นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่สำนักงาน ปปง. ยอมรับรัฐบาลยุคนี้เผชิญแรงกดดันสูงจากทั้งสังคมและประชาคมโลก ปมอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ–สแกมเมอร์ชุกชุม ย้ำหากจัดการไม่เด็ดขาดจะถูกตราหน้าว่าเป็นรัฐบาลไร้ผลงาน พร้อมสั่ง ปปง. เดินหน้าปราบการฟอกเงินเต็มที่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ห้องประชุม 1201 ชั้น 12 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. กล่าวรายงานว่า ในรอบระยะเวลาที่ผ่านมา ปปง. ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกว่า 29,000 ล้านบาท จากคดีมากกว่า 100 คดี โดยเฉพาะการปราบ “บัญชีม้า” ซึ่งสามารถอายัดบัญชีได้แล้วกว่า 800,000 บัญชี รวมมูลค่าเงินค้างในบัญชีกว่า 3,000 ล้านบาท เตรียมคืนผู้เสียหายตามขั้นตอน พร้อมทั้งระบุว่า ปปง. จะพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยนำระบบ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ธุรกรรมที่ซับซ้อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า งานของ ปปง. มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่อาชญากรรมทางการเงินและเทคโนโลยีระบาดหนัก ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพราะเป็น “เงินไม่สะอาด ไม่ใช่แค่เทา แต่ดำ” แม้จะฟอกอย่างไรก็ยังเป็นเงินเทาอยู่ดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า รัฐบาลอยู่ภายใต้แรงกดดันสูงจากทั้งสังคมและประชาคมนานาชาติในการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หากไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดจะถูกมองว่าเป็นรัฐบาลไร้ผลงาน พร้อมกำชับให้ ปปง. ทำงานเชิงรุกและใช้ทุกกลไกที่มีในการสกัดเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ
จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมอบนโยบายเบื้องต้นเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อเข้าสู่การประชุมภายในตามระเบียบวาระต่อไป.











