“ขุนคลังพิชัย” ยังช็อก!!! แต่คุยโอ่ มั่นใจไทยยังเจรจาลดภาษีได้ หลังสหรัฐฯขยับเส้นตายให้ถึง 1 ส.ค.นี้ แย้มข้อเสนอไทย ลดภาษีนำเข้าให้กับสินค้าสหรัฐฯ 90% ของสินค้าที่นำเข้ามา มีบางรายการที่ภาษีเป็น “ศูนย์” แต่ก็มีอยู่ประมาณ 10% ที่ให้ไม้ได้
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ยอมรับว่า มีช็อกบ้าง ช็อกนิดหน่อย แต่เราเลยจุดนี้มาแล้ว คาดว่าการยื่นจดหมายเก็บภาษี 36% นั้นเป็นเรื่องเวลาของ ทั้งฝั่งไทยและสหรัฐฯ เพราะใกล้จะถึงเดดไลน์ 9 ก.ค.68 ตามที่สหรัฐฯกำหนด จดหมายจึงออกมาก่อน ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอใหม่ที่ไทยส่งไปล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
“สหรัฐฯหวังให้การเจรจามีความเข้มข้นขึ้น สหรัฐฯจึงได้ส่งจดหมายไปประเทศต่าง ๆ ตามที่เคยประกาศออกไป อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าสหรัฐฯจะประกาศลดภาษีไทยลงมาต่ำกว่า 36% แน่นอน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาที่เหลือจากนี้เจรจาให้ทันก่อนเดดไลน์ 1 ส.ค.68 ซึ่งเท่ากับว่า ยังมีเวลาในการเจรจาอีก 20 วัน โดยคาดว่า ข้อเสนอเก่าที่ไทยยื่นไป สหรัฐฯอาจจะสรุปยังไม่เสร็จ ดังนั้นคาดว่าสหรัฐฯอาจจะนำข้อเสนอเก่าของไทย รวมกับข้อเสนอใหม่ แล้วรวมพิจารณาทีเดียว ซึ่งอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของภาษีที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บกับไทยให้น้อยลง”นายพิชัย กล่าวและว่า เมื่อคืน (7 ก.ค.) ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของไทยประจำสหรัฐฯ ไปติดคงามคืบหน้าของข้อเสนอใหม่ที่ไทยเสนอไป โดยทางสหรัฐฯระบุว่า กำลังเร่งดูข้อเสนอไทยอยู่ เพราะหลายประเทศก็อยู่ในขั้นตอนของการเจรจาการค้าอยู่
นายพิชัย กล่าวต่อว่า การปรับปรุงข้อเสนอล่าสุดนั้น เราได้ดำเนินการจากที่เราได้มีการเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้ากับสหรัฐฯ (USTR) และได้นำข้อเสนอมาปรับปรุงใหม่ ดังนั้นสิ่งที่สหรัฐฯจะดู คือดูจากการเปลี่ยนแปลงที่เขาได้ให้ข้อสังเกต สำหรับข้อเสนอที่ไทยให้สหรัฐฯไป ก็ไม่น้อย ซึ่งถือว่าสูงทีเดียว โดยเราลดภาษีนำเข้าให้กับสินค้าสหรัฐฯ 90% ของสินค้าที่นำเข้ามาที่ไทย และมีบางรายการที่ภาษีนั้น เป็นศูนย์ แต่ก็มีอยู่ประมาณ 10% ที่เราให้ไม้ได้ เพราะต้องดูแลผู้ประกอบการในประเทศ และต้องพิจารณามาตรการภาษีไม่ให้กระทบกับสินค้าประเทศอื่นที่ไทยทำ FTA ไปแล้วที่เรามีตลาดอยู่เช่นกัน
นายพิชัย ยังกล่าวว่า ในระยะต่อไป ไทยต้องมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกมาก จะมีปัญหา ซึ่งไทยพึ่งพาการส่งออกมาก และพึ่งพาตลาดที่มีการกระจุกตัว ขณะเดียวกันเราจะต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศให้มากขึ้น สร้างความแข็งแกร่งให้เกษตรกรรม และที่สำคัญเครื่องจักรทางเศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งที่ไทยเหลืออยู่คือการท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องมีการปรับทัพใหม่ขนาดใหญ่ เช่น การสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้น











