หน้าแรกHighlight‘ทักษิณ’บรรยายพิเศษดินเนอร์พรรคร่วมฯ แนะรมต.ดูแลสส.ให้ดีมีคนคอยตีท้ายครัว

‘ทักษิณ’บรรยายพิเศษดินเนอร์พรรคร่วมฯ แนะรมต.ดูแลสส.ให้ดีมีคนคอยตีท้ายครัว

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ทักษิณ’ บรรยายพิเศษวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ยกประสบการณ์ 51 ปีที่แล้ว คุมเสียง สส.ด้วยตัวเอง มองปัญหาเป็นความท้าท้าย สร้างความเป็นปึกแผ่น เชื่อมั่น หลังผ่านพ้นปัญหา รัฐบาลเข้มแข็งขึ้น แนะ รมต.ดูแล สส.ให้ดี เพราะมีคนคอยตีท้ายครัว อย่าตกใจกับคะแนนเสียงที่หายไป มันหายไปได้ก็กลับมาได้ เชื่อ หลังเลือกตั้ง ทีมนี้ยังอยู่ เมื่อไม่ทิ้งกันแล้ว ก็ไม่ทิ้งกันตลอดไป ลั่น พ้นบ่วงแล้วจะเดินสายทุกจังหวัด

วันที่ 23 ก.ค.68 วานนี้ ( 22 ก.ค.)ที่รร.อีสตัน แกรด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นบรรยายพิเศษ งานดินเนอร์พรรรร่วมรัฐบาลโดยระบุว่า วันนี้ตัวเองรู้สึกหนุ่มขึ้นเยอะ เมื่อ 51 ปีที่แล้ว ตอนนั้นตนอายุ 25 มีประสบการณ์ทางการเมืองเหมือนวันนี้ ตอนนั้น มาช่วยราชการอยู่กับนาย ปรีดา พัฒนถาบุตร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกคนเดียว และเป็นวิปรัฐบาล สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมท เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้บรรยากาศคล้ายกันสมัยก่อน เพราะสมัยก่อนพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค เป็นผลพวงจากการเขียนกฏหมายทำให้การเมืองต้องมีสภาพไม่เป็นพรรคใหญ่มากนัก

ตอนสมัยที่ตนตั้งสมัยไทยรักไทย โดยรัฐธรรมนูญปี 2540 ทำให้พรรคการเมืองแข็งแรง แต่หลังจากปฏิวัติแล้ว คงไม่อยากเห็นการเมืองแข็งแรง ก็เลยมาเป็นแบบนี้ เป็นความท้าทาย แต่ตนเป็นคนไม่มองเห็นปัญหาเป็นปัญหา ตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย วันนี้กำลังท้าทายพวกเราที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเราจะต้องสร้างความเป็นปึกแผ่น สร้างความแข็งแรงของพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้ว่าเสียงจะเกินกึ่งหนึ่งไม่มากนัก แต่ด้วยความสามัคคี ความเป็นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของชาติ เสียงหนึ่งเสียงก็เกินพอ แต่วันนี้เราเกินเยอะกว่านั้นเยอะ และเข้าใจว่ามียุทธการที่ไม่พึงปรารถนาสักเท่าไหร่ มีมาทุกฝ่าย ไม่เป็นไรอย่าไปพูดถึง

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า 51 ปีที่แล้ว ตนนี่แหละมีบทบาทในการควบคุม สส.ให้มาโหวตในกฎหมายสำคัญทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ หรือกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ตนต้องไปอยู่ในสภา ต้องไปไล่ตามหัวหน้าพรรคต่างๆ ทำบัญชี แต่เป็นบัญชีอะไร ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพื่อให้ผู้แทนทั้งหลายได้อยู่ในสภาเรียบร้อย และมั่นใจว่าเราชนะโหวตก็ประคองอยู่พรรคนึง ตอนหลังพอดีมีเหตุการณ์หลายอย่าง และบังเอิญว่าวันนี้มีพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในจังหวะที่มั่นใจว่าได้เปรียบทางการเมือง แต่เป็นจังหวะที่ไม่ Gentlemanly (ไม่เป็นสุภาพบุรุษ)

ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น แข็งแรงดี จากที่ได้พบปะหัวหน้าพรรคทุกคน ทุกคนยืนยันว่าเราจะไปด้วยกัน และผมบอกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ทีมนี้แหละ ที่เมื่อเลือกตั้งแล้วก็จะเป็น Coalition กันอีก และเมื่อมันไม่ทิ้งกันขนาดนี้ ก็ไม่ทิ้งกันตลอดไป จริงหรือไม่

เพราะฉะนั้น วันนี้จากที่ตนมีประสบการณ์ 51 ปี ตนมีความรู้สึกว่า วันนี้ดีกว่าวันนั้นเยอะ และวันนี้ถึงแม้จะไม่ใช่เด็กอายุ 25 ที่จะนั่งไล่ตะครุบคนมาประชุม แต่วันนี้อย่างน้อยความเป็นพี่ของทุกท่านมาก่อน บางคนอาจจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะตนก็ 76 ปีแล้ว ง่ายกว่านั้นเยอะ วันนั้นยังทำได้ วันนั้นยังต้องขอตังค์คนอื่นมาใช้ วันนี้ยังพอมีตังค์ใช้เองบ้างก็โอเคกว่า มั่นใจว่าเราสามารถประคองรัฐบาลได้

นายทักษิณกล่าวว่า ปัญหาที่เราต้องแก้ให้ประชาชน อย่างที่ตนเคยพูดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา วันนี้บ้านเมืองเรามันเสียหายเยอะมาก การบริหารที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการบริหารทางเศรษฐกิจและระบบราชการที่เติบโตเยอะไป ซับซ้อนเกินไป ซึ่งระบบราชการต้องเปิดเผยชัดเจน เพราะฉะนั้นการปรับปรุงการบริหารประเทศ จะว่าแย่ก็แย่ จะว่าดีก็ดี เพราะเรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้เร็วขึ้น แก้ปัญหาเร็วขึ้น แต่วันนี้พวกท่านทั้งหลายต้องอดทนช่วยกัน และรัฐมนตรีทั้งหลายทำงานไปด้วย แบ่งเวลาให้ดี แบ่งเวลาให้กับ สส.ด้วยเพราะ สส.อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน บางเวลามีทุกข์มา ไม่รู้จะบ่นกับใคร ก็ต้องบ่นกับพรรคหรือ สส. สมัยก่อนรัฐมนตรีมี 48 – 49 คน หนึ่งต่อสี่ ก็ดูแลกันได้อบอุ่น ตนเชื่อว่า วันนี้ถ้าแต่ละพรรคแบ่งรัฐมนตรีให้ความอบอุ่นแก่ สส.มันก็จะมั่นคง เพราะบางครั้งหากไม่ดูแลก็จะถูกตีท้ายครัว หากดูแลดีๆก็ไม่ถูกใครตีท้ายครัว วันนี้ชอบมีคนตีท้ายครัวอยู่

ตนเชื่อในทฤษฎีอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Setback คือเวลาเรามีปัญหา เราถอยกลับมา เราก็จะตีกลับได้แรงขึ้น แบบ Stronger than state back การแก้ปัญหาของเราวันนี้ เมื่อปัญหาเรียบร้อยแล้ว ตนมั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะแข็งแรงกว่าที่แล้วมา เพราะมีความสามัคคีกัน ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงที่ส่งนโยบายถึงมือประชาชน วันนี้ได้นายภูมิธรรม ฝไปนั่ง ก็ไม่ค่อยดุเท่าไหร่ เพราะไปถึงอาทิตย์แรก ก็ย้ายอธิบดีสองคน บางทีบางครั้งประเทศเราต้องการความเด็ดขาด เฉียบพลัน บางทีเราช้าไป รำวงมากไป ก็ไม่ค่อยดี ต้องฟังและแม่นยำแล้วตัดสินใจเร็วๆ ก็ดีกว่า อย่ามัวรำวงมาก วันนี้เราไม่มีเวลารำวงตอนนี้ต้องเอาจริง ตนได้เห็นรัฐมนตรีหลายท่านขยันมากตั้งใจทำงาน แต่ต้องระวัง เพราะวันนี้ผู้คนหลากหลาย รู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีมาในรูปแบบต่างๆ อยากให้รัฐมนตรีหนักแน่น เข้มแข็ง จะได้การเมืองของเราให้ดี

นายทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้ตนว่างงานอยู่ ถ้ารัฐมนตรีคนไหนอยากใช้งาน จะโทรศัพท์มาปรึกษาหรืออะไรก็ยินดี แม้กระทั่ง สส.อยากชวนตนไปเที่ยวบ้านก็ยินดี ตนคิดว่าไม่มีอะไรทำก็อยากขับรถเที่ยวทั่วประเทศไทย ไปดูพ่อค้ายาเสพติดยังหลงเหลืออยู่ที่ไหนบ้าง จะได้มาฟ้องให้ฟัง ตอนนี้ชาวบ้านยอมรับเลยว่าเดือดร้อนทางเศรษฐกิจหนักที่สุด แต่ขอรัฐบาลจัดการยาเสพติดก่อน เพราะยาเสพติดทุกข์และผวา แต่ระยะหลังเราเอาจริงเอาจัง จับได้เยอะมาก แต่ปัญหาคือเรื่องการบำบัด ตนได้คำแนะนำว่าสถานที่ ทุกอำเภอที่มียาเสพติดระบาด เราสามารถใช้ตรงไหนก็ได้เช่นอำเภอนี้มี ตชด. ก็ปรับปรุงทำโรงนอน เอาคนติดยามาบำบัด ร่วมกับสาธารณสุข หรือจะใช้โรงเรียนร้างที่ปิดไปแล้วมาทำ หากเราจับด้วยบำบัดด้วย ก็จะได้ผลเร็ว

ส่วนเรื่องกัญชา วันนี้เป็นปัญหากับการท่องเที่ยวมาก หลายที่นักท่องเที่ยวหายไปด้วยกัญชา เพราะฉะนั้นกัญชาเสรีอันตราย ต้องรีบกลับมาควบคุมให้ได้ เมื่อวันก่อนมีสามีภรรยาคนอินเดีย ฮันนีมูนที่ภูเก็ต อยู่ๆ ตอนเช้ามาตาย สามีเป็นหมอพยายามดูข้อมูลว่าอะไรเกิดขึ้น ปรากฏว่าไปซื้อบราวนี่ใส่กัญชามาแบ่งกันกินคนละครึ่ง ภรรยาตาย เพราะฉะนั้นวันนี้ระบบการควบคุมเราไม่ค่อยเป็นระบบในทุกเรื่อง ใครที่เป็นหน่วยงานไหนต้องชัดเจน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนโดยเฉพาะสาธารณสุข

ตนมั่นใจว่า วันนี้พวกเราทุกคนจะมีความสามัคคีกัน และตนพ้นบ่วงแล้วจะแวะไปเยี่ยมท่านทั้งหลาย ไปทุกจังหวัด แวะไปเยี่ยมไปให้คำปรึกษา-คำแนะนำ มีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ

วันนี้ไม่ใช่ไม่รู้จะบรรยายเรื่องอะไร เพราะพูดมาเยอะแล้วขออย่างเดียวว่าอยากจะแชร์ว่า 51 ปีที่แล้ว ตนมีบรรยากาศเหมือนวันนี้ และวันนั้นตนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่โดยตรงต่อการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และตอนวันแต่งงานของตน หลังจากรัฐบาลหมดสภาพยุบสภาไปแล้ว ปรากฏว่างานแต่งงานของตนมีแต่ สส. มีแขกประมาณ 1,000 คน เป็น สส.นักการเมือง 800-900 คน

“ผมอยู่มาจนเป็นปู่แล้ว หวังว่าจะช่วยเป็นกำลังใจให้พวกท่านทุกคน มีผมอยู่ที่นี่ อย่าว้าเหว่ มีผมอยู่ที่นี่อยากปรึกษาแวะมาหา อยากมากินข้าวด้วยแวะมา เพื่อให้พวกเราทำงานได้อย่างสบายใจ แล้วไม่ต้องไปตกใจกับคะแนนเสียงที่หายไป มันหายไปได้ก็กลับมาได้ หวังว่าทุกท่านคงจะมีกำลังใจ และมีผมอยู่ทั้งคน ได้นายกฯ อิ๊งค์แถมพ่อนายกอิ๊งค์ไว้ช่วยเป็นที่ปรึกษาก็แล้วกัน”.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img