“รัฐบาลภูมิใจไทย” เริ่มออกอาการ หลังถูกเปิดโปง “ขบวนการอาชญากรรมทางไซเบอร์” มี “บิ๊กนักการเมือง” เข้าไปเกี่ยวข้อง ชนวนร้อนเริ่มลามไปถึง “บ้านมือประสานสิบทิศด้านการลงทุน” ให้ “ซุปเปอร์บิ๊กเนม” แผลทุนเทาถูกขยี้ฉีกให้ใหญ่ขึ้น
เจออีกดอกลงนาม MOA ร่วมมือแร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐอเมริกา คนในรัฐบาลดาหน้าออกมาชี้แจงยิบ ยิ่งเหมือนสาดน้ำมันลงบนกองไฟ จนต้องเปิดแถลงอย่างเป็นทางการอีกรอบ
ทั้งปมสแกมเมอร์ ประธานไซเบอร์บอร์ดอย่าง “นายกฯ หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุด แอ็กชันให้สังคมเห็นรัฐบาลตีหน้ายักษ์เอาจริง
มอบนายตำรวจเก่าระดับเขากระโดงไว้วางใจ “พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์” รมว.ยุติธรรม เป็นประธานชุดกำหนดกลยุทธ์ปราบปรามกระทำความผิดทางไซเบอร์ ด้านป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ มอบดาบให้ “ไชยชนก ชิดชอบ” รมว.ดีอี คุมเกม มี “บิ๊กอุ้ม-พล.ต.อ.เพิ่มพูล ชิดชอบ” คอยคัดท้ายหางเสือ
พร้อมเตรียมตีแผ่พฤติกรรมความผิดทางไซเบอร์ของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นเกราะป้องกันประชาชนไม่หลงกลเข้าร่วมขบวนการ ดึง น้องชายเสธ.หิ “หิมาลัย ผิวพรรณ” มือดี “ปราบอาชญกรรมทางไซเบอร์ตัวจริง” มานั่งประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับภัยทางไซเบอร์
ดึง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” รองนายกฯ และรมว.คลัง คุมทีมตรวจสอบเส้นทางการเงินและฟอกเงินเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์
ในเมื่อนายกฯ ปกติมีอำนาจเต็มมือ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา รมต. มอบนโยบายและขันน็อตกลไกรัฐได้เต็มที่ ยิ่งดูแลด้านความมั่นคง สั่งให้เลขาธิการสมช. ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าวงครม.ทุกนัด และมอบดาบให้คณะอนุชุดต่าง ๆ จัดการ
รับรองสแกนประเทศไทยเห็นไส้ทุกขดว่า บี๊กนักการเมือง บิ๊กข้าราชการ มือประสานสิบทิศด้านลงทุนให้ซุปเปอร์บิ๊กเนม 5 บิ๊กบอสแห่งขบวนการไซเบอร์ สร้างเครือข่ายทั่วประเทศให้ไทยเป็นฮับทางผ่านคนที่ถูกหลอกไปทำงานที่เมียนมา ลาว กัมพูชา โยกเงินกลับมาฟอกในประเทศไทยอย่างไร
เกมนี้รัฐบาลไม่ลูบหน้าปะจมูก รับรองแผ่นดินประเทศไทยสูงขึ้นอีกหลายกิโลขีด อย่างกระชากหน้ากากจับ “นักการเมือง ช. ภาคใต้” รวมนักการเมืองอื่น ๆ อีกเกิน 7 คน มีเอี่ยวสแกมเมอร์ รับรองรัฐบาลกระแสพุ่งทะลุปรอทแน่
แต่รัฐบาลยังไม่สามารถเบรกกระแสสแกมเมอร์ได้ กลับมาตั้งหลักแก้ข้อครหาแร่แรร์เอิร์ธ โดยหลังประชุมครม. ทั้ง รมว.คลัง รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ประสานเสียงทำความเข้าใจกับสังคม
คนไทยเพิ่งรู้ว่า ร่าง MOU ฉบับลงนามกับสหรัฐอเมริกา ครม.นัดพิเศษ 25 ต.ค.เห็นชอบ แต่คนไทย “งง” เป็นไก่ตาแตก ไม่มีใครเห็นร่างรายละเอียด MOU ฉบับร้อนฉ่า เกี่ยวข้องกับภูมิรัฐศาสตร์ และภูมิเศรษฐศาสตร์ เสี่ยงสะเทือนต่อความมั่นคงแผ่นดินไทย
ต่างกับในยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่ทำ MOU นับสิบฉบับกับจีน ร่าง MOU ผ่านครม.และเปิดเผยให้ประชาชนได้อ่านรายละเอียดได้ทุกตัวอักษร
MOU ฉบับดีลลับ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่คนในรัฐบาลแจงยิบ ไม่ใช่กฎหมาย ไม่ใช่หนังสือสัญญา แต่เป็นโซ่ทองคล้องใจ “ทรัมป์” สร้างสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ เหตุผลรัฐบาลยังฟังไม่ขึ้น มันต้องมีอะไรในก่อไผ่ เหลาลงไปไม่ใช่บ้องกัญชาแน่
และยังมีปมเบาเหมือนปุยนุ่น “ด้อยค่าสว.ขายหมู” ที่ประชุมสว.ที่บงการโดยกระบี่มือหนึ่งแห่งสายสีน้ำเงิน ลงมติฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง “สว.นันทนา นันทวโรภาส” ขั้นตอนต่อไปชงป.ป.ช.เชือด
แต่พฤติกรรม สว.กร่าง “ด่าหยาบตำรวจรัฐสภา” ตรวจสติกเกอร์ติดรถ สว.หื่น “ล่วงละเมิดทางเพศ” ลากผู้หญิงขึ้นคอนโด สว.จอมจิ๊ก “ขโมยของ” จากรถที่ประสบอุบัติเหตุ เทียบปอนด์ต่อปอนด์กับประเด็น “ด้อยค่าสว.ขายหมู” ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“สแกมเมอร์-แร่แรร์เอิร์ธ-ปมปุยนุ่น” 3 เหตุการณ์-3 รสชาติ โดยฝ่ายค้านยังไม่ได้ออกอาวุธใด ๆ “เขากระโดง” ยังถูกแผดเผา จนควันสีเทาปกคลุม หากรัฐบาลอยู่ครบ 4 เดือน ถึง 31 ม.ค.69 ก็ขอคารวะ
………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…..#ราษฎรเต็มขั้น











