“โสภณ” เผยรัฐบาลกำหนดเยียวยาผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้ รายละ 2 ล้านบาท ชี้เหตุการณ์รุนแรงเทียบเท่าสึนามิ เปิดสายด่วน–บัญชีรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.68 นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดต่อการดูแลและเยียวยาประชาชน พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่และทันท่วงที
นายโสภณระบุว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการเยียวยาหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยที่ประชุมเห็นชอบกำหนดอัตราเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ รายละ 2 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 อันเป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อุทกภัยครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เปรียบได้กับเหตุการณ์สึนามิ รัฐบาลจึงเห็นชอบให้มีการเยียวยาเป็นกรณีพิเศษเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน
นายโสภณกล่าวต่อว่า รัฐบาลยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานหลัก ผ่านสายด่วน 1782 และ 1111 รวมถึงเป็นศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีองค์กร ภาคเอกชน และประชาชนจากทุกภาคส่วนร่วมบริจาคจำนวนมาก ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดรับบริจาคอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เงินทุกบาทถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์
ผู้ประสงค์จะร่วมบริจาคสามารถโอนเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 โดยเงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
นายโสภณกล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้รัฐบาลจะมีงบประมาณเพียงพอในการดูแลประชาชน แต่พลังน้ำใจของคนไทยคือสิ่งสำคัญ รัฐบาลยินดีทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้ที่ต้องการบริจาค เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และพี่น้องร่วมชาติเดียวกัน”



















