รมว.ยุติธรรม เผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังสัญชาติจีน พบเจ้าหน้าที่ 4 รายกระทำผิดวินัยร้ายแรง ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะเจ้าหน้าที่อีก 14 รายอยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมประสานดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินและขยายผลทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่อาคารกรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ กรุงเทพฯ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีสงฆ์ เนื่องในงาน “วันคล้ายวันสถาปนากรมบังคับคดี ครบรอบ 51 ปี” ก่อนเปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังสัญชาติจีน หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดกรอบ 5 วันให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นำโดย นายไพฑูรย์ มงคลหัตถี ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครบ 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รุทธพล เปิดเผยภายหลังประชุมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรมราชทัณฑ์ ว่า ได้หารือร่วมกับนายไพฑูรย์ และกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรับรายงานความคืบหน้า พร้อมทั้งหารือกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบการกระทำผิดร้ายแรงด้านวินัยของเจ้าหน้าที่ 4 ราย โดยเป็น ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง 1 ราย และเจ้าหน้าที่อีก 3 รายที่รับผิดชอบเรือนจำฯ ซึ่งรับรู้การกระทำความผิดแต่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง 4 รายดังกล่าวอยู่ในจำนวน 20 รายชื่อที่เคยถูกย้ายไปเรือนจำต่างจังหวัดก่อนหน้านี้
“คณะทำงานจะรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด ก่อนส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามมาตรา 157 ในฐานะเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” พล.ต.ท.รุทธพล กล่าว
สำหรับเจ้าหน้าที่อีก 14 รายที่เหลือ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากบางคนอาจอยู่ในสภาวะจำยอมตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่บางส่วนส่งเบาะแสเป็นจดหมายน้อยให้รัฐมนตรีตรวจสอบ ขณะที่บางคนอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความผิดเล็กน้อยตามลำดับชั้น
พล.ต.ท.รุทธพล ยังกล่าวถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้บังคับการเรือนจำและผู้เกี่ยวข้องว่า ดำเนินการไปได้ค่อนข้างมาก และขยายผลไปถึงเครือญาติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะสรุปรายงานอีกครั้ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดสำนวนการสอบสวนได้ รวมทั้งกรณีข่าวลือเรื่องหญิงนางแบบชาวจีนได้รับค่าจ้าง 5 แสนบาท ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนประเด็นภาพถ่ายครอบครัวชินวัตร ภายหลังการเยี่ยมญาติใกล้ชิดที่เรือนจำกลางคลองเปรม รัฐมนตรียุติธรรมชี้แจงว่า เป็นภาพถ่ายจริง เกิดขึ้นใน โครงการเยี่ยมญาติใกล้ชิด ซึ่งดำเนินมานานกว่า 10 ปี และเป็นภาพทั่วไป
ทั้งนี้ ล่าสุดจากเหตุการณ์ฉาวห้องเชือดใต้บันไดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 6 ราย ได้แก่
- ผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
- เลขานุการผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
- ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง
4–6. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อีก 3 ราย



















