ในการแถลงข่าว ยึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์รายใหญ่ ทั้งเครือข่าย “เฉิน จื้อ” แห่งปรินซ์กรุ๊ป-“ก๊ก อาน” คนสนิทฮุนเซน-“ยิม เลียก” ลูกรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เจ้าของแบงก์ บีไอซี และ“เบน สมิธ” รวมกว่า 10,000 ล้านบาทเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
มีประเด็นน่าสนใจคือ กรณีของ “ยิม เลียก” หรือ “ยิม แหละ” ตามทะเบียนบ้านในไทย นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวกัมพูชา ที่ขับรถบูการ์ติ คันละ 100 ล้านโชว์ในกรุงเทพมหานคร และมีภาพนั่งเครื่องบินเจ็ต กับภรรยาสาวสวยคนไทย ที่เป็นทายาทตระกูลอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง
ย้อนไปช่วงปี 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เคยอายัดทรัพย์ของ“ยิม เลียก” และ “ภรรยาคนไทย” ไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง เป็นทรัพย์สินในบัญชีกว่า 500 ล้านบาท แต่สุดท้าย มีการชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์ จน “ปปง.” ได้ถอนอายัดทรัพย์ในครั้งนั้นไป
จนกระทั่งวันนี้ “ปปง.” แถลงว่า มี “ตัวละครสำคัญ” ที่เกี่ยวกับ “ยิม เลียก” เป็นผู้ดูแลเบิกเงินในบัญชีให้ ทราบชื่อ คือ “น.ส.แตงไทย บ้านมะหิงษ์” นำไปสู่การยึดทรัพย์ เครือข่ายของ “ยิม เลียก” จำนวน 66 รายการ เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท
หากนับเฉพาะเงินที่หมุนเวียนในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ตำรวจบอกว่า อายัดไว้ตรวจสอบอย่างเดียว ก็แตะ 6,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว หลังจากนี้ เจ้าของทรัพย์มีเวลา 90 วัน ในการชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สิน ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
เมื่อตรวจสอบชื่อของ “แตงไทย บ้านมะหิงษ์” หนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่ตำรวจ และ ปปง. สืบสาวเส้นทางเงิน นำไปสู่การยึดทรัพย์ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา โดยเปิดธนาคารขึ้นมาฟอกเงิน
ปลายปี 2556 วันที่ 9 ต.ค. “แตงไทย” รับมอบอำนาจ จาก บริษัท สหทรัพย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของเรือขนเงินดอลลาร์ในพื้นที่ปัตตานี ให้มาแจ้งความกองปราบปรามว่า ถูกคนร้ายใช้สปีดโบ๊ต บุกปล้นเงินสดบนเรือ ทั้งเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์และริงกิตมาเลเซีย มูลค่า 120 ล้านบาท ก่อนสังหารโหดลูกเรือเสียชีวิตยกลำ
ต่อมา ตำรวจจับกุมตัว “7 ผู้ต้องหา” ที่ปล้นฆ่าชิงเงินได้อย่างรวดเร็ว โดย “ผู้วางแผนปล้น” เป็น อดีตนายท้ายเรือขนเงินลำดังกล่าว มี “นายทุน” ออกเงินให้ 5 แสนบาท ไปซื้อเรือสปีดโบ๊ต เพื่อใช้ในการปล้นอย่างอุกอาจ
ประเด็นสำคัญ ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยมาในครั้งนั้นคือ เงินดังกล่าวเป็นเงินของ “เสี่ยโจ้-สหชัย เจียรเสริมสิน” เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ปัจจุบัน หลบหนีคดีไปกบดานอยู่ที่กัมพูชา โดยแตงไทย ปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในหลายกิจการของ “เสี่ยโจ้” ด้วย
เมื่อปรากฎชื่อ “แตงไทย” โยงใยกับ “ยิม เลียก” จึงไม่แปลกใจว่า “เสี่ยโจ้” ที่กบดานอยู่ที่กัมพูชา อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง…ไม่มากก็น้อย
ส่วนตัว “แตงไทย” ที่ยังอยู่ใน จ.นครนายก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอิศรา โดยอ้างว่า เพิ่งทราบข่าวเรื่องถูกยึดทรัพย์ และไม่ตอบสัมพันธ์ใด ๆ ที่ไปเกี่ยวข้องกับ “ยิม เลียก”
เมื่อปะติดปะต่อเครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อนของ “เสี่ยโจ้” ลามไปถึงนักธุรกิจระดับลูกรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ถูกทางการสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจ ที่กัมพูชากำลังถูกนานาชาติกดดันอย่างหนัก ในการปราบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศ ที่ทำร้ายคนทั่วโลกให้หมดสิ้นไป
…………….
คอลัมน์ : The Key Reported by Fah kham-ram
