Green Textiles : Net-Zero Emission Textile Production
“….อุตสาหกรรมสิ่งทอ มีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก….”
สิ่งทอสีเขียว Green Textiles คือ แนวคิด และแนวปฏิบัติในการผลิตสิ่งทอที่เน้นการลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม Reducing Negative Impacts on the Environment และส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ Promoting Social Responsibility throughout the Product Lifecycle ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ Raw Material Sourcing, การผลิต Production, การใช้งาน Use ไปจนถึงการจัดการเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน End-of-Life Management .. เป้าหมายคือ การสร้างสรรค์ผ้า Creating Fabrics และเครื่องนุ่งห่มที่เป็นมิตรต่อโลก และผู้คนมากขึ้น Clothing that is More Friendly to the Planet & People ..

อุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียว Green Textile Industry ครอบคลุมกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Environmentally Friendly Processes และการจัดหาวัสดุอย่างยั่งยืน Sustainable Material Sourcing เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศของการผลิตเสื้อผ้า และผ้า Minimize the Ecological Impact of Clothing & Fabric Production โดยคำนึงถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การอนุรักษ์น้ำ Water Conservation, มลพิษทางเคมี Chemical Pollution และการลดของเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน Waste Reduction throughout the Supply Chain ซึ่งรวมถึงการใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก Use of Organic Cotton, เส้นใยรีไซเคิล Recycled Fibers และวัสดุนวัตกรรม Innovative Materials เช่น เทนเซล และไม้ไผ่ Tencel & Bamboo ควบคู่ไปกับการผลิตที่ประหยัดพลังงาน Energy-Efficient Manufacturing และการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีจริยธรรม Ethical Labor Practices เป็นต้น ..
การผลิตสิ่งทอที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Textile Manufacturing มีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Balance Greenhouse Gas : GHG Emissions โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ และชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหลืออยู่ผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก Global GHG Emissions และ 20% ของน้ำเสีย Wastewater .. การบรรลุเป้าหมายนี้ จำเป็นต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกระบวนการผลิต Production Processes, การจัดหาวัตถุดิบ Raw Material Sourcing, การใช้พลังงาน Energy Consumption และการนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน Sustainable Practices และเทคโนโลยีนวัตกรรม Innovative Technologies มาใช้อย่างแพร่หลายตลอดห่วงโซ่คุณค่า ..
กลยุทธ์หลักสำหรับการผลิตสิ่งทอที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Textile Manufacturing สรุปเป็นประเด็นสำคัญ ๆ ได้แก่ :-
– การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน Transition to Renewable Energy : การปรับเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล Shifting Away from Fossil Fuels ไปสู่การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Sources ทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม Solar & Wind Power สำหรับกระบวนการผลิต คือ ประเด็นกลยุทธ์หลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการพลังงานความร้อนในกระบวนการแปรรูปแบบเปียก Thermal Energy Needs in Wet Processing ..
– ประสิทธิภาพพลังงาน และน้ำ Energy & Water Efficiency : การนำระบบการจัดการพลังงานมาใช้ Implementing Energy Management Systems และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ Optimizing Water Usage ด้วยเทคโนโลยีบำบัดขั้นสูง Advanced Treatment Technologies ..
– วัสดุที่ยั่งยืน และวงจรหมุนเวียน Sustainable Materials & Circularity : การให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Prioritizing the Use of Eco – Friendly Materials และนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ Embracing Circular Economy Principles เพื่อลดของเสีย Reduce Waste และยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ Extend Product Life รวมถึงการส่งเสริมทางเลือกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ Promoting Biodegradable Options เช่น ขนสัตว์ Wool และการลงทุนในโครงการริเริ่มการรีไซเคิล Investing in Recycling Initiatives ..
– นวัตกรรมเทคโนโลยี Technological Innovations : การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น หม้อต้มน้ำไฟฟ้า Electric Boilers, ปั๊มความร้อน Heat Pumps, สิ่งทออัจฉริยะ Smart Textiles และการพิมพ์สาม มิติ 3D Printing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Improve Efficiency และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Reduce Environmental Impact ..
– ความร่วมมือ และความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน Supply Chain Collaboration & Transparency : การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการสร้างความมั่นใจในการรายงานการประเมินการปล่อยมลพิษ และความคืบหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยคายมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Assessments & Progress towards Net-Zero Targets อย่างโปร่งใส ..
– เปลี่ยนออกไปจากแฟชั่นเร็ว Shifting from “Fast Fashion” : การเปลี่ยนจากการผลิตเสื้อผ้าแบบใช้แล้วทิ้งปริมาณมาก Moving Away from High-Volume, Disposable Garment Production ไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และทนทาน Use of High-Quality & Durable Products ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์หมุนเวียนที่ใช้งานได้นานขึ้น Circulate for Longer Periods และออกแบบมาเพื่อความยั่งยืน Designed for Sustainability ..
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายต่าง ๆ เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น Higher Production Costs และห่วงโซ่อุปทานที่จำกัด Limited Supply Chains Exist แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Advancements in Technologies และความต้องการที่เพิ่มขึ้น Growing Demand กำลังค่อย ๆ ลดอุปสรรคเหล่านี้ลงได้ .. ขณะที่พัฒนาการสำคัญ ๆ ประกอบด้วยการนำเส้นใย เช่น Tencel ซึ่งเป็นเส้นใยเซลลูโลสที่สกัดจากเยื่อไม้ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเส้นใยจากสาหร่าย Algae หรือเห็ด Mushrooms มาใช้อย่างแพร่หลาย รวมทั้งความก้าวหน้าด้านการผลิตสิ่งทอชีวภาพ และสิ่งทอที่ปลูกในห้องปฏิบัติการ Bio-Fabrication & Lab-Grown Textiles ผนวกกับการผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ Smart Technologies เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน Enhanced Functionality ที่หลากหลายมากขึ้น และการเก็บเกี่ยวพลังงาน Energy Harvesting หรือสิ่งทอที่ผลิตกำลังไฟฟ้าได้ Textiles that can Generate Electricity มาพร้อมอีกด้วย เป็นต้น ..
สำหรับอนาคตของสิ่งทอ Future of Textiles นั้น ได้รับการคาดหมายได้ว่าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ More & More Environmentally Friendly & Sustainable โดยขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้วัสดุชีวภาพ วัสดุรีไซเคิล และวัสดุนวัตกรรม Switch to Bio-Based, Recycled & Innovative Materials ควบคู่ไปกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy Principles และความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Consumer Demand for Eco-Friendly Products ..
แนวโน้มสำคัญจากนี้ไป ได้แก่ การนำสิ่งทอที่ยั่งยืน และอัจฉริยะมาใช้อย่างแพร่หลาย Widespread Adoption of Sustainable & Smart Textiles, การผสมผสานปัญญาประดิษฐ์ กับการวิเคราะห์ข้อมูล Integration of AI & Data Analytics, เทคนิคการพิมพ์ และการย้อมสีดิจิทัลขั้นสูง Advanced Digital Printing & Dyeing Techniques และการมุ่งเน้นความโปร่งใส และระบบอัตโนมัติในห่วงโซ่อุปทาน Supply Chain Transparency & Automation .. ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายความต้องการที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืน Sustainability, ความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี Advancements in Technological Innovations และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในด้านการปรับแต่งเฉพาะบุคคล และการใช้งาน Increasing Consumer Demand for Personalization & Functionality ให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..
การลดการปล่อยมลพิษผ่านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Emissions Reduction Through Innovation in the Textile Industry ..
อุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry คือ หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมาก และมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Significant Impacts on Climate Change ซึ่งได้รับการประมาณการณ์ว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม Textile & Garment Industry มีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก Global Carbon Emissions Share อยู่ที่ประมาณ 6-10% ซึ่งมากกว่าก๊าซคาร์บอนจากการบินระหว่างประเทศ International Aviation และการขนส่งทางทะเล Maritime Transport รวมกัน .. โดยหากไม่มีการดำเนินมาตรการใด ๆ ภายใต้การดำเนินธุรกิจตามปกติเหมือนเช่นที่ผ่านมา Emissions from the Textile Industry การปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ Emissions from the Textile Industry ถูกประเมินได้ว่าจะเพิ่มขึ้น 30% ภายในปี 2573 ..
แหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Main Sources of GHGs Emissions in the Textile Industry นั้น มาจาก 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ การผลิตวัตถุดิบ Raw Material Production, กระบวนการผลิตสิ่งทอ Textile Production Processes, การขนส่ง Transportation, การใช้งาน และการดูแลรักษา Use & Maintenance และการจัดการของเสีย Waste Management ..
ในประเด็นแรกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัตถุดิบ Raw Material Production นั้น เส้นใยธรรมชาติ Natural Fibers มาจากการปลูกฝ้ายที่ต้องใช้น้ำปริมาณมาก และมีการใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ Nitrous oxide : N2O ที่มีศักยภาพในการก่อภาวะเรือนกระจกสูง รวมถึงการใช้พลังงานในการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยว .. ขณะที่เส้นใยสังเคราะห์ Synthetic Fibers เช่น โพลีเอสเตอร์ Polyester, ไนลอน Nylon และอะคริลิค Acrylic ผลิตขึ้นจากปิโตรเลียม ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels .. การผลิตเส้นใยเหล่านี้ คือ กระบวนการที่ใช้พลังงานสูง Energy-Intensive และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 เป็นจำนวนมาก ..

สำหรับในกระบวนการผลิตสิ่งทอ Textile Production Processes นั้น การปั่นด้าย และทอผ้า Spinning & Weaving ตลอดจนการย้อมสี และการตกแต่งสำเร็จ Dyeing & Finishing เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานสูง ทั้งจากการใช้เครื่องจักร และการให้ความร้อน รวมถึงการใช้น้ำ และสารเคมีจำนวนมาก .. สารเคมีบางชนิดที่ใช้ในกระบวนการเหล่านี้ อาจปล่อยก๊าซเรือนกระจก Greenhouse Gas Emissions หรือสร้างมลพิษทางน้ำ Water Pollution มาพร้อมอีกด้วย ..
นอกจากนั้น โรงงานสิ่งทอ Textile Factories จำนวนมาก ยังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล Rely on Fossil Fuels เช่น ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ Coal & Natural Gas ในการผลิตพลังงาน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 .. ทั้งนี้ การขนส่ง Transportation และห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry Supply Chain มีความซับซ้อน และเป็นระดับโลก ทำให้ต้องมีการขนส่งวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปข้ามประเทศเป็นระยะทางไกล ๆ ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากยานพาหนะต่าง ๆ มาพร้อมด้วยเช่นกัน ..
การใช้งาน และการดูแลรักษา รวมทั้งการจัดการของเสีย Use & Maintenance Including Waste Management ก็เป็นเช่นเดียวกัน การซักผ้า การอบผ้า และการรีดผ้า Washing, Drying & Ironing ของผู้บริโภคก็ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งหากกำลังไฟฟ้ายังคงมาจากแหล่งพลังงานที่ปล่อยคาร์บอน Carbon-Emitting Energy Sources ก็หมายถึงจะยิ่งเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก .. เสื้อผ้าสังเคราะห์ ยังปล่อยไมโครพลาสติก Microplastics สู่แหล่งน้ำทุกครั้งที่ซัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำอีกด้วย ..ขณะที่ขยะสิ่งทอ Textile Wastes จำนวนมากที่ถูกนำไปฝังกลบ ซึ่งในกระบวนการย่อยสลายของขยะสิ่งทอ โดยเฉพาะเส้นใยธรรมชาติ สามารถปล่อยคายก๊าซมีเทน Methane : CH4 ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า ..
ดังนั้น เพื่อลดการปล่อยมลพิษผ่านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Emissions Reduction Through Innovation in the Textile Industry ตามแนวคิดการผลิตเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Textile Manufacturing นั้น การประยุกต์ใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ Innovation & New Technologies ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ Product Life Cycle จึงถือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้จากนี้ไป ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน สรุปได้ดังนี้ :-
1. นวัตกรรมด้านวัตถุดิบ Sustainable Materials ..
1.1 เส้นใยชีวภาพ และวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพ Bio-Based & Biodegradable Materials :-
– สาหร่าย Algae or Seaweed : มีการวิจัย และพัฒนาเส้นใยจากสาหร่าย Algae Fiber ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเร็ว ไม่ต้องการพื้นที่ หรือน้ำจืดมากในการเจริญเติบโต และสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 Absorption ได้ในระหว่างการสังเคราะห์แสง Photosynthesis รวมทั้งปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 สู่บรรยากาศระหว่างเจริญเติบโตมาพร้อมด้วย .. สิ่งทอจากสาหร่าย Algae Textiles ยังสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ 100% ..
– เห็ดรา Mushroom Mycelium : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจในการนำมาผลิตเป็นวัสดุคล้ายหนัง หรือเส้นใย โดยมีคุณสมบัติย่อยสลายได้ .. ทั้งนี้ เส้นใยไมซีเลียมจากเห็ด Mushroom Mycelium Fibers คือ วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Eco-Friendly Materials ซึ่งครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย Versatile Applications ทั้งบรรจุภัณฑ์ Packaging, สิ่งทอ Textiles และวัสดุก่อสร้าง Construction Materials ..
– กากของเหลือทิ้งทางการเกษตร Agricultural Wastes : ขยะของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตร เช่น เปลือกแอปเปิ้ล, ขยะทิ้งจากกากแอปเปิ้ลในอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ หรือเศษใบไม้ หรือจากใบสักที่ร่วงหล่น เป็นต้นนั้น สามารถนำมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบ หรือวัสดุทางเลือกที่มีความทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry ตามแนวคิดการผลิตเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Textile Manufacturing ได้เป็นอย่างดี ..
– เส้นใยเซลลูโลสที่ผลิตอย่างยั่งยืน Sustainable Cellulosic Fibers : เช่น Tencel, Lyocell และ Modal ที่ผลิตจากเยื่อไม้ที่ได้รับการรับรองว่ามาจากการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน Sustainable Forest Management และใช้กระบวนการผลิตแบบวงปิด Closed-Loop Production Processes ที่ลดการใช้น้ำ และสารเคมี Reduce Water & Chemical Usage ..
1.2 เส้นใยรีไซเคิล Recycled Fibers :-
– การรีไซเคิลแบบเส้นใยสู่เส้นใย Fiber-to-Fiber Recycling : เป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำผ้าเก่ากลับมาแปรรูปเป็นเส้นใยคุณภาพสูงเพื่อผลิตเป็นเส้นด้ายใหม่ได้ โดยไม่ลดทอนคุณภาพของวัสดุลงมากนัก สามารถทำได้ทั้งแบบเชิงกล Mechanical Recycling และเชิงเคมี Chemical Recycling เช่น กระบวนการ Circulose® ของบริษัท Renewcell ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าให้เป็นวัตถุดิบใหม่ ..
– การรีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET Bottle Recycling : เป็นที่นิยมในการนำขวดพลาสติก PET มาผลิตเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลได้ Recyclable Polyester Fibers เพื่อใช้ในการผลิตเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ..
2. นวัตกรรมในกระบวนการผลิต Process Innovations ..
2.1 การย้อมสีแบบไร้น้ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Waterless & Eco-Friendly Dyeing :-
– การย้อมสีด้วยคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤติยิ่งยวด Supercritical CO2 Dyeing : เทคโนโลยีนี้ใช้ CO2 ในสถานะวิกฤติยิ่งยวดเป็นตัวทำละลายแทนน้ำ ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำเลยในกระบวนการย้อมสี และยังช่วยลดการใช้สารเคมี และพลังงานได้มาก บริษัทฯ อย่าง DyeCoo เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีนี้ ..
– การย้อมสีด้วยจุลินทรีย์ Microbial Pigments : ใช้แบคทีเรียที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม Genetically Modified Bacteria ให้ผลิตเม็ดสีตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำ และสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง ..
– การพิมพ์ดิจิทัล Digital Printing : ช่วยลดการใช้น้ำ และสีย้อมได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการพิมพ์แบบดั้งเดิม เนื่องจากสีย้อมจะถูกใช้เฉพาะบริเวณที่ต้องการเท่านั้น และลดของเสียจากสีย้อม ..
– สีย้อมธรรมชาติ Natural Dyes : การกลับมาใช้งานสีย้อมที่ได้จากพืช Use of Dyes Derived from Plants เช่น ขมิ้น Turmeric, คราม Indigo หรือหัวบีทรูท Beetroot เพื่อทดแทนสีย้อมสังเคราะห์ Synthetic Dyes ..
2.2 การออกแบบที่ลดของเสีย Zero-Waste Design :-
การตัดเย็บแบบไร้เศษผ้า Zero-Waste Pattern Design นั้น นักออกแบบ Designers สามารถสร้างสรรค์แพทเทิร์นที่สามารถนำผ้ามาใช้งานได้ทุกส่วนโดยไม่มีเศษเหลือทิ้ง ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะสิ่งทอ Reduce Textile Waste ในขั้นตอนการผลิต ..

2.3 เทคโนโลยีการผลิตที่ใช้พลังงาน และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ Energy & Resource-Efficient Production Technologies :-
– เครื่องจักรประสิทธิภาพสูง High-Efficiency Machinery : การลงทุนในเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานน้อยลงในทุกขั้นตอนการผลิต เช่น เครื่องปั่นด้าย Spinning Machines, เครื่องทอผ้า Looms และเครื่องตกแต่งสำเร็จ Finishing Machines ..
– ระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ Automation & AI : การใช้ระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการการผลิต การตัดผ้าให้แม่นยำขึ้น การพยากรณ์ความต้องการของตลาด เพื่อลดการผลิตเกินความจำเป็น และการจัดการสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ..
3. นวัตกรรมด้านวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ Product Lifecycle Innovations ..
3.1 เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy :-
– การออกแบบเพื่อการรีไซเคิล Design for Recyclability : การออกแบบเสื้อผ้าที่สามารถถอดแยกส่วนประกอบได้ง่าย เพื่อให้สะดวกต่อการรีไซเคิลวัสดุแต่ละประเภท Ease of Recycling of Each Type of Materials ..
– การผลิตตามความต้องการ On-Demand Manufacturing : การผลิตสินค้าเมื่อมีคำสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งช่วยลดการผลิตเกินความต้องการ และลดสินค้าคงคลังที่ไม่ถูกขายไปพร้อมด้วย ..
– โมเดลธุรกิจใหม่ๆ New Business Models : ตัวอย่างเช่น การเช่าเสื้อผ้า Clothing Rental, การซ่อมแซมเสื้อผ้า Clothing Repair และการนำเสื้อผ้าเก่าไปขายต่อ Resale เพื่อยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ และลดความจำเป็นในการผลิตใหม่ ..
3.2 ระบบคัดแยกอัจฉริยะ Smart Sorting Systems :-
– ใช้เซ็นเซอร์ และซอฟต์แวร์ AI ในการคัดแยกผ้าตามองค์ประกอบ สี และแม้กระทั่งแบรนด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และอัตราการรีไซเคิลของเสียสิ่งทอให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ..
3.3 แฟชั่นดิจิทัล และแฟชั่นเสมือนจริง Digital & Virtual Fashion :-
– นักออกแบบ Designers สร้างสรรค์เสื้อผ้าดิจิทัลที่ผู้บริโภคสามารถ “สวมใส่” ได้ในพื้นที่ออนไลน์ และเกม หรือโซเชียลมีเดีย Games or Social Media ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการผลิตเสื้อผ้าตัวอย่าง และลดการผลิตมากเกินไปสำหรับเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ..

ทั้งนี้ นวัตกรรมที่กล่าวถึงเหล่านี้ ล้วนมีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Reducing Greenhouse Gas Emissions, ลดการใช้น้ำ Reducing Water Use, ลดของเสีย Reducing Waste และลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย Reducing the Use of Harmful Chemicals ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry ทำให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว Long-Term Sustainability และเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry ให้ไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น More Environmentally Friendly ได้สำเร็จในที่สุด ..
อุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียวในประเทศไทย Green Textile Industries in Thailand ..
อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทย Thailand’s Textile Industry คือพลังสำคัญทางวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ เป็นที่รู้จักในด้านการผลิตที่หลากหลาย ตั้งแต่ผ้าทอมือแบบดั้งเดิม เช่น ผ้าไหมไทย และผ้าฝ้ายย้อมคราม ไปจนถึงเส้นใยสังเคราะห์สมัยใหม่ โดยประเทศไทย ถือเป็นผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ และอะคริลิกรายใหญ่ของโลก Major Global Producer of Polyester & Acrylics .. อุตสาหกรรมนี้ ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบไปจนถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูป และมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจท้องถิ่น และการอนุรักษ์วัฒนธรรม Local Economies & Cultural Preservation โดยภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย ต่างก็มีประเพณีการทอผ้า และย้อมสีตามภูมิสังคมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะของท้องถิ่นเอง ..
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศไทย Thailand’s Textile Industry กำลังให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติที่ “สะอาดสีเขียว Clean & Green” หรือ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Environmentally Friendly” มากขึ้น ซึ่งรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด Investing in Clean Technology, โครงการบำบัดน้ำ Water Treatment Programs, พลังงานหมุนเวียน Renewable Energy และโครงการริเริ่มการรีไซเคิลขยะ Waste Recycling Initiatives เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Reduce Its Environmental Footprint และเป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก Global Sustainability Standards ..
โรงงานสิ่งทอหลายแห่งในประเทศไทย Several Textile Factories in Thailand มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่สะอาด และยั่งยืน Clean & Sustainable Practices โดยหลายแห่ง ได้ลงทุนในเทคโนโลยี และกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบำบัดน้ำ Water Treatment, วัสดุรีไซเคิล Recycled Materials และการรับรองมาตรฐานสากล International Standard Certification เช่น มาตรฐานของสถาบัน OEKO-TEX® ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก สำหรับการทดสอบผลิตภัณฑ์สิ่งทอ และเครื่องหนัง เพื่อรับรองว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย และเป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้บริโภค Safe from Harmful Chemicals & Friendly to the Health of Consumers .. บริษัทต่าง ๆ ของไทย เช่น พาร์ฟัน เท็กซ์ไทล์ Parfun Textile และบริษัท โทเร เท็กซ์ไทล์ ประเทศไทย จำกัด มหาชน Toray Textiles (Thailand) Public Company Limited เป็นต้นนั้น เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น แนวคิด “โรงงานสีเขียว Green Factory” และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด Rigorous Environmental Management Systems ..
จนถึงวันนี้ ประเทศไทย Thailand มีโรงงานผลิตสิ่งทอ Textile Factories ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนำแนวปฏิบัติ และการรับรองที่ยั่งยืนมาใช้ อาทิ บริษัท SC GRAND ผู้ผลิตผ้ารีไซเคิล และสินค้ารีไซเคิล สำหรับการรีไซเคิล และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน, บริษัท Toray Textiles สำหรับการลดการใช้พลังงาน และเป็นไปตามมาตรฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, บริษัท Jong Stit สำหรับกระบวนการรีไซเคิล และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, บริษัท Parfun Textile สำหรับโครงการบำบัดน้ำ และบริษัท Greencare ซึ่งใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก 100% ที่ได้รับการรับรองจากมาตรฐาน Global Organic Textile Standard: GOTS และวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ..
การรีไซเคิลขยะ Waste Recycling และการมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy จากโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น โครงการรีไซเคิล “สิ่งทอสู่สิ่งทอ Textile to Textile: T2T” โดยบริษัทไทยโพลีเอสเตอร์ Thai Polyester คือ ตัวอย่างการดำเนินงานเพื่อลดขยะฝังกลบ Reduce Landfill Waste, อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ Conserve Natural Resources และลดมลพิษด้วยการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ Reducing the Environmental Impact of Virgin Material Production ..
นอกจากนั้น โรงงานผลิตสิ่งทอ Textile Factories หลายแห่งของไทย มีการการผลักดันให้มีการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์บนหลังคา Solar Rooftops และปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การใช้กระบวนการ Organic Rankine Cycle : ORC เพื่อนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ Waste Heat Recovery โดยบริษัทโทเร เท็กซ์ไทล์ Toray Textiles ซึ่งกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อลดการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นศูนย์สุทธิของไทย Thailand’s Net Zero Textile Industry ..
ทั้งนี้ ตัวอย่างโรงงานผลิตสิ่งทอสีเขียวในประเทศไทย Green Textile Factories in Thailand ได้แก่ :-
– บริษัท SC GRAND รวบรวมของเสียจากหลากหลายอุตสาหกรรม นำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อให้เกิดเป็นสินค้าประเภทผ้า Fabric Products โดยจุดมุ่งหมายของพวกเขาคือ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ยั่งยืน Sustainable Materials และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน Carbon Emission Reduction โดยได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก Thailand Greenhouse Gas Management Organization: TGO ..
– บริษัท Toray Textiles (Thailand) ในฐานะหนึ่งในบริษัทฯ ผู้ผลิต และส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอคุณภาพชั้นนำของไทย ด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย .. พวกเขา มุ่งเน้นการลดการใช้พลังงาน Minimizing Energy Consumption และปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสากลที่เข้มงวด Stringent International Environmental Standards โดยได้รับการรับรองหลากหลายประเภท ..
– บริษัท จงสถิต จำกัด Jong Stit Co., Ltd. มุ่งมั่นในกระบวนการรีไซเคิล และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Recycling Processes & Eco-Friendly Products โดยทำงานอย่างแข็งขันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการให้ความรู้แก่พนักงาน และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ..
– บริษัท พาร์ฟัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด Parfun Textile Co., Ltd. ให้ความสำคัญกับคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทุนครั้งใหญ่ในการบำบัดน้ำ Water Treatment เพื่อให้มั่นใจว่า น้ำสะอาดจะกลับมาใช้อีกครั้งหลังการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ..
– บริษัท กรีนแคร์ จำกัด Greencare Co., Ltd. ใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก 100% Organic Cotton ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งทอออร์แกนิกสากล Global Organic Textile Standard: GOTS และใช้วิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับเสื้อผ้า Eco-Friendly Production Methods for their Garments ..
– บริษัท พาซาญ่า Pasaya ผู้ผลิตชุดเครื่องนอนระดับพรีเมี่ยม, ผ้าม่าน และสินค้าตกแต่งบ้าน ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 Certification, ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติด้านผ้าม่านประหยัดพลังงาน Innovation Award for Energy-Saving Curtains และผ่านเกณฑ์ของโครงการฉลากเขียวไทย Thai Green Label Scheme ..
– บริษัท วีที การ์เมนท์ VT Garment ในฐานะผู้นำด้านกระบวนการผลิตสิ่งทอสมัยใหม่ของไทย .. พวกเขา ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการดำเนินงาน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ Solar Power อยู่ที่ประมาณ 20% และยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 Certification ..
– บริษัท ยูไนเต็ด เท็กซ์ไทล์ มิลส์ United Textile Mills : UTM ในฐานะบริษัทฯ สิ่งทอฟอกย้อม ถักผ้า ย้อมเส้นด้าย ย้อมผ้าถัก และตกแต่งสำเร็จที่อยู่ในธุรกิจฟอกย้อม .. พวกเขา มีการวิจัย และพัฒนาสีย้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสูงสุด โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 14001 Certifications และป้องกันการรั่วซึมของสารเคมี Preventing Chemical Seepage ..
– บริษัท พีเพิลส์ การ์เมนท์ Peoples Garment มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงาน Energy Conservation, การลดของเสีย Waste Reduction และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 Emission Reduction ..
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า โรงงานสิ่งทอสีเขียวในประเทศไทย Green Textile Factories in Thailand กำลังเผชิญกับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และการขยายตลาด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญหลายประการ อาทิ การขาดความเข้าใจในเศรษฐกิจสีเขียว Lack of Understanding of the Green Economy, ต้นทุนการลงทุนเริ่มต้นที่สูง High Initial Investment Costs, ความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยี Need for Technological Advancement และการแข่งขันจากผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำกว่า Competition from Lower – Cost Producers ..

ดังนั้น การสนับสนุนสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล Government Support & Incentives และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน Board of Investment : BOI เพื่อดำเนินโครงการริเริ่มใหม่ภาครัฐอื่น ๆ Other Government Initiatives รวมถึงการเสนอสิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษี และไม่ใช่ภาษี Various Tax & Non-Tax Incentives สำหรับโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ตลอดจนโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืน Projects Aligned with National Development Goals, Including those Promoting Sustainability จึงถือเป็นความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้อุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียวของไทย Thailand’s Green Textile Industry บรรลุความคาดหวังได้สำเร็จในที่สุดจากนี้ไป ..
คาดการณ์ตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียว หรือตลาดผ้ายั่งยืนทั่วโลก Global Green Textile Industry or Sustainable Fabrics Market ..
อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ Market Research Future พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียว หรือตลาดผ้ายั่งยืนทั่วโลก Global Green Textile Industry or Sustainable Fabrics Market กำลังเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 74.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 เพิ่มขึ้นจาก 29.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับคาดการณ์ตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอสีเขียว หรือตลาดผ้ายั่งยืนทั่วโลก Global Green Textile Industry or Sustainable Fabrics Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 12.50% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2567-2575 ..
การขยายตัวนี้ เกิดจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น Increasing Environmental Concerns, ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน Consumer Demand for Sustainable Products และนโยบาย และแรงจูงใจจากภาครัฐที่สนับสนุน Supportive Government Incentives & Policies โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น เอเชียแปซิฟิก Asia-Pacific, สหภาพยุโรป European Union : EU และสหรัฐฯ United States : US ..
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ United States : US และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia-Pacific Regions คือภูมิภาคที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia-Pacific Regions ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในปี 2565 อยู่ที่ 45.80% .. ผู้ประกอบการรายใหญ่ กำลังมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา R&D และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ Strategic Partnerships เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาด ..
คาดว่า ตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากความต้องการสิ่งทอที่ยั่งยืน และสิ่งทอสำหรับเครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้น .. ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างเช่น อินเดีย India, จีน China, ญี่ปุ่น Japan และออสเตรเลีย Australia น่าจะสะท้อนภาพนี้ได้เป็นอย่างดี .. อินเดีย India คือตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Fastest-Growing Market in the Asia Pacific Region อันเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น การบริโภคเครื่องนุ่งห่มต่อหัวที่สูง และการลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของปัจจัยทางเศรษฐกิจ และสังคมที่สำคัญ .. นอกจากนี้ ตลาดผ้ายั่งยืนของจีน China’s Sustainable Fabrics Market ยังมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ขณะที่ตลาดผ้ายั่งยืนของอินเดีย Indian Sustainable Fabrics Market ก็เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia-Pacific Regions ไปพร้อมด้วย ..
ทั้งนี้ ประเทศไทย คือ หนึ่งผู้เล่นสำคัญระดับโลกในด้านการส่งออกสิ่งทอในตลาดโลก Significant Global Player in Textile Exports โดยอุตสาหกรรมสิ่งทอนี้ สร้างรายได้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วนที่สำคัญของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ ในปี 2566 .. มูลค่าการส่งออกสิ่งทอของไทย สูงถึง 6.94 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ไทยเป็นผู้ส่งออกสิ่งทอรายใหญ่อันดับที่ 20 ของโลก โดยมีตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ United States, ญี่ปุ่น Japan, เวียดนาม Vietnam, จีน China และอินโดนีเซีย Indonesia .. ขณะที่ประเทศไทย กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งออกสิ่งทอสีเขียว Green Textile Exports มากขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการสนับสนุนภาครัฐต่อแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืน และความต้องการเส้นใย และเครื่องนุ่งห่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก .. ประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจสิ่งทอสีเขียวแบบ Bio-Circular Green Textile Economy โดยเน้นการใช้วัสดุ กระบวนการผลิต และการรีไซเคิลที่ยั่งยืน Sustainable Materials, Production Processes & Recycling ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า ตลาดส่งออกสิ่งทอสีเขียวของไทย Thailand’s Green Textile Export Market จะเติบโตได้อย่างมั่นคง และกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับอนาคตเศรษฐกิจ และสังคมที่ยั่งยืน Sustainable Economic & Social Future จากนี้ไป ..
สรุปส่งท้าย ..
อุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry มีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก Significant Contributor to Global Carbon Emissions โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก Worldwide Greenhouse Gas Emissions ด้วยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 Emissions รวมประมาณ 1.7-4 พันล้านตันต่อปี ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมการบิน และการเดินเรือรวมกัน Aviation & Maritime Shipping Industry Combined ..
สาเหตุหลักมาจากกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานสูง Energy-Intensive Production Processes, การขนส่งที่กว้างขวางผ่านห่วงโซ่อุปทานที่ยาว Extensive Transportation across Lengthy Supply Chains และการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล Reliance on Fossil Fuels .. การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยวิธีการด้วยแนวทางต่าง ๆ จากหลายแง่มุม ซึ่งประกอบด้วยนวัตกรรมอุตสาหกรรม Industry Innovations, การดำเนินนโยบาย Policy Implementations และความตระหนักรู้ของผู้บริโภค Consumer Awareness เพื่อลดรอยเท้าคาร์บอน Drive Down Its Carbon Footprint และเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น More Sustainable Future เป็นต้น ..
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน Significantly Reduce Its Carbon Emissions ได้อย่างมีนัยสำคัญแน่นอนผ่านแนวทางที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ Multi-Faceted Approach Encompassing Energy Efficiency, การใช้พลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Adoption, วัสดุที่ยั่งยืน Sustainable Materials, โครงการริเริ่มด้านระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน Circularity Initiatives รวมทั้งการจัดการโลจิสติกส์ และขยะที่มีประสิทธิภาพสูงสุด Optimized Logistics & Waste Management ไปพร้อมด้วย ..
แม้จะตระหนักถึงความสำคัญของการลดรอยเท้าคาร์บอนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Reducing the Carbon Footprint in the Textile Industry แต่การทำความเข้าใจข้อจำกัด และความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับแนวทางเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ..

การคำนวณรอยเท้าคาร์บอน Carbon Footprint Calculations คือเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ Assessing the Environmental Impact of Textile Products แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น ความทนทานของผลิตภัณฑ์ Durability of Products ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาในการคำนวณเหล่านี้ .. เสื้อผ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า แม้ว่าการผลิตจะใช้พลังงานมากกว่าก็ตาม .. ในทำนองเดียวกัน การคำนวณเหล่านี้ ยังมิได้คำนึงถึงผลกระทบทางสังคมของการผลิตสิ่งทอ Social Impact of Textile Production เช่น สภาพการทำงาน Working Conditions และค่าจ้างที่เป็นธรรม Fair Wages เป็นต้น ..
ยิ่งไปกว่านั้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Greenhouse Gas Emissions ไม่ใช่ผลกระทบเพียงอย่างเดียวของอุตสาหกรรมสิ่งทอ Textile Industry .. สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คือ ต้องพิจารณาผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ Impact on Biodiversity, มลพิษ Pollution, การใช้น้ำ Water Consumption และแน่นอน สภาพการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน Working Conditions across the Entire Supply Chain ไปพร้อมด้วย ..
สำหรับสิ่งทอสีเขียว Green Textiles นั้น การลดรอยเท้าคาร์บอนของอุตสาหกรรมสิ่งทอ Reducing the Carbon Footprint of the Textile Industry คือความซับซ้อน และความท้าทายสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงในทุกระดับของห่วงโซ่การผลิต Changes at All Levels of the Production Chain ตั้งแต่แหล่งที่มาของวัตถุดิบไปจนถึงจุดสิ้นสุดของผลิตภัณฑ์ .. นอกจากนี้ ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค Changing Consumer Behaviors และการส่งเสริมวัฒนธรรมแฟชั่นที่ยั่งยืน Promoting a Culture of Sustainable Fashion .. ดังนั้น การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานกำกับดูแล Collaboration between Government, Private Sector & Regulators เพื่อดำเนินนโยบายส่งเสริมความยั่งยืน Implement Policies that Encourage Sustainability มุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้จากนี้ไป ..

เชื่อมั่นได้ว่า แม้การผลิตสิ่งทอที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Textile Manufacturing จะยังมีอุปสรรคมากมาย แต่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับสิ่งทอสีเขียว และอุตสาหกรรมสิ่งทอ More Sustainable Future for the Green Textiles & Textile Industry นั้น ไม่เพียงแต่เป็นไปได้เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องดำเนินงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมอีกด้วย .. อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบอาจจะมิได้ตกอยู่ที่ผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว ผู้บริโภคก็มีบทบาทเช่นกัน การเลือกซื้อเสื้อผ้าให้น้อยลงแต่มีคุณภาพมากขึ้น Choosing to Buy Less But Better, การดูแลเสื้อผ้า Taking Care of their Clothes และกระบวนผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Production of a More Environmentally Friendly End of Life ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสิ่งทอสีเขียว Reduce the Carbon Footprint of Green Textiles .. ทั้งนี้ เพื่อให้สิ่งทอสีเขียว และอุตสาหกรรมสิ่งทอ Green Textiles & Textile Industry สามารถแสดงบทบาทการมีส่วนร่วมสำคัญบนเส้นทางการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ ณ จุดเล็งที่ 1.5oC และบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions Targets ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ภายในครึ่งหลังของศตวรรษนี้ให้สำเร็จได้ในที่สุด ..
………………………………………..
คอลัมน์ : Energy Key
By โลกสีฟ้า ..
สนับสนุนโดย…..บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-
Green Textile | Wikipedia :-
https://en.wikipedia.org/wiki/Green_textile
Green Threads: Transforming the Textile Industry for a Sustainable Future | ADEC Innovations :-
Achieving Net Zero in the Textile Industry | Welspun :-
https://www.welspunliving.com/blog/net-zero-in-the-textile-industry
Carbon Neutral Fabric Factory: The Future of Sustainable Textile Manufacturing | Thttextile :-
The Reduction of Carbon Emissions in the Textile Industry | NetNada :-
https://www.netnada.com/post/the-reduction-of-carbon-emissions-in-the-textile-industry
Green Production & Consumption of Textiles & Apparel: Importance, Fabrication, Challenges & Future Prospects | ScienceDirect :-
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S219985312400074X
Global Trends of Green Manufacturing Research in the Textile Industry Using Bibliometric Analysis | ScienceDirect :-
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2666016423002839
Global Sustainable Fabrics Market | Market Research Future :-
https://www.marketresearchfuture.com/reports/sustainable-fabrics-market-7435
Net Zero Emissions Electricity & Carbon Neutrality :-











