โฆษก ศป.กฉ. เผยรัฐบาลพร้อมเข้าสู่โหมดฟื้นฟูเต็มรูปแบบ ทั้งการเยียวยาผู้ประสบภัย การลำเลียงสิ่งของ การเร่งสูบน้ำ ซ่อมถนน ฟื้นฟูไฟฟ้า–ประปา และเพิ่มสิทธิสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนภาคใต้กลับมาใช้ชีวิตได้โดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำข่าวพายุโคโตะไม่กระทบไทย.
วันที่ 28 พ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมเข้าสู่ “โหมดการฟื้นฟู” อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการเยียวยา ดูแลประชาชนในบ้านและศูนย์พักพิง รวมถึงการบริหารจัดการสิ่งของบริจาคที่มีผู้ร่วมสมทบเป็นจำนวนมาก
น.ส.รัชดา เปิดเผยว่า การขนส่งสิ่งของจำเป็นจากทุกภาคส่วนยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางเครื่องบิน C-130 เครื่องบินแอร์บัส เฮลิคอปเตอร์จากหน่วยงานรัฐ ตลอดจนความร่วมมือจากภาคเอกชน อาทิ สายการบินแอร์เอเชีย และบริษัทขนส่งพัสดุที่อาสาเป็นตัวกลางส่งต่อของบริจาคไปยังพื้นที่ประสบภัย โดยรัฐบาลได้อำนวยความสะดวกด้านค่าบริการสนามบิน เพื่อขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมกันช่วยเหลือในครั้งนี้
ด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ยังอยู่ในบ้าน โฆษก ศป.กฉ. ยืนยันว่า การกระจายอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยมีการนำเครื่องสูบน้ำจำนวน 280 เครื่องประจำใน อ.หาดใหญ่ และกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเร่งลดระดับน้ำ พร้อมใช้เทคโนโลยีตรวจสอบสภาพพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อช่วยให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพที่สุด
ในส่วนของการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคม กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ปัจจุบันมีถนนที่ยังผ่านไม่ได้ 60 เส้นทาง ขณะที่เปิดใช้ได้แล้ว 337 เส้นทาง และอยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมต่อเนื่อง ส่วนรถโดยสาร บขส. เปิดให้บริการได้แล้ว 9 เส้นทางหลัก ทั้งกรุงเทพฯ–สงขลา, กรุงเทพฯ–หาดใหญ่, กรุงเทพฯ–ยะลา, กรุงเทพฯ–สุไหงโก-ลก, กรุงเทพฯ–เบตง, กรุงเทพฯ–นาทวี, กรุงเทพฯ–สตูล, กรุงเทพฯ–ด่านนอก และกรุงเทพฯ–ปาดังเบซาร์ ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ–ตรัง–สตูล และกรุงเทพฯ–ปัตตานี คาดว่าจะเปิดบริการได้ในเร็ววัน ขณะที่การเดินรถไฟกลับมาเปิดให้บริการ 12 จุด แต่ยังมีอีก 27 จุดที่จำเป็นต้องเร่งฟื้นฟู
ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน น.ส.รัชดา กล่าวว่า การประปาได้ติดตั้งเครื่องผลิตน้ำและส่งรถน้ำดื่มจำนวน 16 คัน เข้าช่วยเหลือ ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามารถจ่ายไฟได้แล้วในหลายพื้นที่ โดยจำนวนครัวเรือนที่ยังได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับลดลงจาก 700,000 ครัวเรือน เหลือเพียง 160,000 ครัวเรือน และคาดว่าจะกลับมาจ่ายไฟได้ครบภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้
ด้านสัญญาณโทรศัพท์ กสทช. ประสานผู้ให้บริการเครือข่ายทุกรายให้ขยายเวลาการใช้งานระบบเติมเงิน 30 วัน พร้อมขยายเวลาชำระ



















