กรมชลประทาน ยังเร่งระบายน้ำป้องกันตัวเมืองเพชรบุรี ล่าสุดสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มลดลงแล้ว
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ว่า ปัจจุบัน (13 ต.ค.63) อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำ 361 ล้าน ลบ.ม.(50% ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบายน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ 44 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 30 ลูก บาศก์เมตรต่อวินาที จำเป็นต้องระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ส่วนที่อ่างเก็บน้ำห้วยผาก มีปริมาณน้ำ 21 ล้าน ลบ.ม. (77 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบาย
ทั้งนี้ ปริมาณจากอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ จะไหลไปรวมกับปริมาณน้ำท่าที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ ก่อนจะไหลไปรวมกับแม่น้ำเพชรบุรีเข้าสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมการระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ที่จะไหลลงไปสู่ตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรีตามลำดับ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชรลงแม่น้ำเข้าสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 ระบายน้ำไปยังคลองระบายน้ำ D.9 พร้อมกับเพิ่มการระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำอีก 3 สาย รวมปริมาณน้ำที่ผันผ่านระบบชลประทานทั้งสิ้น 68 ลบ.ม./วินาที
ด้านเขื่อนเพชรปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 51 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มลดลง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ที่สถานี B.15 ในเขตเทศ บาลเมืองเพชรบุรี ต่ำกว่าตลิ่ง 1.06 เมตร(ตลิ่งสูง 5.40 เมตร) ระ ดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สถานการณ์น้ำโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ สำนักงานชลประ ทานที่14 ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้ว 24 เครื่อง สำรองอีก 11 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำแล้ว 18 เครื่อง สำรองอีก 42 เครื่อง พร้อมจัดเตรียมรถแบคโฮ 5 คัน และรถเครนยกอีก 1 คัน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรืออีกจำ นวน 20 ลำ โดยติดตั้งพร้อมเดินเครื่องแล้วที่บริเวณสะพานวัดคุ้งตำ หนัก 10 ลำ และสำรองอีก 10 ลำ เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชนได้ตลอดเวลา