“พัฒนา พร้อมพัฒน์” แจงดราม่าอุทกภัยหาดใหญ่ หลังถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โต้ตัวเลขผู้เสียชีวิต ชี้ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขคือข้อเท็จจริง ตรวจสอบได้จากใบมรณะบัตร–กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ซัดเว็บไซต์แจ้งตายทำอะไรไม่ได้เพราะหลักฐานต้องออกโดยกรมการปกครอง ย้ำยอดผู้เสียชีวิตไม่ถึงหลักพัน พร้อมเผยตัวเลขล่าสุด 140 ราย ยังรอผลชันสูตรภายใน 1–2 วัน
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาโต้แย้งตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยยืนยันว่ามีจำนวน “หลักพันคน” ว่า หากจะเชื่อก็เป็นสิทธิ์ แต่ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขคือข้อเท็จจริงและสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
นายพัฒนาอธิบายว่า จำนวน “ตู้เก็บร่างผู้เสียชีวิต” ที่เห็นอาจทำให้เข้าใจผิด เพราะมีการแยกเก็บระหว่างร่างที่รับเข้ามาใหม่ กับร่างที่ผ่านการชันสูตรแล้ว จึงดูเหมือนจำนวนมาก แต่ทุกกรณีสามารถพิสูจน์ได้จากใบมรณะบัตร และญาติผู้เสียชีวิตสามารถยืนยันได้ จึงไม่รู้สึกกังวลต่อข้อกล่าวหาใด ๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเว็บไซต์ Hakparn.com เพื่อให้ญาติเข้าลงทะเบียนแจ้งผู้เสียชีวิต นายพัฒนา ระบุว่า เว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ เพราะเอกสารยืนยันการเสียชีวิตต้องออกโดยกรมการปกครอง และการชี้ชัดสาเหตุการเสียชีวิตต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายและนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดสายด่วนให้ประชาชนแจ้งคนหายหรือผู้เสียชีวิตอยู่แล้ว
นายพัฒนาย้ำว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 140 ราย ตามข้อมูลวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งตัวเลขผู้สูญหายยังไม่มีการแจ้งเข้ามา ส่วนตัวเลขในพื้นที่อื่น ๆ นอกเหนือจากความรับผิดชอบของกระทรวง ตนไม่สามารถตอบได้
เมื่อถามว่า หากรวมผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายในทุกจังหวัดภาคใต้จะถึงหลักพันหรือไม่ นายพัฒนาประเมินว่า “ไม่น่าถึง” โดยสุดท้ายต้องยึดใบมรณะบัตรเป็นตัวชี้ขาด พร้อมปฏิเสธที่จะวิจารณ์ถึงเจตนาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว
สำหรับตัวเลขที่ยังไม่ถึงหลักพันนั้น นายพัฒนาอธิบายว่า เป็นผลจากการแยกสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งจากน้ำท่วมและสาเหตุอื่น ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการชันสูตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1–2 วัน โดยย้ำว่าแพทย์ทุกโรงพยาบาลในสังกัดมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มกำลัง และในช่วงเกิดเหตุทั้งแพทย์และพยาบาลก็เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ตนเองก็แทบไม่ได้นอน
นอกจากนี้ กระทรวงยังได้ส่งทีมสุขภาพจิตลงพื้นที่ดูแลประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมจัดทีมแพทย์ติดตามโรคที่มักเกิดหลังน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู เพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้าง.



















