ผิดหวังกับรายการ “โอกาสไทยกับนายกฯแพทองธาร” ตอนพิเศษ “สร้างโอกาสในวิกฤติ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักลงทุน” ของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่หวนคืนสู่หน้าจอ ออกมาจ้อสื่อสารทางการเมืองอีกครั้ง
ตลอดรายการ มีท่อนฮุกปลุกพลังใจให้ปวงชนชาวไทยได้สัมผัสถึง “สร้างโอกาสในวิกฤติ” เฉพาะปมกรอบเจรจากับสหรัฐอเมริกา ที่มั่นใจ “วิน-วิน” ทั้งสองฝ่าย และรัฐบาลมี “หน้าตักเพียงพอ” จะรับมือวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดจากผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ
พร้อม “แพลมไต๋” ให้เห็นมี “ดีลลับ” โดยไม่ลงลึกในรายละเอียด เพราะเปิดเผยไม่ได้ หวั่นกระทบต่อกรอบเจรจา
แต่ประชาชนและนักลงทุนอยากรู้ที่สุดคือ ฉากทัศน์ด้านลบกระทบต่อประเทศร้ายแรงที่สุดโฉมหน้าเป็นอย่างไร-คนไทยต้องเตรียมรับมือตั้งอย่างไร-รัฐบาลมีมาตรการเตรียมช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
ระดับผู้บังคับบัญชา ครม. ต้องการันตรีถึงศักยภาพของ 35 รัฐมนตรี พร้อมรับมือ “มรสุมลูกใหญ่” ที่หนักกว่า “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ในปี 2540 โดยฉายภาพให้เห็นเป็นรายกระกระทรวงว่า ต้องทำอย่างไร
แต่ “นายกฯแพทองธาร” กลับติดหล่ม “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” พยายามชี้ให้สังคมเห็นถึง “โมเดลสิงคโปร์” เป็นสถานที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์จริง ทั้งจัดอีเวนต์คอนเสิร์ตระดับโลก มีโรงแรมหรู ดึงดูดนักท่องเที่ยว “วีวีไอพี-VVIP” จากต่างประเทศ เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตลอดทั้งปี
“กาสิโน” มีไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด แค่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ควักเงินลงทุน แต่ถูก “การเมือง” ตีจนฉ่ำ ให้สังคมเข้าใจผิดเป็น “อบายมุข”
สองประเด็นใหญ่ ทั้ง “กรอบเจรจากับสหรัฐฯ-กาสิโน” เป็นเกมที่ “พรรคเพื่อไทย” ถนัด ขยับต้องได้แต้มต่อทางการเมือง แต่ทุกครั้งที่ “นายกฯแพทองธาร” หรือ “คนในเพื่อไทย” สื่อสารการเมือง ล้วนไม่ประทับใจจอร์จ “ความเชื่อมั่น” ต่อรัฐบาลของนักลงทุนหล่นวูบไปอยู่ “ตาตุ่ม”
และหนักที่สุดทำให้ “เพื่อไทย” ฟอร์มตก เมื่อ “เถ้าแก่ใหญ่” สั่งใส่ “เกียร์ถอย” โครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” 1 หมื่นบาท เฟส 3 แก่เยาวชน นักศึกษาอายุ 16-20 ปี จำวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท
“วัยโจ๋” ลุ้นเข้าครม. 6 พ.ค.68 แต่ “นายกฯอิ๊งค์” ดับกระแสข่าว “นโยบายเรือเกลือ” ยังไม่เข้า ครม. ขอ “แทงกั๊ก” รอฟังข้อมูลรอบด้าน ก่อนเคาะเดินต่อหรือพอแค่นี้
ท่าทีสีหน้าของ “นายกฯอิ๊งค์-รมต.” ที่ร่วมแถลง และเมื่อสัญญาณจากคำพูดของนายกฯ “เงินก้อนนี้สามารถทำอะไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดของคนทั้งประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ”
เท่ากับ “เฟส 3 ถูกปิดฉาก” เพื่อเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านรับมือ “พายุเศรษฐกิจ” จากกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา
แต่ข้อเท็จจริงเชื่อว่า ระบบดิจิทัล วอลเล็ตที่ล้มไม่เป็นท่า ตั้งแต่เฟส 1-เฟส 2 และยังล้มต่อในเฟส 3 ไม่สามารถเชื่อมต่อ “สถาบันการเงิน” ได้อย่างเรียลไทม์ จึง “ยกเหตุผลอื่นมาอ้าง” และ “วงใน” เตรียมโยกงบก้อนนี้สำหรับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
วันนี้ทุกชนชั้นเริ่มตั้งคำถามกับ “รัฐบาลแพทองธาร” ถึง “เสถียรภาพ” และ “ประสิทธิภาพ” บริหารประเทศในยามวิกฤติ
ระหว่าง “อยู่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป” กับ “เปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่” ตัวเลือกไหนเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชนกว่ากัน โปรดช่วยกันคิดนะครับปวงชนชาวไทย
…………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย….#ราษฎรเต็มขั้น
