“ขัตติยา” เผยกมธ.แก้รธน.ยังไม่เคาะโมเดล ส.ส.ร. เหตุต้องทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ลั่นตั้งใจหาจุดลงตัวเพื่อไม่ให้การแก้รัฐธรรมนูญสะดุด ยังไม่มีกำหนดเปิดวิสามัญชัดเจน
วันที่ 3 พ.ย.2568 น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ… รัฐสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีการพูดคุยกันถึงคอนเซปต์ที่เห็นไปในทำนองเดียวกันแล้ว ก็จะสามารถนำคอนเซปต์นี้ไปลงในรายมาตราได้ เช่น เรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่บอกว่าไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรงได้ คำว่าโดยตรงจะสามารถทำอะไรได้มากน้อยเพียงใด หลังจากนั้นจึงมีการมาพูดคุยกันว่าจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และมีกมธ.ยกร่าง หรือสุดท้ายแล้วจะมีเพียงแค่กมธ.ยกร่างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อไม่สามารถให้ประชาชนเลือกผู้ยกร่างโดยตรงได้ ซึ่งในที่ประชุมก็มีหลายความเห็น และยังมีเรื่องของการที่จะเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนที่จะมาอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญ จะใช้รูปแบบใดจะเปิดให้มีการตั้งกลุ่มบุคคลเพื่อไปรับฟังความคิดเห็น หรือจะใช้ช่องทางรัฐสภา เช่น การใช้กมธ.สามัญ หรือจะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อไปรับฟังความคิดเห็น
เมื่อถามว่า เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องโมเดล ส.ส.ร. และกรรมาธิการยกร่างฯ ใช่หรือไม่ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ด้วยความที่กมธ.มีประมาณ 30 กว่าคน จึงใช้วิธีที่ให้แต่ละพรรค และสว. เลือกผู้แทนมาหนึ่งคนขึ้นมา แล้วเข้าไปเป็นคณะทำงานเพื่อไปพูดคุยถึงคอนเซปต์ให้ตกผลึกกันมาระดับหนึ่งแล้ว จึงมาคุยกันในกมธ.ชุดใหญ่จะได้ง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า เสียงแตกเรื่องที่มา ส.ส.ร. จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องพยายามหาจุดที่ทุกฝ่ายยอมรับ เพราะมีการพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสียกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าทุกคนห่วงว่า ส.ส.ร. หากเราให้ประชาชนมามีส่วนร่วมแม้ว่าจะเป็นอีกชั้นหนึ่งคือ สมมติว่าประชาชนเลือกมาแล้ว แล้วมาตั้งอีกครั้ง
“ทุกคนก็ห่วงว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงพยายามหาทางที่จะไม่ให้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ได้มากที่สุด เราจึงมีการพูดคุยกันว่าแต่ละโมเดลให้ไปร่างมาเพื่อใส่ไว้ในมาตรา ให้ไปลองทำมาดูก่อน แม้ว่าสุดท้ายแล้วที่ประชุมจะมีมติเลือกแบบใดก็ตาม อย่างน้อยก็มีเตรียมความพร้อมไว้”น.ส.ขัตติยา กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่มีคนไปร้องว่าการที่สมาชิกสภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา อาจจะเป็นการล้มล้างการปกครอง มองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตจะสะดุดหรือไม่ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ไม่ ตนคิดว่าเราพยายามทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดมากที่สุด อะไรที่เสี่ยงว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัย เราก็เลี่ยง ในส่วนนี้เราไม่กลัว เพราะทุกคนที่เข้ามาอยู่ใน กมธ.มีความตั้งใจ และอะไรที่ทุกคนคิดว่าเสี่ยงในจุดไหนก็ให้รีบแจ้งกมธ.ก่อน ก็น่าจะดี เราจะได้อธิบายและนำข้อนั้นมาเป็นจุดสังเกตการที่เราจะตัดสินใจและลงมติในการที่จะทำแต่ละมาตรา
เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ได้เมื่อไหร่ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า มีการคุยกันอยู่ว่าเราทำกันมาหลายรูปแบบ และทางสภาฯ ก็ทำป็อปอัพมาให้ว่าหากเราสามารถพิจารณาเสร็จได้ภายในกี่ครั้งของ กมธ. เราจึงจะสามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญตอนไหนได้บ้าง ซึ่งเรานำทุกอย่างมาประเมินสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ก็มีการท้วงติงจาก สว.ว่าต้องใช้เสียง สว.ในการโหวตด้วย ฉะนั้น เขาจึงต้องใช้เวลาในการที่จะไปอธิบายให้ สว.ทั้ง 200 คนเข้าใจถึงเนื้อหาของการแก้ไข เขาจึงกังวลว่าหากเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงพฤศจิกายนนั้น จะทำให้เขาไปถ่ายทอดไม่ทัน
“หากเราต้องประชุมให้เสร็จทุกนัด ภายในวันที่ 15 พ.ย. กว่าจะทำรายงานเสร็จ เขาก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เร่งรัดเกินไป เนื่องจากเป็นกฎหมายที่สำคัญจึงขอผ่อนออกไปได้หรือไม่ แต่ในส่วนนี้เราก็พยายามทำให้ทันกรอบเวลารัฐบาลและสภาฯ ชุดนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ทราบว่าจะต้องมีการยุบสภาฯ ในวันที่ 31 ม.ค.2569 เราจึงใช้เงื่อนไขนี้มาประเมินการทำงานว่าควรที่จะเป็นกรอบเวลาใด แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีเวลาที่แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงใด”น.ส.ขัตติยา กล่าว











