อนุทิน เผยทิศทางความมั่นคงปีหน้า เน้นสกัดอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด–อาชญากรรมออนไลน์ แก้ปัญหาชายแดนใต้ เดินหน้าปราบหนี้นอกระบบ ป้องกันข่าวปลอม คุมลักลอบสินค้าเกษตร พร้อมเสริมภาพลักษณ์องค์กรให้โปร่งใสรับภัยพิบัติยุคใหม่
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 3 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2569 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช. เข้าร่วมด้วย
โดยนายกฯ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยมีเป้าหมาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและจัดการกับภัยคุกคามทุกรูปแบบที่จะมีผลกระทบซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของชาติ ตนได้หารือกับทางผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผอ.กอ.รมน.เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปี 2569 ให้มุ่งสู่ความมั่นคง ที่ยั่งยืนทันสมัยและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเปลี่ยนการทำงานเป็นเชิงรุกแก้ปัญหา มุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อให้เห็นผลชัดเจนและตอบสนองประชาชนได้ทุกสถานการณ์เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีแนวทางการปฎิบัติงานและความพร้อมของการป้องกันในการแก้ปัญหาให้บรรลุผลในปี 2569 ตนจึงขอให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินงานดังนี้ 1.การป้องกันภัยคุกคามเร่งด่วนให้มุ่งยับยั้งเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการสกัดกั้น อาชญากรข้ามชาติและปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน พร้อมทั้งสนับสนุนการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นการทำงานเชิงลึกในพื้นที่และใช้ในการสร้างสันติสุขลดเหตุรุนแรงลดจำนวนความเสี่ยงและสนับสนุนการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์ อาชญากรรมออนไลน์ และการก่อการร้ายข้ามชาติ โดยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนและสร้างเครือข่ายการแจ้งเบาะแสเข้าสู่ทุกพื้นที่
นายกฯ กล่าวต่อว่า รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยการประสานกับหน่วยงานหลักอย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารของกอ.รมน.ต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านข่าวกรองให้รู้จริง รู้เร็วและแม่นยำ พร้อมเสริมมาตรการสกัดกั้นข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม 2.การสนับสนุนงานรัฐบาลและการดูแลประชาชนมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตควบคู่กับการแก้ปัญหาความมั่นคงเชิงพื้นที่ให้ความสำคัญกับการแก้แก้ไขปัญหาที่มีอยู่จริง ทั้งการค้ามนุษย์ และสถานะภาพของบุคคลไร้สัญชาติให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ชุมชนเป้าหมายได้รับงบประมาณการแก้ปัญหาในพื้นที่ยึดหลักการจัดลำดับของการแก้ไขปัญหาเสริมความพร้อมด้านพลังงานและความมั่นคงทางอาหารควบคู่กับการป้องกันการลักลอบนำเข้า และส่งออกสินค้าการเกษตร ปศุสัตว์และประมงที่ผิดกฎหมาย
นายกฯกล่าวอีกว่า รวมถึงความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะ ที่ไม่ปกติหรือมีภัยพิบัติที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงโดยรวมในมิติของการบรรเทาสาธารณภัยและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ขอให้กอ.รมน.ทำงานเชิงรุกทั้งการป้องกันและการบรรเทาผลกระทบหาความร่วมมือจากท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาPM 2.5 ไฟป่าและแหล่งน้ำปนเปื้อนสารเคมี และ3.การปรับปรุงองค์กรและเสริมภาพลักษณ์ให้โปร่งใสและเป็นที่ชื่นชมของประชาชน โดยเราจะเริ่มจากการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งในด้านเทคโนโลยีการใช้ข้อมูลข่าวสารและทักษะการปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน รวมทั้งการเสริมสร้างความโปร่งใสขององค์กร โดยทุกภารกิจต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบเพื่อให้การนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมผลลัพธ์ที่ประชาชนสามารถสัมผัสได้จริง ซึ่งทุกท่านในที่นี้จะได้เป็นผู้นำร่วมกันพาประเทศไทยของพวกเราก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป ภายหลังการแถลงฯ นายกฯเยี่ยมชมนิทรรศการ.



















