ปลัดสธ.เผย รพ.หาดใหญ่ จมน้ำ คาดเสียหายพันล้านบาท ใช้ 2 เดือนฟื้นฟูให้ได้ก่อน 80% ทุกฝ่ายเริ่มเข้าคุมโรคติดต่อ
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.68 นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงแผนฟื้นฟูโรงพยาบาลหาดใหญ่หลังน้ำท่วมสงขลา เบื้องต้นมูลค่าเสียหายราว 1,000 ล้านบาท ว่า แผนฟื้นฟูระยะสั้นภายใน 1-2 เดือนจะกลับไปให้บริการได้อย่างน้อย 80% จากของเดิม ซึ่งความเสียหายจะเสียหายในเชิงระบบ เช่น ระบบไฟฟ้า พวกแผงวงจรต่างๆ ระบบน้ำ ส่วนระบบบริการผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยฉุกเฉินเสียหายในระดับหนึ่ง ความเสียหายราว 1 พันล้านบาท จะรวมถึงการรีโนเวท ระบบป้องกันต่างๆ โดยคาดว่า 1 สัปดาห์แรกจะเปิดบริการผู้ป่วยนอก และห้องฉุกเฉินก่อน ส่วนสัปดาห์ที่ 2 สัปดาห์ที่ 4 เป็นการเปิดห้องผู้ป่วยไอซียู เปิดบริการที่เป็นแอดแล็ป จะทยอยเปิดมากขึ้น
นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีรพ.ข้างเคียงมาช่วยด้วย เพราะรพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) เต็มศักยภาพแล้ว โดยรพ.อื่นๆ ในอำเภอเมืองก็มารับเพิ่มเติม รวมถึงรพ.จังหวัดรอบข้าง ทั้งพัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช รพ.วชิระภูเก็ต ซึ่งมีศักยภาพใกล้เคียงรพ.หาดใหญ่ ได้รับคนไข้มากพอสมควรแล้ว ปัจจุบันมีรพ.สนาม 8 แห่ง และมีแผนเพิ่มอีก 2 แห่งซึ่งมีเตียงผู้ป่วยให้บริการประชาชน ทั้งเจ็บป่วยเดิม และเจ็บป่วยใหม่จากน้ำท่วม โดยสามารถเชื่อมข้อมูลจากรพ.หาดใหญ่ เพื่อให้บริการแล้ว อีกทั้ง รพ.หาดใหญ่ ณ ขณะนี้สามารถเปิดพื้นที่นอกรพ. ในห้างสรรพสินค้าแล้ว ซึ่งตนได้กำชับภายในสัปดาห์นี้ จะมีการเปิดบริการในส่วนOPD เฉพาะทาง เช่น อายุรกรรม แผนกเด็ก
นพ.สมฤกษ์ กล่าวถึงคลังยาของรพ.หาดใหญ่ ว่า คลังยาที่เสียหายเป็นคลังย่อย ในส่วนโอพีดี แต่คลังใหญ่ยังไม่กระทบ โดยใช้ได้ใน 2 สัปดาห์ และสามารถสั่งยาจากส่วนกลางเข้าไปเติมได้ ดังนั้น จึงไม่มีปัญหามาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงการดูแลผู้ป่วยไตภาพรวม ณ ขณะนี้เป็นอย่างไร นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยไตวายในพื้นที่หาดใหญ่ประมาณหลักร้อยกว่าคน จากทั้งจังหวัดสงขลาประมาณ 400-500 คน ซึ่งทุกคนเข้าถึงบริการล้างไตครบถ้วนผ่านบริการรถฟอกไตเคลื่อนที่ไปอยู่ที่ รพ.สนาม และยังมีศูนย์ฟอกไตเดิม ซึ่งเปิดบริการได้แล้ว
“ขณะนี้ผู้ป่วยไตเข้าถึงบริการได้ เพียงแต่ช่วงแรกๆของน้ำท่วมอาจลดจำนวนรอบ จาก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เหลือ 2 ครั้ง เพื่อให้ทุกเข้าใช้บริการได้ แต่จะพยายามให้ฟอกไตได้ภายใน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ในเร็วๆนี้ รวมถึงขอย้ำว่า ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ” ปลัดสธ.กล่าว
ส่วนการป้องกันโรคติดต่อ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค และสสจ.ร่วมกับภาคท้องถิ่นในการเฝ้าระวังโรคติดต่อหลังน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู โรคไข้หวัดในศูนย์พักพิง และโรคทางเดินอาหาร โรคท้องร่วง ซึ่งกรมอนามัยยังใช้คลอรีนป้องกันโรคที่มาจากน้ำ ให้ความสำคัญกับระบบน้ำประปา
เมื่อถามว่ามีประชาชนในพื้นที่นำสัตว์ที่ตายจากน้ำท่วมไปชำแหละกิน นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ควบคุมดูแล และอาหารที่นำเข้าไปก็เป็นอาหารปรุงสุก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคพื้นที่ได้ลงไปติดตามเฝ้าระวังโรคหลังน้ำท่วมแล้ว.
