ปฎิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นไปอย่างรวบรัด หลังจากที่ ’’บิ๊กตู่’’ ประกาศฯเอาผิดขั้นเด็ดขาดกรณีม็อบขวางขบวนเสด็จ หมิ่นสถาบัน-บ่อนทำลายชาติ
วันที่ 14 ต.ค.
22.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งการและมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่ขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และผู้ที่กระทำอื่นใดในลักษณะที่เป็นการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดโดยไม่ละเว้น และถือว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยไม่สงบ รวมถึงเป็นบ่อนทำลายการบริหารราชการแผ่นดินและความสงบสุขของประชาชน
วันที่ 15 ต.ค.
04.00 น. นายกรัฐมนตรี ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ออกคำสั่งแต่งตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
04.30 น. ตำรวจปราบจลาจลเข้าประกาศเรื่องการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพ โดยห้ามมีการชุมนุม จึงขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมและออกจากพื้นที่ทั้งหมด
04.40 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่ม ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจควบคุมฝูงชน เคลื่อนกำลังพลพร้อมรถน้ำแรงดันสูงและรถเครื่องขยายเสียงออกไปประจำจุดที่มีการชุมนุมรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางผู้ชุมนุมได้พยายามส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาปรากฏว่าไม่เป็นผล ขณะที่การ์ดมวลชนได้นำถังขยะและรั้วหนามหีบเพลงมาตั้งกันตำรวจไว้อีกชั้น โดยบางส่วนได้ขว้างปาขวดน้ำและขวดแก้วเพื่อยับยั้งการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เกิดการปะทะกันเล็กน้อยมีผู้ชุมนุมบางส่วนถูกจับกุม และในที่สุดตำรวจสามารถทลายเครื่องกีดกั้นได้สำเร็จ เข้าจับกุม 3 แกนนำ ประกอบด้วย 1.นายอานนท์ นำภา 2.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ3.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง
05.00 น.เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่เรียร้อยและเปิดให้เจ้าหน้าที่กทม.เข้าทำความสะอาด