายของ “ค่ายแดง” ปะทะ “ค่ายน้ำเงิน”

หวังดับชนวน “พรรคเพื่อไทย” บีบ “ไข่หนู” ทวงคืนเก้าอี้ “รมว.มหาดไทย” และเบรก “เกมเจาะยางค่ายน้ำเงิน” จัดการล้างบาง “ขบวนการฮั้วเลือก สว.” ล่อเป้าเอาผิดถึง “ตัวการใหญ่” ระดับ “ผู้นำจิตวิญญาณ”

ก่อนหน้านั้นมีภาพกอดคอระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ กับ “มท.หนู” กลางงานปาฐกถาเรื่องยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน แสดงถึงความสัมพันธ์แนบแน่นเกินคำบรรยาย 

“ขึ้นตรงต่อลูก แนบแน่นกับพ่อ” ไม่รู้เป็นยันต์กันถูกลูกหลง ไล่ตะเพิดพ้นพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ ต้องรอดูยาวๆ 

“พลังแห่งอำนาจ” ระหว่าง “นายใหญ่” กับ “ครูใหญ่” ต่างราวฟ้ากับเหว ในช่วงที่ “หักดิบนายใหญ่” ไปตั้ง “พรรคภูมิใจไทย” จับมือ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่มี 165 เสียงจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จในปี 2551  

โดยเกิดภาพ “สวมกอด” ระหว่าง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ในขณะนั้น) กับ “ครูใหญ่-เนวิน ชิดชอบ” ก่อนมีคำพูดเป็นตำนาน “มันจบแล้วครับนาย” หักล้างคำพูดของ “นายใหญ่” ที่ตำหนิว่า “ไม่สำนึกบุญคุณ” 

วันนี้ “ครูใหญ่” สยายปีกบนฟ้า-ใต้ดิน-บนดิน แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว สั่งซ้ายหัน-ขวาหันได้ดั่งใจ มีหน้าตักกองเป็นภูเขา มี “อำนาจพิเศษอยู่ในมือ” และ “ต่อสายตรงจักรวาลแห่งอำนาจ”

ไม่ต่างกับ “นายใหญ่” สายตรงเหมือนกัน แต่ “อำนาจพิเศษ” แทบไม่เหลือพลังต่อรองจนพลิกผันทางการเมืองได้  สภาพภายในพรรค “ชี้นกเป็นไม้” ไม่ได้ เพราะ “คนในตระกูล” ถือดุลอยู่ด้วย

ใครมีอำนาจเหนือกว่า รอกาลเวลาค่อยแย้มให้เห็น โดยเฉพาะถ้าเครือข่ายแดงหมดน้ำอิ๊ว เบรกเกมชะลอเลือกกรรมการองค์กรอิสระวันที่ 30 พ.ค.68 ไม่ได้ ค่ายน้ำเงินก็ค่อยๆ กระชับอำนาจพิเศษ รุกไล่ค่ายแดงหมดอำนาจไปเรื่อยๆ

ปล่อยตกอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไป ไม่เป็นผลดีต่อ “นายใหญ่” เป็นจังหวะบีบให้เร้าเกมแตกหักกับ “ครูใหญ่” สัมพันธภาพเหล่านี้ ไร้ความหมายทันทีเมื่อถึงคิว “แตกหัก” 

แม้มีภาพ “หนู” ถูกกอดคอ “หนู” รายงานตรง “นายกอิ๊งค์” ก็ไร้ความหมาย เมื่อรอโอกาสใหม่ “ค่ายแดง” สร้างฐานอำนาจใหม่ เช่น น้ำเงินคุมหัวในองค์กร แต่ค่ายแดงเน้นคุมระดับผู้มีอำนาจระดับรองลงมาในองค์กรที่เป็นชี้ตายทางการเมือง 

พร้อมสร้างฐานทางการเมืองชิง “อำนาจรัฐ” ตั้ง “รัฐบาลพรรคเดียว” ให้ได้ ถึงได้เห็นน้ำเสียงกร้าวในวันเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ “ปราบยานรก” นึกว่าฟัง “นายกฯทักษิณ” ในปี 2546 แต่ “พลังแห่งอำนาจ”…ถดถอยไปหลายกิโลขีด

………………………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแข-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img