นายกฯ เผยได้สั่งทุกจังหวัดเตรียมรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และเข้มงวดยับยั้งการเผาเช่นปีที่ผ่านมา ย้ำความร่วมมือกับเพื่อนบ้านยังเดินหน้า พร้อมระบุยังเป็นรัฐบาลอำนาจเต็ม ขณะให้สัมภาษณ์มีอาการตาพร่าจากหยอดยาขยายม่านตา ขอผู้สื่อข่าวเข้าใจ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมารุนแรงว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่ภาคเหนือลงมาเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ โดยตนสั่งการให้เข้มงวดเรื่องการเผาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยลดปริมาณฝุ่นได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมดำเนินคดีกับผู้ลักลอบเผาซากพืชผลทางการเกษตรทุกราย
จากนั้น นายอนุทินได้ชี้ไปที่นายสุชาติ ชุมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกล่าวว่า ได้กำชับให้เร่งดูแลเรื่องนี้แล้ว โดยนายสุชาติยิ้มรับและตอบว่า “เป็นภาระหน้าที่ผม”
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องกลับมาใช้มาตรการเวิร์คฟอร์มโฮมหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ยังมีมาตรการนี้อยู่ โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับใช้ของภาคเอกชน ส่วนภาครัฐหากมีความจำเป็นก็สามารถทำได้ ไม่ได้มีข้อห้าม
ในเรื่องการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน นายอนุทินกล่าวว่า ทุกเวทีประชุมอาเซียนหรือประชุมสำคัญต่าง ๆ ไทยได้หยิบยกประเด็นนี้หารือมาตลอด แต่สิ่งสำคัญคือการควบคุมภายในประเทศ ซึ่งในปี 2568 ผู้ว่าฯ ในภาคเหนือทำงานเข้มแข็งจนจุดความร้อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และในเดือนมกราคม 2569 ก็จะเดินหน้าร่วมมือกันต่อไป
เมื่อถามว่ายังถือเป็นรัฐบาลอำนาจเต็มหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ในส่วนของการบริหารราชการแผ่นดินถือว่าเป็นอำนาจเต็มตามปกติ
ส่วนคำถามว่าจะยุบสภาก่อนกำหนดหรือไม่ นายอนุทินย้ำว่า “บอกแล้วว่าไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. 69”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างให้สัมภาษณ์ นายกฯ มีอาการหรี่ตาหลายครั้ง ก่อนยกมือจับที่ตาและกล่าวขอโทษว่า เพิ่งไปหาหมอตามาและต้องหยอดยาขยายม่านตา ทำให้มองเห็นเป็นสีขาวไปเกือบทั้งหมดในขณะนั้น.



















