ทวงคืนแผ่นดินไทย ตาม “ยุทธการศตวรรษ” บนสภาพที่ “คาวบอยเฒ่า” ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา วางกล้ามถึงไทยและกัมพูชา สองรอบ สั่งให้หยุดยิง
บนสภาพการณ์การเมืองไทย นับถอยหลังยุบสภาไม่เกิน 31 มกราคม 2569 โดย “รัฐบาลรักษาการต้องรักษากติกา ผมชอบ Fair Game ต่อสู้ที่มีความเป็นธรรม” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย-หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้คำมั่นต่อสาธารณะ
นับตั้งแต่ “รัฐบาลภูมิใจไทย” เข้ามากระแสวูบวาบ ขึ้นสูงสุดยามข้าวใหม่ปลามัน โหนกระแสชาตินิยมเขี่ย “คลิปคุยกับลุง” ตกขอบเวทีแห่งอำนาจ ก่อนดำดิ่งไปกับท่าทีใส่เกียร์เดินหน้ากวาดล้างสแกมเมอร์ และแทบกู่ไม่กลับเมื่อหมดน้ำยารับมือวิปโยคอุทกภัยหาดใหญ่ สงขลา และลามไป 8 จังหวัดภาคใต้
ท่ามกลางเตรียมรับมือเลือกตั้งของทุกภาคส่วน “วุฒิสภา” เร่งเฟ้นเลือก “กกต.” (กรรมการการเลือกตั้ง) เติมเต็มผู้ที่อยู่ครบวาระ โดย “ณรงค์ กลั่นวารินทร์” นั่งประธาน กกต. “อนันต์ สุวรรณรัตน์” และ “ณรงค์ รักน้อย” นั่ง กกต.
ก่อนหน้านั้นโยกย้ายนอกฤดู “45 บิ๊กข้าราชการกระทรวงมหาดไทย” สลับดอกตั้งแต่อธิบดียัน ผวจ. โดยเจ้ากระทรวงยืนยันไม่เกี่ยวเกมเอาคืนอดีตรัฐบาลเพื่อไทย ตามวางตัวรองผวจ. ขยับขึ้นเป็นพ่อเมืองคนใหม่ยกแผง 18 จังหวัด
ที่ฮือฮาเป็นไปตามเกมฝ่ายปกครอง เมื่อขยับรองผวจ.ขึ้นพ่อเมืองปุ๊บ ฐานฝ่ายปกครองที่เชื่อมระหว่างจังหวัด ตำบล หมู่บ้าน ก็ออกมาตามเกม โดยโยกย้ายนายอำเภอ 197 ตำแหน่ง 7 ข้าราชการระดับสูง
วันนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุเดือดอีกครั้งแบบผิดปกติ ประชาชนตามแนวตะเข็บชายแดนเดือดร้อนถ้วนหน้า
ฝ่ายความมั่นคง รัฐบาลประสานเสียงไปทิศทางเดียวกัน พร้อมทุกพรรคการเมืองเชียร์เต็มที่ “ให้จบที่รุ่นเรา”… “กวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ส่งสัญญาณชัดเจน ตามด้วย “นายกฯ หนู” โพสต์ “ทิศทางของไทยยังคงเดิมไม่มีการหยุดยิง”
เมื่อจับท่าทีพลิกเกมของรัฐบาลในวันประชุม ครม. 9 ธ.ค.68 ระหว่างวันเสียงปืนแตกที่ชายแดน ดินเขม่า กลิ่นกำมะถันฟุ้งกระจาย “ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ของบกลางเพิ่มเติมกว่า 1.04 หมื่นล้านบาท อ้างเหตุผลมีหลายพื้นที่จำเป็นต้องจ่ายเงินอุดหนุนเพิ่ม เนื่องจากมีสถานการณ์ลุกลามบานปลาย” เท่ากับเบิกงบแผ่นดินสูงมากอีกเท่าตัว
พร้อมปรับหลักเกณฑ์พิจารณาอุดหนุนสำหรับผู้ประสบภัย เดิมกำหนดจาก “ผู้นำชุมชน-ผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน” คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับรอง กรณีผู้ประสบภัยรายใดไม่ได้รับการรับรอง เปิดช่องให้ทำประชาคมเพื่อรับรองแทน แต่ปรับโดยตัดข้อกำหนดการทำประชาคมออก เนื่องจากสร้างความยุ่งยากแก่ประชาชน
ก่อนหน้ากระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการเบิกจ่าย จ่ายให้ 1,526,274 ครัวเรือน กว่า 1.2192 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” ประกาศยุบสภา!!! เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกลางดึกว่า “ผมขอคืนอำนาจกลับไปยังพี่น้องประชาชนครับ”
โดยตามหลักทุกรัฐบาล หากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน ย่อมเลือกจังหวะที่ได้เปรียบคู่แข่งชิงยุบสภา เพื่อถือแต้มต่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบหลังเลือกตั้ง
ครั้งนี้มีปัจจัยความมั่นคงระดับภูมิภาคอาเซียนแทรกซ้อน แนวโน้มขยายตัว ปิดเกมเร็วไม่ได้ มีโอกาสที่ประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซงสูง ประเดิมโดย “คาวบอยเฒ่า” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งซิกบีบไข่ไทย-กัมพูชาก่อนเลย
เหตุการณ์ขยายตัวรวดเร็ว รุนแรง ระวัง “ประเทศที่สาม” เข้ามาก่อหวอด “กองทัพไทย” และ “รัฐบาลรักษาการ” จะรับมืออยู่หรือไม่ เป็นโจทย์ที่น่าคิดสำหรับ…ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ หรือมี “รัฐบาลชุดพิเศษ” ขึ้นมา
…………………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
